ภาพนิ่งดีมาก! รีวิว 'Canon EOS R5 Mark II' เทพวิดีโอที่ภาพนิ่งโปรไม่แพ้กัน
รีวิว "Canon EOS R5 Mark II" รวมหมัดเด็ดสายภาพนิ่งจากกล้องที่ถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในเทพสายวิดีโอของ Canon เพราะ "EOS R5 Mark II" ก็ถ่ายภาพนิ่งได้ไม่ธรรมดา
KEY
POINTS
-
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดใน Canon EOS R5 Mark II คือการอัปเกรดเซ็นเซอร์เป็นแบบ Stacked CMOS ซึ่งเป็นการพัฒนาใหม่ที่ทำให้กล้องอ่านข้อมูลจากเซ็นเซอร์ได้เร็วขึ้นอย่างมหาศาล
-
เซ็นเซอร์ของ EOS R5 Mark II ใช้การออกแบบ Dual Pixel AF ของ Canon ซึ่งมีฟอตอไดโอดสองตัวในแต่ละพิกเซล ทำให้เซ็นเซอร์แทบจะทุกส่วนใช้สำหรับ Phase Detection Autofocus ได้
-
Canon EOS R5 Mark II มีฟีเจอร์ Eye-Control AF ที่ได้รับการอัปเดตมาจาก EOS R1 เช่นเดียวกับใน EOS R3 รุ่นก่อนหน้า ฟีเจอร์นี้ทำให้เราเลือกจุดโฟกัสได้แค่เพียงมองไปที่จุดนั้น
ถึงแม้ Canon EOS R5 Mark II จะถูกล็อกมงให้เป็นเบอร์ต้นของกล้องสายวิดีโอรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Canon ทว่าในการใช้งานถ่ายภาพนิ่ง กล้องตัวนี้ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน
และนี่คือ รีวิว Canon EOS R5 Mark II ที่ KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที ได้ลองใช้เน้นถ่ายภาพนิ่งเน้นๆ เพื่อพิสูจน์ว่านอกจากใช้ถ่ายวิดีโอได้อย่างไม่ต้องกังวลแล้ว EOS R5 Mark II ยังเป็นกล้องที่ช่างภาพนิ่งไว้วางใจได้
ดีไซน์และการจับถือ
สิ่งที่แรกที่ต้องเล่าคือตัวเครื่องของ "Canon EOS R5 Mark II" ยังคงมีลักษณะคล้ายกับรุ่นก่อนหน้าอย่างมาก จนใช้ BG-R20 แบตเตอรี่กริปจาก Canon EOS R5 กับรุ่นนี้ได้เลย ส่วนความแตกต่างภายนอกที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ 'ปุ่มเปิด/ปิด' ที่เคยอยู่มุมซ้ายบน จะถูกเปลี่ยนเป็น 'ปุ่มสวิตช์สลับโหมดถ่ายภาพ/วิดีโอ' และ 'ปุ่ม Power Control' ถูกย้ายไปอยู่บริเวณวงแหวนควบคุมด้านหลัง การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ผู้ที่คุ้นเคยกับการใช้งาน EOS R5 รุ่นแรก รู้สึกงงในช่วงแรกๆ เพราะอาจเผลอเปิดโหมดถ่ายภาพไปบ่อยแทนที่จะหาปุ่มเปิด แต่พอใช้ไปสักพักจะเข้าใจและถนัดมือมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ถือว่าดี เพราะด้วยความที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ Canon EOS R5 รุ่นแรกซึ่งตัวกล้องมีขนาดค่อนข้างใหญ่แต่จับถือได้ดีเยี่ยม เมื่อปุ่มต่างๆ ได้รับการจัดวางใหม่ให้ลงตัวยิ่งขึ้น ส่งผลให้ใช้งานได้สะดวก ไม่เมื่อยล้าแม้จะใช้งานนานๆ
ช่องมองภาพสว่างจัด ชัดจริง
ถึง "Canon EOS R5 Mark II" จะยังใช้ช่องมองภาพ (Viewfinder) แบบจอ OLED ความละเอียด 5.76 ล้านพิกเซล มีกำลังขยายภาพที่ 0.76 เท่า แต่ด้วยการออกแบบใหม่เพื่อรองรับการใช้งาน Eye-Control AF ทำให้มุมมองในช่องมองภาพดูใหญ่ขึ้น แม้ว่าจริงๆ แล้วขนาดยังเท่าเดิม
ในด้านความสว่าง จอ OLED ใหม่สว่างมากกว่ารุ่นก่อน (แม้ว่าจะยังไม่สว่างเท่าของ Caono EOS R1) ซึ่งความสว่างนี้ช่วยให้ใช้งานโหมด Optical Viewfinder Simulation ได้
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มระยะมุมมองตา (Eyepoint) ขึ้น 1 มิลลิเมตร เป็น 25 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยให้เรามองเห็นหน้าจอในช่องมองภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นจากระยะห่างที่มากขึ้นเล็กน้อย
ส่วนหน้าจอหลังยังคงเป็นหน้าจอ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 2.1 ล้านจุด หมุนได้ 360 องศาเช่นเดิม
ฮอตชูครอบจักรวาล (Multi-function hotshoe)
หนึ่งในฟีเจอร์เด่นของ "Canon EOS R5 Mark II" คือ "Multi-function hotshoe" ที่ได้รับการพัฒนามาจาก EOS R3 ซึ่งมาพร้อมกับการใช้งานอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการส่งสัญญาณเสียงดิจิทัลเข้าสู่กล้อง ทำให้ใช้ไมโครโฟนดิจิทัล รุ่น DM-E1D ได้ หรือจะเป็นการจ่ายพลังงานให้กับตัว ST-10 radio flash trigger หรือแม้แต่การเชื่อมต่อข้อมูลกับสมาร์ตโฟน Android ผ่าน AD-P1 adapter ก็ทำได้เช่นกัน
Autofocus ฉลาดและจับไม่ปล่อย
ด้านระบบ Autofocus (AF) กล้อง "Canon EOS R5 Mark II" มาพร้อมกับระบบ AF แบบเดียวกับรุ่นใหญ่อย่าง EOS R1 ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้รับมือกับการใช้งานสุดโหด เช่นการถ่ายภาพกีฬาหรือกิจกรรมที่ต้องการความเร็วสูง
"EOS R5 Mark II" มีออโต้โฟกัส 8 โหมด ตั้งแต่การเลือกจุดโฟกัสเล็กๆ จนถึงการเลือกพื้นที่ทั้งฉาก กล้องเลือกจุดโฟกัสเองได้ โดยมีสามโซนโฟกัสที่ปรับแต่งได้ ให้เรากำหนดขนาดและรูปร่างของโซนโฟกัสได้ตามต้องการ ซึ่งในการใช้งานจริงระบบติดตามวัตถุทำงานได้ดีเยี่ยมมาก เพียงกดปุ่ม Info เพื่อให้กล้องติดตามการเคลื่อนไหวของวัตถุที่เลือกไว้
นอกจากนี้ยังมีโหมด Spot, Single Point และ Expanded ให้ใช้งานด้วย
จำแนกวัตถุได้
"Canon EOS R5 Mark II" มีโหมด Subject Recognition ที่จะจำแนกวัตถุ ช่วยให้กล้องตรวจจับบุคคล, สัตว์ หรือยานพาหนะได้ รวมถึงโหมด Auto ที่จะพยายามค้นหาทั้งสามประเภทนี้ ซึ่งทำได้ค่อนข้างแม่นยำ
จากการใช้งานจริง แน่นอนว่าเราเลือกโหมด People และพบว่ากล้องฉลาดมาก ระบบจะทำงานโดยอิงจากจุดโฟกัสที่เราเลือก หรือในโหมด Animal ก็จำแนกสัตว์ได้ไม่ว่าจะเป็นแมว, หมา, นก ฯลฯ ทำให้โฟกัสที่สัตว์เหล่านั้นได้แบบไม่มีหลุดโฟกัส
คุมด้วยตา กับฟีเจอร์ Eye Control
ฟีเจอร์ Eye Control ของ Canon ได้ถูกนำมาใส่ใน "Canon EOS R5 Mark II" ถามว่ามีก็ดี แต่ไม่มีก็ได้ เพราะจากการทดลอง เราพบว่า Eye Control ยังทำงานคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป้นการสวมแว่นตา การใส่คอนแทคเลนส์ หรือแม้แต่ความเสถียรของซอฟต์แวร์ที่อาจมีการอัปเกรดให้ดีขึ้นในฟีเจอร์นี้ก็ได้
คุณภาพของภาพถ่าย
ในการถ่ายภาพนิ่งไม่ว่าจะภาพบุคคล ภาพทิวทัศน์ ภาพอาหาร ภาพสัตว์ หรือภาพถ่ายประเภทอื่นๆ เราสัมผัสได้ถึงความเป็นกล้องระดับมืออาชีพจาก "Canon EOS R5 Mark II" อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากเทคโนโลยีที่ให้มาช่วยอำนวยความสะดวกช่างภาพได้อย่างมาก แทบจะทุกเรื่องที่กล้องยุคใหม่ควรทำได้แล้ว
ส่วนเรื่องโทนสีซึ่งเป็นจุดแข็งของ Canon มาตลอด โดยเฉพาะการถ่ายภาพบุคคล ใน "EOS R5 Mark II" ยังทำได้ดีเช่นเดิม คือคอนทราสไม่ได้จัดจ้านจนเกินไป ความคมของผิวแบบไม่แข็งกระด้างทว่ามีรายละเอียดครบถ้วน มีความกลมกลืนและเป็นธรรมชาติมาก
สำหรับเรื่อง Noise กล้องรุ่นนี้จัดการสัญญาณรบกวนบนภาพได้อย่างยอดยี่ยม แม้จะดัน ISO ไปค่อนข้างสูงแล้ว ทั้งจากความตั้งใจและจากการตั้งค่า Auto ISO แล้วกล้องดันขึ้นสูงจากสภาพแสงที่มืด เราพบว่า Noise มีน้อยมาก ภาพที่ได้จึงเคลียร์ ไม่เป็นวุ้น ซึ่ง ISO ที่เราคิดว่าดันไปได้โดยที่คุณภาพภาพยังดีจะอยู่ที่ไม่เกิน 6400 เลยทีเดียว ในขณะที่กล้องบางรุ่นจะเกิด Noise เยอะมากตั้งแต่ ISO 3200 ขึ้นไป
สรุป
เราคงไม่ต้องกล่าวถึง "Canon EOS R5 Mark II" ในฐานะกล้องวิดีโอ เพราะนั่นคือจุดแข็งหลักของกล้องรุ่นนี้ แต่เมื่อเรานำมาใช้งานถ่ายภาพนิ่ง ด้วยเทคโนโลยีที่ให้มารวมกับการใช้ดีไซน์เดิมผสมผสานการปรับปรุงบางจุด ทำให้เราใช้ "EOS R5 Mark II" ถ่ายภาพได้สนุกมาก และภาพที่ได้ก็คุณภาพดีจนน่าพอใจ ที่สำคัญคือเป็นกล้องที่ฉลาดมาก ทำให้ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือเป็นช่างภาพมืออาชีพก็จะให้กล้องรุ่นนี้ได้อย่างคุ้มค่า และไว้ใจได้ว่าจะได้ผลงานสวยๆ อย่างแน่นอน