‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ
ซีอีโอ “ลาซาด้า” เปิดวิชั่นการทำธุรกิจตลาดไทย เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ปักธง 3 กลยุทธ์ สร้างจุดต่างมัดใจนักช้อป ลงทุนพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี ยกระดับศักยภาพผู้ขาย ก้าวสู่ยุคใหม่ของอีคอมเมิร์ซ สานต่อความสำเร็จธุรกิจมีผลกำไรเป็นบวกได้ครั้งแรก
วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้ในระยะยาว
ปีนี้ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ 3 ด้าน ได้แก่ การยกระดับประสบการณ์นักช้อป ลงทุนนวัตกรรมและเทคโนโลยี และการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ลาซาด้าเผยว่า สถานะ EBITDA จากการดำเนินธุรกิจใน 6 ประเทศของลาซาด้า กรุ๊ป มีผลเป็นบวกเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ความสำเร็จดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการก้าวสู่ยุคใหม่ของอีคอมเมิร์ซ ซึ่งให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ มากกว่าการบรรลุเป้าหมายในระยะสั้น เพื่อมุ่งสู่การเติบโตระยะยาวอย่างยั่งยืน
ปีนี้ธุรกิจของเราทำกำไรได้เป็นปีแรกและจะเป็นปีที่ลาซาด้าก้าวสู่ยุคใหม่ของการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เชื่อว่าโอกาสการเติบโตยังมีอยู่สูง และคาดว่าจะเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลักได้ในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า อีคอมเมิร์ซเป็นธุรกิจเติบโตเร็ว เทียบระดับภูมิภาคไทยและเวียดนามนับเป็นตลาดที่เติบโตได้เร็วที่สุด แต่ตลาดที่มีขนาดตลาดที่ใหญ่สุดคือ อินโดนีเซีย
ปัจจัยบวกจากความพร้อมด้านอินฟราสตรักเจอร์ โลจิสติกส์ ศูนย์การกระจายสินค้า เพย์เมนท์ อีกทางหนึ่งพฤติคนไทยเปิดรับกับการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ
ข้อมูลระบุว่า อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซประเทศไทยมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปี 2566 ไทยเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยอัตราการเติบโต 20% เทียบกับปีก่อนหน้า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค
เสริมแกร่ง 'นวัตกรรม-เทคโนโลยี'
สำหรับแผนการลงทุนในตลาดไทย มุ่งทำให้การช้อปเป็นเรื่องสะดวกและสนุกยิ่งขึ้น โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมและฟีเจอร์ต่างๆ
โดยมี Gamification เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับนักช้อป ที่ผ่านมา LazGame ได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากในประเทศไทย โดยมีผู้เล่นเกมกว่า 1 ล้านคนต่อวัน
นักช้อปกลุ่มนี้มีการใช้งานแอปพลิเคชันนานกว่าค่าเฉลี่ยของแพลตฟอร์มถึง 3 เท่า และราว 82% กลับมาใช้งานแอปพลิเคชันเป็นประจำทุกวัน
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สะท้อนถึงความสำเร็จของการลงทุนด้านนวัตกรรมของลาซาด้า คือ ฟีเจอร์ “ถามผู้ใช้งานจริง (Ask the Buyer)” ซึ่งนำเทคโนโลยี AI มาช่วยตั้งคำถามเชิญชวนให้ผู้ซื้อรายก่อน ๆ มาร่วมรีวิวสินค้า เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อรายใหม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันมีการตอบคำถามจากผู้ซื้อจริงไปแล้วกว่า 1.5 ล้านครั้ง
ด้วยเป็นส่วนหนึ่งของอาลีบาลาทำให้มั่นใจว่าธุรกิจมีข้อได้เปรียบและความแข็งแกร่งทั้งด้านเทคโนโลยี โลจิสติกส์ และ AI
ยกระดับประสบการณ์ ‘เฉพาะบุคคล’
เพื่อตอบรับการขยายตัวของกลุ่มนักช้อปหญิงและบทบาทที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z ลาซาด้าเดินหน้ากลยุทธ์เพิ่มประสบการณ์การช้อปที่แตกต่าง ภายใต้แนวคิด “Customer-First” เน้นการตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำและความเหนียวแน่นของนักช้อป
โดยสร้างความแตกต่างในหมวดหมู่สินค้าพรีเมียม แฟชัน และความงาม ซึ่งเป็นจุดแข็งของแพลตฟอร์ม เห็นได้จากยอดขายรวมของ LazMall ในช่วงเมกะแคมเปญ ซึ่งก้าวกระโดดมากกว่า 7 เท่า เมื่อเทียบกับวันปกติ ขณะที่ LazBEAUTY มีจำนวนสมาชิกในไทยกว่า 1 ล้านราย
สำหรับโค้งสุดท้ายของปี 2567 ลาซาด้าจะเสริมความแข็งแกร่งของ LazMall ผ่านการขยายพันธมิตรแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟ และรุกเซ็กเมนต์สินค้าลักชูรี ผ่านหมวดสินค้า LazMall Premium Brand
นอกจากนี้ วาง LazLOOK เป็นจุดหมายสินค้าแฟชั่น ผ่านแคมเปญรายสัปดาห์ที่จะเข้ามาสร้างความตื่นเต้นและสีสันให้แก่นักช้อปอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ประเมินขณะนี้กำลังซื้อจากกลุ่มเจนแซดเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะกับสินค้ากลุ่มแฟชั่นและความงาม ทั้งยังมีการใช้จ่ายกับกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่รับหน้าที่ซื้อแทนครอบครัว ที่น่าสนใจเป็นกลุ่มที่มีปฏิสัมพันธ์กับร้านค้ามากกว่ากลุ่มอื่นถึง 8 เท่า
พัฒนาศักยภาพผู้ขายไทย
ลาซาด้ามีพันธกิจในการสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโซลูชันการตลาดเพื่อสนับสนุนผู้ขายให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ
เช่น เครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยปรับแต่งรูปภาพ เขียนคำอธิบายสินค้า และให้บริการลูกค้า โดยพบว่าสามารถเพิ่มอัตราการซื้อได้กว่า 30%
พร้อมนำเสนอโปรแกรมสิทธิประโยชน์ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับร้านค้าในทุกกลุ่มและทุกก้าวของธุรกิจ มากกว่านั้นพัฒนาบริการเสริมที่จะช่วยให้ผู้ขายนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิงออนไลน์ที่ผสานกับออฟไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ
เช่น บริการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ การประกันสินค้าประเภทต่างๆ รวมถึงการนำสินค้าเก่ามาแลกสินค้าใหม่ในหมวดโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ลาซาด้า ประเทศไทย ยังได้ผนึกความร่วมมือระยะยาวกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซของผู้ประกอบการไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร ผ่านโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง