‘แกร็บ’ ลุยเกมทำกำไรต่อเนื่องปีที่ 3 ยึดผู้นำแอป ‘เรียกรถ - ดิลิเวอรี่’

‘แกร็บ’ ลุยเกมทำกำไรต่อเนื่องปีที่ 3 ยึดผู้นำแอป ‘เรียกรถ - ดิลิเวอรี่’

ในสมรภูมิแอปพลิเคชันเรียกรถและฟู้ดดิลิเวอรี่ “แกร็บ” นับเป็นผู้เล่นที่มีจุดยืนแข็งแกร่ง พิสูจน์แล้วจากความสำเร็จที่สามารถฝ่าโจทย์ท้าทายที่ต้อง “ล้างขาดทุน” พร้อมพลิกเกมไปสู่ “การทำกำไร” และวันนี้ยังคงเดินหน้าต่อเพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า กลยุทธ์การทำธุรกิจของแกร็บในประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจและรักษาความเป็นผู้นำทั้งบริการการเดินทางและดิลิเวอรี่

โดยปีนี้มุ่งพัฒนาและใช้ประโยชน์ 3 ส่วนหลักคือ เทคโนโลยี AI, อุปกรณ์เชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ต(ไอโอที), และโซลูชันนวัตกรรมบนแอปของแกร็บ (In-app Solutions) ที่จะเข้ามาตอบโจทย์และเติมเต็มความต้องการของคนในอีโคซิสเต็ม

แนวทางการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีของแกร็บมุ่งแก้ปัญหา (Pain Point) ในชีวิตประจำวัน พร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้งานรวมถึงคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนในสังคม ทั้งผู้ใช้บริการ พาร์ทเนอร์ร้านค้า คนขับ และสังคมโดยรวม

ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้หลักๆ ยังคงมาจากแกร็บฟู้ด รองลงมาคือบริการเรียกรถ ขณะที่แกร็บมาร์ตเติบโตโด้ดี และที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมากคือธุรกิจโฆษณา ซึ่งโดยภาพรวมปีนี้ธุรกิจเติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ 

‘โต’ สวนกระแสเศรษฐกิจ

ผู้บริหารแกร็บกล่าวว่า ปีนี้ไม่ได้มองว่ามีอะไรที่เป็นความท้าทายเรื่องใหญ่ๆ เนื่องจากแกร็บมีประสบการณ์ ความเข้าใจในตลาด ผู้บริโภค รวมถึงมีการทำงานร่วมกับภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง ด้านการแข่งขันมองว่าไม่ได้ต่างจากเดิมมากนัก ส่วนของโรบินฮู้ดต้องรอดูว่าเจ้าของใหม่จะผลักดันธุรกิจไปในทิศทางใด

‘แกร็บ’ ลุยเกมทำกำไรต่อเนื่องปีที่ 3 ยึดผู้นำแอป ‘เรียกรถ - ดิลิเวอรี่’ สำหรับระยะห่างระหว่างคู่แข่งคงบอกได้ยากและยังไม่มีคนกลางที่น่าเชื่อถือได้มาเก็บตัวเลขที่ชัดเจน ทว่ามีความชัดเจนว่าแกร็บเป็นผู้นำในตลาดบริการเดินทางและส่งอาหาร ทั้งด้านนวัตกรรมและการยอมรับจากผู้ใช้งานรวมถึงนักวิชาการที่น่าเชื่อถือ

จากสถิติพบด้วยว่า ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมารายได้โดยเฉลี่ยของพาร์ตเนอร์คนขับยังคงเพิ่มขึ้น จากแนวทางการบริหารจัดการที่พยายามไม่ไปลดรายได้ ขณะเดียวกันธุรกิจของแกร็บต้องอยู่รอดได้ โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ขับลดการเสียเวลา สามารถทำรอบได้มากขึ้น ช่วยลดต้นทุนด้วยโครงการที่หลากหลาย เช่นสินเชื่อเงินสดเพื่อพาร์ตเนอร์ร้านค้าวงเงินสูงสุด 10 ล้านบาท รวมถึงผลักดันการใช้รถอีวีเพื่อลดค่าใช้จ่าย

การสร้างจุดต่างของแกร็บเน้นการพัฒนาคุณภาพ สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกเซ็กเมนต์ และพยายามทำให้ราคาจับต้องได้มากที่สุด ในฐานะผู้นำเน้นการสร้างมาตรฐานความปลอดภัย และทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐเพื่อรักษาบรรยากาศที่ดีของตลาด แม้อยู่ในตลาดเดียวกันทว่าแต่ละรายต่างมีจุดแข็ง โมเดลธุรกิจ แนวทางการทำตลาด และโจทย์เป็นของตนเอง

ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอ ธุรกิจของเรายังเติบโตได้ดีในทุกกลุ่มและสามารถเติบโตได้ในทุกประเทศทั้งเชิงจำนวนและการเติบโตแบบยั่งยืนในฐานะเทคคอมพานี โดยภาพรวมปีนี้ธุรกิจของแกร็บยังคงเติบโตได้ดีและจะเป็นปีที่ 3 ที่สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันให้บริการอยู่ใน 700 เมือง มีผู้ใช้บริการกว่า 41 ล้านคนต่อเดือน”

ปักธง ‘AI-led Organization’

แกร็บ ยังคงตอกย้ำถึงการเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับภูมิภาค แนวทางธุรกิจจากนี้มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ “AI-led Organization” 

แนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีของแกร็บเริ่มต้นจากการศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตและทำความเข้าใจอินไซต์ของผู้บริโภค รวมถึงคนในวงจรธุรกิจ (Ecosystem) ไม่ว่าจะเป็น คนขับ ผู้ประกอบการร้านค้า-ร้านอาหาร ตลอดจนติดตามและเรียนรู้ประเด็นความสนใจและความท้าทายของสังคม เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดผลในวงกว้าง 

แกร็บมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ใน 4 ประเด็นหลัก คือ การเสริมประสิทธิภาพการทำงาน (Efficiency) การเพิ่มศักยภาพและผลิตผล (Productivity) การยกระดับประสบการณ์การใช้งาน (Experience) และการสร้างผลกระทบเชิงบวก (Impact)

‘แกร็บ’ ลุยเกมทำกำไรต่อเนื่องปีที่ 3 ยึดผู้นำแอป ‘เรียกรถ - ดิลิเวอรี่’ ตัวอย่างนวัตกรรมล่าสุด อาทิ ฟีเจอร์บัญชีครอบครัว (Family Account) ที่ผู้ใช้บริการสามารถติดตามการเดินทางและชำระค่าบริการเรียกรถผ่านแอปฯ ให้กับคนในครอบครัวได้, ฟู้ดล็อกเกอร์ (Food Lockers) ตู้ฝากอาหารดิลิเวอรี่ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานออฟฟิศ รวมถึงแผนที่ในอาคาร (Indoor Map) ที่ช่วยให้คนขับประหยัดเวลาเดินหาร้านอาหารภายในห้างหรืออาคารได้ถึง 20%, มีการรายงานเกี่ยวกับเหตุขัดข้องต่างๆ เช่นปัญหารถติด น้ำท่วม ทางปิด ถนนเสียเข้ามามากกว่า 3 หมื่นครั้ง

นอกจากนี้ ความสำเร็จนอกจากบริการคำสั่งซื้อกลุ่ม (Group Order) ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นและทำยอดได้สูงสุดที่กว่า 8 พันบาท  ยังมีฟีเจอร์อย่าง “Just in Time Allocation” ที่ทำให้ระยะเวลาการรอของพาร์ตเนอร์คนขับลดลงได้กว่า 50%,

ส่วนของร้านค้ามีเทคโนโลยี AI ช่วยในการตกแต่งภาพอาหารให้สวยงามและทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ แก้ปัญหาที่วันนี้ยังมีร้านอาหาร 2 ใน 10 ที่ไม่มีรูปของอาหาร แน่นอนว่าการใช้งานต้องทำอย่างมีความรับผิดชอบ ตรงปก และมีการระบุชัดเจนว่าสร้างโดย AI โดยเครื่องมือ AI ที่ใช้ของแกร็บได้ร่วมมือกับทาง ChatGPT และมีทีมที่ดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ

สำหรับแกร็บเราไม่ได้มุ่งเน้นการใช้หรือพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องล้ำสมัยที่สุด แต่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายของคนในอีโคซิสเต็มและอรรถประโยชน์ของเทคโนโลยี คือ ต้องตอบโจทย์และแก้ปัญหาของคนในอีโคซิสเต็มได้จริงๆ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม