เสียบได้ทุกอุปกรณ์ รีวิว ‘Kingston XS1000’ SSD ตัวเล็กกะทัดรัดแต่จัดเก็บจุๆ
รีวิว “Kingston XS1000" SSD แบบพกพา ดีไซน์กะทัดรัด แต่จัดเก็บได้จุมาก พร้อมการเชื่อมต่อที่เร็วแรง ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์
KEY
POINTS
- Kingston XS1000 มีขนาดกะทัดรัดมาก เพียง 32.58 x 13.5 มม. เป็น External SSD ที่มีขนาดพอๆ กับ Flash Drive เลยทีเดียว
- Kingston XS1000 เชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์หลากหลายมาก ทั้ง PC, Mac, แท็บเล็ต, เกมคอนโซล, สมาร์ตทีวี, สมาร์ตโฟนทั้งระบบ Android และ iOS
- Kingston XS1000 มาพร้อมกับสาย USB 3.2 Gen 2 สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว
ถ้า External Harddisk แบบเดิมๆ ยังพกพาไม่สะดวกพอ หรือการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทำได้ไม่หลากหลายและรวดเร็ว Kingston XS1000 จะมาแก้จุดอ่อนนี้
KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะมาเล่าให้ฟังว่าทำไม Kingston XS1000 External SSD ถึงน่าสนใจและเป็นหนึ่งใน External SSD ที่น่าใช้มากรุ่นหนึ่ง
สีแดงแรงฤทธิ์ ตัวเล็กนิดเดียว
จุดเด่นแรกของ "Kingston XS1000" คือขนาดกะทัดรัดมาก เพียง 32.58 x 13.5 มม. เป็น External SSD ที่มีขนาดพอๆ กับ Flash Drive เลยทีเดียว และในรุ่นนี้ยังมีสีแดง เหมือนจะบอกเป็นนัยว่าแรงมากนะ
ด้วยขนาดเล็กจิ๋วจึงมาพร้อมกับน้ำหนักเบามากๆ เพียง 28.7 กรัม ยิ่งตอกย้ำความเป็น SSD แบบพกพาได้อย่างดี
เสียบได้หมด ไม่สนอุปกรณ์อะไร
หลายคนอาจเคยใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลบางชนิดแล้วต้องผิดหวัง เพราะใช้ไม่ได้กับทุกอุปกรณ์ ซึ่งบ่อยครั้งเราจำเป็นจะต้องเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์นั้นๆ โดยตรง เช่น การเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนเพื่อดึงไฟล์ออกมา Backup แต่ทำไม่ได้เพราะต้องผ่านคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ทว่า "Kingston XS1000" เชื่อมต่อได้หมดทุกอุปกรณ์
"Kingston XS1000" เชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์หลากหลายมาก ทั้ง PC, Mac, แท็บเล็ต, เกมคอนโซล, สมาร์ตทีวี, สมาร์ตโฟนทั้งระบบ Android และ iOS ผ่านสาย USB-C to USB-A และมีอะแดปเตอร์ USB-A to USB-C ให้มาด้วย ซึ่งอุปกรณ์ยุคใหม่เป็นพอร์ต USB-C กันเกือบหมดทั้งโลกแล้ว ยกเว้น iPhone 14 และเก่ากว่า นี่คือข้อจำกัดหนึ่งที่เราลองแก้ปัญหาได้ด้วยการใช้สาย Lightning to USB-C มาแทนสายเคเบิลที่ให้มาในชุดของ Kingston XS1000 External SSD แต่ก็ใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะยังต้องเชื่อมต่อผ่านคอมพิวเตอร์อีกทีหนึ่ง
นอกจากสีจะแดง ยังแรงมาก
"Kingston XS1000" มาพร้อมกับสาย USB 3.2 Gen 2 สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว และรองรับพอร์ตรุ่นก่อนหน้าอย่าง USB 3.2 Gen 1 เพื่อให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์รุ่นเก่าได้อย่างสะดวก
ตามสเปก External SSD เครื่องนี้มีความเร็วในการอ่านและเขียนสูงสุดถึง 1,050 MB/s และ 1,000 MB/s ตามลำดับ ซึ่งถือว่าโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วมาก พอได้ใช้งานจริงก็ต้องยอมรับเลยว่าเร็วจริง ตั้งแต่การเชื่อมต่อที่ไวมากคือเสียบปุ๊บเจอปั๊บ การโอนถ่ายไฟล์หนักๆ ทั้งวิดีโอและภาพถ่ายไฟล์ใหญ่ก็เร็วดีทีเดียว
ที่เราชื่นชอบ Kingston XS1000 มาก เพราะทำให้ชีวิตที่ต้องทำคอนเทนต์สะดวกมากขึ้น ในวันที่ถ่ายภาพและวิดีโอมาจนมือถือแทบเต็ม เพียงแค่เสียบ SSD พกพาเครื่องนี้เข้ากับมือถือ เข้าไปลากไฟล์มาใส่ก็ทั้งง่ายและรวดเร็วสุดๆ
หน่วยความจำจุกๆ
ด้วยความที่ "Kingston XS1000" มีให้เลือกทั้ง 1TB และ 2TB นั่นหมายความว่าภายใต้รูปร่างเล็กกระจิริดนี้กลับแฝงไปด้วยหน่วยความจำเยอะมาก ทำให้เรา Backup ข้อมูลได้เต็มที่ พื้นที่จัดเก็บไม่เต็มเร็วเหมือนอย่างแฟลชไดรฟ์
ราคาจำหน่ายโดยประมาณ
- Kingston XS1000 ความจุ 1TB 2,990 บาท
- Kingston XS1000 ความจุ 2TB 4,690 บาท
ราคาขึ้นอยู่กับโปรโมชัน ณ ขณะนั้น
ช่องทางจำหน่าย Shopee : https://s.shopee.co.th/1VgS4vrQ9C?
ช่องทางจำหน่าย Lazada : https://s.lazada.co.th/s.qiwDx
คุ้มไหมและเหมาะกับใคร?
ต้องบอกก่อนว่าโดยส่วนตัว เราชอบความเบา ขนาดกะทัดรัด และประสิทธิภาพของ "Kingston XS1000 External SSD" มากๆ โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลายและง่ายมากๆ ไม่ซับซ้อน จึงทำให้เรามั่นใจว่าถ้าเป็นสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไม่ว่าจะมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นจะต้องหลงรัก SSD รุ่นนี้แน่นอน
สำหรับคนทำงานหรือนักเรียนนักศึกษาก็เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักเช่นกันที่น่าจะมี "Kingston XS1000" ติดตัวไว้ ไม่ว่าข้อมูลหรือไฟล์ในมือถือ, แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ของคุณจะเต็มเมื่อไร อุปกรณ์ตัวจิ๋วนี้จะช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นต่อไปได้
แต่ถามว่ามีจุดสังเกตบ้างไหม จะมีเรื่องที่ใช้กับ iPhone ที่ยังเป็นพอร์ต Lightning โดยตรงไม่ได้ และการที่ Kingston ไม่ได้ให้ซองหรือกระเป๋าสำหรับเก็บตัว SSD กับสายเคเบิลไว้ด้วยกัน ก็มีโอกาสที่ชิ้นใดชิ้นหนึ่งหาย รวมถึงการปกป้องตัวเครื่อง SSD ที่ไม่ควรได้รับแรงกระแทกรุนแรงก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังกัน แต่ถามว่าโดยรวมโอเคไหม เราตอบได้เลยว่าน่าประทับใจและช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้นจริง