กลุ่มสามารถฯ แตกไลน์ธุรกิจใหม่ หันรุก 'กรีนเทค' รับดีมานด์ตลาดบูม
กลุ่มสามารถฯ ลุยโฟกัสธุรกิจกรีนเทค-พลังงาน รับความต้องการเพิ่ม คาดช่วยดันรายได้รวมในกลุ่มทะยานที่ 12,000 ล้านบาท พร้อมโชว์ตัวเลข Backlog อาจทะลุ 2 หมื่นล. รอรับรู้โครงการที่ยังล่าช้าจากงบประมาณภาครัฐที่ดีเลย์ คาดสิ้นปีได้เห็นรายได้และกำไรมากขึ้น
วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่นเปิดเผยว่า เตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ จากเดิมมี 3 ธุรกิจหลักดังนี้ สาย
- สายธุรกิจ Digital ICT Solutions ที่มีบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL
- สายธุรกิจ Utilities & Transportations
- สายธุรกิจ Digital Communications หรือ SDC โดยจะแยกบริษัทในเครือเทด้า
- และ สายธุรกิจใหม่ คือ Renewable Energy และ Green Tech Ecosystem โดยภายในปี 2568 อาจจะร่วมทุนหรือเข้าไปซื้อกิจการ เป็นต้น
การก้าวสู่ยุคดิจิทัลเป็นโอกาสของการขยายผลและต่อยอดธุรกิจ จึงมุ่งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เช่นบริษัท เทด้า จำกัด ที่เชี่ยวชาญด้านพลังงานกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม อาทิโซลารูฟท็อป และคาร์บอนเครดิต และในปีนี้ กลุ่มสามารถฯ คาดการณ์ว่าจะมีรายได้รวมที่ 12,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงเดือน 9 เดือนที่ผ่านมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ทุกสายธุรกิจมีทิศทางขาขึ้นและแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีงานในมือ (Backlog) ทั้งกลุ่มรวมเกือบ 14,000 ล้านบาท โดยเฉพาะสายธุรกิจไอซีทีที่มีผลงานโดดเด่นในไตรมาส 3 แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีหลายโครงการที่ยังล่าช้าจากงบประมาณภาครัฐที่ดีเลย์ ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และสำหรับไตรมาส 4 คาดว่าจะรับรู้รายได้และกำไรมากขึ้นกว่าทั้ง 3ไตรมาสที่ผ่านมา
เขา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา Digital ICT Solutions มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่มูลค่ากว่า 1,500 บาท อาทิ โครงการของการนิคมอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กรมที่ดิน เป็นต้น รวม Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่มากที่สุด มูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท เพราะเป็นช่วงที่หน่วยงานต่าง ๆ เริ่มใช้งบประมาณเต็มที่ อาทิ โครงการ Core Banking, โครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และอื่น ๆ ทั้งนี้คาดว่าทั้งปีจะมีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่รวมประมาณ 7,500 ล้านบาท
สายธุรกิจ Utilities & Transportations โดยบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (SAV) ธุรกิจด้านการให้บริการจัดการการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา เฉพาะ 9 เดือน จำนวนไฟล์บินเพิ่มขึ้นประมาณ 7-8% รายได้เติบโตขึ้น 12% ใน 6 เดือนแรก ด้านกำไรมากกว่าเดิมค่อนข้างมาก โดยเติบโตมากถึง 85% ใน 2 ไตรมาสแรก YOY เป็นผลจากการที่รัฐบาลกัมพูชาออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เกิดเส้นทางการบินใหม่
รวมถึงมีการลงทุนเปิดสายการบินใหม่แอร์เอเชียกัมพูชา ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสร้างโอกาสด้านการท่องเที่ยวและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในช่วง high season คือช่วงไตรมาส 4 นี้อย่างแน่นอน ด้านโครงการขยายการบริหารจัดการวิทยุการบินที่สปป.ลาว มีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะเซ็นสัญญา MOU ในไตรมาส 4 ปีนี้
สายธุรกิจ Digital Communications รับรู้รายได้จากค่าบริการ Airtime ตลอดทั้งปี ในโครงข่ายวิทยุคมนาคมระบบดิจิตอล หรือ Digital Trunked Radio System ของโครงการจัดหาระบบวิทยุสื่อสารข่ายบังคับบัญชากระทรวงมหาดไทย (MOI) ประมาณ 317 ล้านบาท และล่าสุด SDC ได้รับการขยายอายุสัญญา 15 ปี จากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (มหาชน) จึงเป็นการสร้างโอกาสในการขยายฐานผู้ใช้บริการ DTRS ในองค์กรสาธารณภัยซึ่งมีเครือข่ายทั่วประเทศ โดยสรุป SDC เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งปีตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 602 ล้านบาท
วัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมทั้งการบริหารงานและฐานะการเงินที่มั่นคง มีการออกหุ้นกู้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยขยายธุรกิจตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ และมีการชำระคืนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดตรงเวลามาโดยตลอด โดยการประกาศขายหุ้นกู้ครั้ง 1 ปี 2567 ได้รับความสนใจอย่างมาก มีผู้สนใจซื้อถึง 643 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 85%
ล่าสุดมีการเตรียมออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2 ปี 2567 เป็นหุ้นกู้ 2 ปี ดอกเบี้ย 5.2% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งจะเปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 5-7 พ.ย.67 นี้ ทั้งนี้เพื่อจะนำเงินมาใช้คืนหุ้นกู้ที่จะหมดในต้นปีหน้าเดือนมกราคม จำนวน 1,675 ล้านบาท และเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทต่อไป