'Synology' ตีโจทย์ท้าทาย ธุรกิจยุค ‘AI - ข้อมูล’

องค์กรยุคดิจิทัลต่างกำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล การจัดการทรัพยากรด้านไอที และความต้องการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง...

รหัท บุญตันจีน ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท ซินโนโลจี้ จำกัด (Synology) ผู้ให้บริการโซลูชันการจัดเก็บและปกป้องข้อมูลชั้นนำ เปิดมุมมองว่า ธุรกิจมีความต้องการนำ AI มาเป็นตัวเสริมศักยภาพการทำงานของทีมและองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเป็นเกราะป้องกันความปลอดภัยที่มีศักยภาพมากขึ้น

ปัจจุบันมี 2 เทรนด์สำคัญ ที่กำลังมีอิทธิพลต่อองค์กรทั่วโลก ได้แก่ เทรนด์แรก มัลแวร์เรียกค่าไถ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (Ransomware Protection) การโจมตีทางไซเบอร์โดยเฉพาะแรนซัมแวร์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก มีอัตราการโจมตีเฉลี่ยต่อองค์กรเพิ่มขึ้นถึง 22% ต่อสัปดาห์ ทำให้องค์กรใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการกู้คืนข้อมูล แม้องค์กรที่ยอมจ่ายค่าไถ่ก็ไม่สามารถรับประกันการกู้คืนข้อมูลได้ทั้งหมด

จากสถิติพบด้วยว่า 71% ขององค์กรที่ถูกโจมตีไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้สมบูรณ์ ทำให้การมีระบบปกป้องข้อมูลที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ ในไทยเองปีที่ผ่านมาค่าใช้จ่ายในการกู้คืนจากแรนซัมแวร์เพิ่มขึ้นถึง 50%

เทรนด์ที่สอง องค์กรทั่วโลกหันมาใช้ระบบ On-premise Productivity Tools ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร ถูกติดตั้งและใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์หรือคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรเองร่วมกับ Cloud SaaS แทนการใช้ออนไลน์ผ่านคลาวด์ (cloud-based services) เพียงอย่างเดียว เพื่อการปกป้องกันข้อมูลรั่วไหลได้มากขึ้น

รายงาน Varonis ระบุว่า 81% ขององค์กรในปี 2565 ประสบปัญหาข้อมูลรั่วไหล การใช้ On-premise Productivity Tools ช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างละเอียด และยังช่วยลดต้นทุนการจัดการข้อมูลในระยะยาว

‘4 โซลูชัน’ เสริมแกร่งซิเคียวริตี้

สำหรับซินโนโลจี้ การออกแบบผลิตภัณฑ์มุ่งตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรที่ต้องการขยายศักยภาพในการปกป้องข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ และการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง

โดยโซลูชันไฮไลต์ในปี 2567 ประกอบด้วย โซลูชัน การจัดเก็บและการจัดการข้อมูล (Data Storage and Management) รองรับการจัดเก็บและจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ยุคที่ข้อมูลเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล, โซลูชันป้องกันข้อมูล (Data Protection) ช่วยให้การปกป้องข้อมูลง่ายขึ้น รองรับการปกป้องเซิร์ฟเวอร์ได้มากถึง 2,500 เครื่อง ในหลายไซต์ทั่วโลก ด้วยนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลที่ครอบคลุม พร้อมระบบสำรองข้อมูลที่ช่วยลดการทำข้อมูลซ้ำและเพิ่มประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูล

รวมไปถึง โซลูชันระบบบริหารจัดการเฝ้าระวังและเตือนภัยครบวงจร (Surveillance) ช่วยให้การจัดการระบบเฝ้าระวังในหลายสถานที่เป็นเรื่องง่ายขึ้นจากศูนย์ควบคุมเดียว และ Productivity with AI โซลูชันการทำงานร่วมกันแบบครบวงจรช่วยให้การทำงานร่วมกันและการสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น และให้ความปลอดภัยเต็มประสิทธิภาพบนคลาวด์ที่องค์กรเป็นเจ้าของข้อมูล 100%

ฝ่า ‘3 ความท้าทาย’ ไอที

ธัชวรรรณ ชินชนากานต์ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซินโนโลจี้ เสริมว่า ธุรกิจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง มีโจทย์ที่ต้องเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล รวมถึงการดูแลบริหารจัดการปกป้องข้อมูล

การ์ทเนอร์ รายงานว่า องค์กรกว่า 50% ได้ตั้งทีมซึ่งมีผู้บริหารระดับซีเลเวลมาดูแลด้าน AI โดย 40% เริ่มปรับใช้ Conversational AI ในแอปพลิเคชันสำหรับองค์กร ปีหน้ามากกว่า 30% จะใช้ AI ในการพัฒนาและทดสอบผลิตภัณฑ์ ขณะที่ปี 2569 มากกว่า 60% จะออกแบบเว็บไซต์และแอปมือถือด้วย GenAI

ในทิศทางเดียวกันด้วยเทรนด์นี้ส่งผลทำให้ปริมาณและความสำคัญของข้อมูลเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก โดยมีไอทีเป็นกุญแจสำคัญ และความปลอดภัยของข้อมูลยิ่งมีความสำคัญยิ่งกว่า

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนงานด้านไอทียังคงมีความท้าทาย โดยพบว่า มากกว่า 70% ทีมไอทีของบริษัทเผชิญปัญหางบประมาณ, กว่า 51% ทีมไอทีของบริษัทมักขาดความมั่นใจในกลยุทธ์ด้านข้อมูลและการรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ พบด้วยว่า ค่าใช้จ่ายด้านไอทีโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นราว 7.5%

ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของซินโนโลจี้เติบโตขึ้นกว่า 150% จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และโซลูชันที่ตอบโจทย์ตลาด มีความยืดหยุ่นและขยายได้สูง เหมาะสำหรับองค์กรทุกขนาด โดยเฉพาะในภาคธุรกิจ ภาครัฐ และการศึกษา คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 45 ล้านดอลลาร์ เฉพาะตลาดไทยเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลัก

ซินโนโลจี้ มั่นใจในศักยภาพของตลาดประเทศไทย เล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจดิจิทัล รวมถึงการเร่งผลักดันโครงการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการข้อมูลในยุคดิจิทัล

โดยเฉพาะการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Threats) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการด้านการปกป้องข้อมูลเพิ่มสูงขึ้นตาม

ด้วยจุดแข็งด้านโซลูชันที่ครอบคลุมทั้งการจัดเก็บ การปกป้องข้อมูล การบริหารจัดการไอที ราคาที่แข่งขันได้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตและขยายฐานลูกค้าในระดับภูมิภาคและในประเทศไทยได้อย่างมั่นคง ตอบโจทย์องค์กรทั้งภาคธุรกิจ รัฐบาล และการศึกษา สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัลที่ความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลมีความสำคัญอย่างยิ่ง