กสทช. กัดฟันดันวาระ 'ทรู-ดีแทค' ขอลดมาตรการเยียวยาต้องจบปีนี้
“สรณ บุญใบชัยพฤกษ์” ประธาน กสทช. เคลียร์ทุกประเด็นดราม่า ยืนยันทำทุกอย่างตามกฎหมายกำหนด ไม่ได้ลักไก่ นำวาระทรูฯขอลดมาตรการเยียวยาเหลือ 5 ปี เข้าบอร์ดกสทช. คาดสรุปจบภายในสิ้นปีนี้ ยันไม่เคยทำอะไรเกินขอบเขตอำนาจตามกฎหมาย
จากกรณีที่ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ถูกจับตาประเด็นดราม่าการใช้อำนาจเกินหน้าที่ ทั้งเรื่องประเด็นหยิบวาระ รายงานการศึกษาเปรียบเทียบมาตรการเฉพาะกรณีการรวมธุรกิจ ระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และกรณีการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น) และบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3บีบี ขึ้นมาพิจารณาเพื่อขอลดมาตรการเฉพาะควบรวมกิจการ โดยไม่ได้เสนอรายงานเปรียบเทียบการควบรวมระหว่าง และได้ออกคำสั่งให้สำนักงาน กสทช.ต้องฟังคำสั่งประธานกสทช.เท่านั้น ทำให้บอร์ดกสทช.ส่วนใหญ่ไม่พอใจ
รวมถึงการแต่งตั้งนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการกสทช.ด้านยุทธศาสตร์ รักษาการเลขาธิการ กสทช. นั่งตำแหน่งรองเลขาธิการกสทช.ด้านยุทธศาสตร์ ไปจนถึงเกษียณ จากเดิมที่ต้องหมดวาระในเดือนเม.ย.2568 และการไม่ได้ดำเนินการสรรหาเลขาธิการกสทช.หลังจากที่ประธานเลือกนายไตรรัตน์ เป็นเลขาธิการกสทช.แต่บอร์ดไม่เห็นด้วย
นพ.สรณ เปิดเผยถึงประเด็นดราม่า ดังกล่าวว่า เรื่องทรูฯขอทบทวนมาตรการเฉพาะควบรวมกิจการเข้ามาจริง โดยขอลดเวลาการบังคับใช้จาก 10 ปี เหลือ 5 ปี ซึ่งทำเรื่องเข้ามานานแล้ว สำนักงาน กสทช. ได้ทำรายงานเปรียบเทียบกรณีการควบรวมทรู และการซื้อกิจการ 3บีบีแล้ว อยู่ระหว่างการถกเถียงความเห็นในรายละเอียด ว่าจะสามารถเปรียบเทียบและทำมาตรการให้เท่าเทียมกันได้หรือไม่ ต้องมาพิจารณาร่วมกันว่า แอปเปิ้ล กับ ส้ม จะเปรียบเทียบกันอย่างไร ยืนยันว่า ไม่ได้ ลักไก่ นำวาระเข้าประชุมเพื่อให้เรื่องนี้ผ่านโดยเร็ว แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้ผ่านอนุกรรมการติดตามการควบรวมกิจการ เนื่องจากยังไม่ได้มีการแต่งตั้งหลังจากที่อนุกรรมการชุดเดิมหมดวาระลงไปเมื่อ ก.ค.ที่ผ่านมา และยังไม่สามารถตอบได้ว่า การประชุมบอร์ดอีก 3 วัน ที่เหลือสุดท้ายของปีนี้ คือ วันที่ 24,25 และ 26 ธ.ค. 2567 จะสรุปเรื่องทรูฯ ให้จบได้หรือไม่ เพราะก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นวาระสำคัญที่ต้องทำให้จบภายในปีนี้ อาทิ งบประมาณกสทช.ปี 2568 เป็นต้น
“เรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาเหตุและผลว่าควรทำอย่างไร ตนอยากให้การพิจารณาเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ได้ข้อยยุติ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะจบเมื่อใด เพราะมีเรื่องค้างการพิจารณาจำนวนมาก”
สำหรับเรื่องที่มีการส่งบันทึกสั่งการเรื่องการปฎิบัติตามหน้าที่และอำนาจ ให้เลขาธิการและพนักงาน กสทช. ทำตามคำสั่งประธานกสทช.นั้น นพ.สรณ กล่าวว่า กฎหมายให้อำนาจเลขาธิการ กสทช. เป็นผู้บัญชาการสำนักงาน มีประธานเป็นผู้กำกับดูแลสำนักงาน สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่มีเรื่องกัน เป็นเพราะมีคณะอนุกรรมการ หรือกรรมการบางท่านส่งเรื่องไปที่สำนักงานฯโดยตรง จึงเกิดการฟ้องร้องศาล หากทำตามลำดับต้องเป็นอำนาจประธานเป็นผู้สั่งการ ดังนั้นหนังสือที่ส่งไปใช่การใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ
ส่วนการแต่งตั้งนายไตรรัตน์ รักษาการเลขาธิการ กสทช. ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ยุทธศาสตร์ ไปจนถึงเกษียณนั้น นพ.สรณ กล่าวว่า ระเบียบเรื่องรองสายยุทธศาสตร์มีอยู่แล้ว ตนใช้อำนาจตามกฎหมาย เป็นไปตามระเบียบที่มีอยู่ เพราะการต่ออายุเป็นอำนาจของประธานกสทช.แต่ถ้าต้องเลือกใหม่เป็นอำนาจของบอร์ดกสทช.
ประธานกสทช.กล่าวว่า แม้จะมีเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น เหมือนจะสร้างความขัดแย้งระหว่างกันของบอร์ดกสทช. ตนยืนยันว่า ยังสามารถทำงานร่วมกันได้ การเห็นต่างถือเป็นความสวยงามอย่างหนึ่ง ตนเองไม่ได้ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ มองว่าความเห็นต่างคือสิ่งที่สวยงาม