เปิดใจ ‘Haier’ ทำไมเลือกไทย ตั้งโรงงานอลังการระดับหมื่นล้าน!
คำต่อคำ สัมภาษณ์พิเศษผู้บริหาร "Haier" กับการตัดสินใจครั้งใหญ่ ตั้งโรงงานเสริมทัพไลน์อัปเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น ลงทุนกว่าหมื่นล้านบาทในประเทศไทย
KEY
POINTS
- Haier เดินหน้าครั้งใหญ่ลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งแรกในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 324,000 ตร.ม. ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) จ.ชลบุรี
- กู้ เหวินฮ่าย ประธานกรรมการ บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า บริษัท Haier ไม่ได้เข้ามาในประเทศไทยเพียงเพื่อการผลิตและการขายเท่านั้น แต่นำเทคนิค เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาในประเทศไทยด้วย เป็นการยกระดับของพื้นที่ไปด้วย
- จากการเรียนรู้พฤติกรรมและความต้องการของคนในประเทศไทย ทำให้ยอดขายและผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Haier เพิ่มมากขึ้น สะท้อนว่าผู้บริโภคให้การยอมรับและเชื่อมั่นแบรนด์จีนมากขึ้นเช่นกัน
จากการที่ Haier เดินหน้าครั้งใหญ่ลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งแรกในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 324,000 ตร.ม. ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) จ.ชลบุรี ส่งผลให้ประเทศไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางการผลิตที่ครบวงจร และก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผลิตและจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกทั่วโลกในอนาคต
และนี่คือคำต่อคำจากสัมภาษณ์พิเศษ กู้ เหวินฮ่าย ประธานกรรมการ บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ว่า Haier เห็นอะไรในไทย ทำไมเลือกทุ่มเงินลงทุนกว่าหมื่นล้านบนแผ่นดินไทย
กู้ เหวินฮ่าย ประธานกรรมการ บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ทำไม Haier เลือกประเทศไทย
“Haier Group ของเรามีการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1984 และเป็นหนึ่งในแบรนด์ 500 อันดับแรกของโลกมาต่อเนื่องประมาณ 20 ปี และติดอันดับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ามา 15 ปี ด้วย เราจึงต้องการขยายการผลิตไปทั่วโลก และหนึ่งในนั้นคือประเทศไทย
การพัฒนาบริษัทของเรามีตั้งแต่การสร้างแบรนด์ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ในเรื่องสิ่งแวดล้อม และอีกขั้นคือการพัฒนาสู่โลกาภิวัฒน์ ด้วยการลงทุนข้ามชาติ นี่จึงเป็นโอกาสที่เราลงทุน เรากล้าที่จะเดินออกไป กล้าที่จะเดินเข้าไป และกล้าที่จะเดินขึ้นไป ซึ่งตรงกับที่ Haier ได้เข้ามาที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 2002 ด้วยเหตุนี้เราจึงนำผลิตภัณฑ์ของเรามาผลิตในประเทศไทย แล้วนำความรู้ที่ได้ศึกษาถึงความต้องการและพฤติกรรมจากคนในพื้นที่จริงๆ
ในปี 2007 เราได้ซื้อกิจการของบริษัท Sanyo แล้วเข้ามาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ส่วนสเตปสุดท้ายคือการเดินขึ้นไป คือในปี 2017 เราได้ทำความเข้าใจความต้องการของคนในพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับคนในพื้นที่อย่างจริงจัง
การที่เราเป็นบริษัทข้ามชาติ เราจึงให้ความสำคัญต่อความเป็นท้องถิ่น รวมถึงการวิจัยและพัฒนาที่มองถึงท้องถิ่นเป็นหลัก ถ้ามองจากมุมนี้ บริษัท Haier ไม่ได้เข้ามาในประเทศไทยเพียงเพื่อการผลิตและการขายเท่านั้น แต่เรานำเทคนิค เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาในประเทศไทยด้วย เป็นการยกระดับของพื้นที่ไปด้วย
ท้ายที่สุดคือเราต้องการให้ Haier ในประเทศไทยเป็นการผลิตโดยคนพื้นที่ ให้เกิดความภาคภูมิใจทั้งคนที่มีส่วนในการผลิตและตัวบริษัทเราเอง”
การลงทุนหมื่นล้านสะท้อนแผนการลงทุนในไทยอย่างไร
“การลงทุนกว่าหมื่นล้านบาทกับโรงงานใหม่ที่เราจะตั้งฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศ เป้าหมายของเราคือการเป็นที่ยอมรับในเรื่องสิ่งแวดล้อมของตลาดประเทศไทยและอาเซียน เป้าหมายต่อไปคือการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน
เพราะที่ผ่านมา มีความเชื่อว่าผู้บริโภคไทยไม่เชื่อมั่นแบรนด์จีน แต่ตั้งแต่ Haier เข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่ยังไม่รู้พฤติกรรมของคนในพื้นที่ จนถึง ณ ปัจจุบันเราผ่านจุดนั้นมาจนกระทั่งเรียนรู้พฤติกรรมและความต้องการของคนในประเทศไทยจนถ่องแท้ ทำให้ยอดขายและผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Haier เพิ่มมากยิ่งขึ้น สะท้อนว่าผู้บริโภคให้การยอมรับและเชื่อมั่นแบรนด์จีนมากขึ้นเช่นกัน”
การเมืองไทยกับ Haier ?
“ไม่ว่าประเทศไทยจะมีการปรับเปลี่ยน แต่เราก็ยังเห็นว่าเศรษฐกิจยังเดินต่อไปได้ ไม่ได้มีผลกระทบมากมาย ถ้ามองจากสถานการณ์ปัจจุบันที่ Haier ลงทุนไปในการสร้างโรงงานใหม่ที่ชลบุรี และเรามีแผนพัฒนาที่จะขยายโรงงานตู้เย็นของเราที่ปราจีนบุรี สองจุดนี้ก็เป็นตัวบ่งชี้แล้วว่า Haier ยังมั่นใจในเศรษฐกิจของไทย”
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ส่งผลกระทบต่อ Haier หรือไม่
“ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในจีนแล้วส่งไปสหรัฐอเมริกาอาจมีผลกระทบ แต่ถ้ามองในมุมความสัมพันธ์ของไทยกับสหรัฐอเมริกา การที่เรามีโรงงานที่ไทยแล้วส่งไปที่สหรัฐอเมริกาก็ยังไม่มีผลกระทบอะไรมาก ถือว่าเป็นโรงงานที่ไทยเป็นโอกาสของเราในอนาคตที่จะพัฒนาต่อไป”
ยอดขายครึ่งปีแรกในไทยเป็นอย่างไร
“ภาพรวมของยอดขายในครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10 เปอร์เซ็นต์ จากผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศภายในบ้านที่เพิ่มมากขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแบรนด์ Haier ถือเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องยอดขายเครื่องปรับอากาศของโลก เนื่องจากเราพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานจริงๆ เช่นการเพิ่มฟีเจอร์การทำความสะอาดตัวเอง การฆ่าเชื้อรา หรือฟีเจอร์ด้าน WiFi เป็นต้น”
ผลิตอะไรบ้างที่ประเทศไทย
“ผลิตภัณฑ์ที่เรามีฐานการผลิตในประเทศไทยหลักๆ จะมีเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น โดยหลักๆ เราจะผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงทั่วโลก เช่น อเมริกาเหนือ หรือตะวันออกกลาง แล้วสัดส่วนที่จำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่งออกทั้งสิ้น 60 เปอร์เซ็นต์
ณ ปัจจุบันในประเทศไทยเรามีโรงงานอยู่ 3 แห่ง ที่แรกคือที่ปราจีนบุรีจะผลิตตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศ อีกโรงงานอยู่ที่ระยองจะผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และอีกโรงงานที่ผลิตเมนบอร์ดโดยเฉพาะ”
Haier เตรียมนวัตกรรมใหม่ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง
“เราไม่ได้มองแค่ความต้องการของลูกค้า คือเราพยายามนำเทคโนโลยีใหม่มาซัพพอร์ตความต้องการของลูกค้าอยู่แล้ว และเราก็มีการอัปเกรด การปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในทุกปีอยู่แล้ว หมายความว่า Haier มีการนำเข้าเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่ตลอด
อย่างในอนาคตเรามีแผนที่จะนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่จะมาผลิตในประเทศไทย เช่น ตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะ 400 ลิตร 500 ลิตร 600 ลิตร รวมถึงการเพิ่มออปชันใหม่ๆ เช่นการทำน้ำแข็งได้เอง ทำนองนี้
ในด้านเทคนิคใหม่ๆ เรามองเรื่องการ Automation มากกว่า การสร้างโรงงานใหม่เราจะทำให้เป็นออโต้มากขึ้น ชาญฉลาดมากขึ้นในทุกๆ กระบวนการ”
Haier มองอย่างไรถึงธุรกิจจีนมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
“ในช่วงแรกเริ่มที่ Haier ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย สิ่งที่เราโฟกัสเป็นอันดับแรกคือเราต้องให้ความเคารพ ต้องทำตามกฎหมายของประเทศไทย สองคือเราต้องเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศไทยเพื่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว และสิ่งที่เราต้องทำต่อไปคือการซัพพอร์ตเศรษฐกิจไทยไปในตัวด้วย”
การเข้ามาของ Haier เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพให้คนไทยอย่างไร
“การเข้ามาของ Haier ทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่มากขึ้น ยกตัวอย่างที่ปราจีนบุรี เพิ่มการจ้างงานได้มากถึง 2,000 กว่าตำแหน่ง อันนี้แค่เฉพาะภาคโรงงาน แต่ถ้ามองใน Supplier ของเราในพื้นที่รอบๆ ก็จะเกิดการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ไปจนถึงบริษัทโลจิสติกด้วย”