Google Cloud เผยแนวโน้ม ‘ค้าปลีก’ ปี 68 นำ AI ช่วยขายทั้งหน้าร้าน-ออนไลน์
กูเกิล คลาวด์ (Google Cloud) เผิดเผยว่า ในปี 2568 วงการค้าปลีกจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยจะนำเอไอที่สามารถสร้างเนื้อหาและโต้ตอบกับลูกค้าได้ (Generative AI) มาใช้ในทุกส่วนของธุรกิจอย่างจริงจัง ซึ่งพัฒนาต่อจากปี 2567 ที่หลายร้านค้าเพิ่งเริ่มทดลองใช้
การนำเอไอมาช่วยในธุรกิจค้าปลีกเกิดจากปัญหาหลายด้าน ทั้งเรื่องต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาสินค้าขาดตลาดหรือส่งไม่ทันเพราะห่วงโซ่อุปทานติดขัด รวมถึงการขาดแคลนพนักงานเนื่องจากมีอัตราการลาออกสูง ทำให้หลายร้านค้าต้องหาเทคโนโลยีมาช่วยทำงานแทนคน
ขณะเดียวกัน พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ก็เปลี่ยนไป พวกเขาต้องการประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลมากขึ้น เช่น อยากได้สินค้าแนะนำที่เข้ากับรสนิยมของตัวเอง และต้องการความสะดวกสบายในการซื้อของแบบไร้รอยต่อ
นั่นคือ สามารถซื้อของได้ง่ายทั้งที่หน้าร้านและออนไลน์ โดยทุกช่องทางต้องเชื่อมต่อข้อมูลถึงกันหมด อย่างการดูสินค้าในเว็บไซต์แล้วสามารถไปรับของที่ร้านได้ทันที ด้วยเหตุนี้ เอไอจึงจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น
กูเกิล คลาวด์ ได้เปิดเผยแนวโน้มสำคัญของการนำเอไอมาในธุรกิจค้าปลีก ปี 2568 ไว้ดังนี้
ประการแรก Multimodal AI จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างจำนวนมหาศาล ทั้งคำอธิบายสินค้า รูปภาพ รีวิวลูกค้า และวิดีโอภายในร้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลังและกิจกรรมทางการตลาด
ประการที่สอง Intuitive Search จะปฏิวัติวิธีการค้นหาสินค้าด้วยระบบสนทนาที่เป็นธรรมชาติ เช่น เซ็นทรัล รีเทล ที่เริ่มใช้อินเทอร์เฟซการค้นหาแบบสนทนารุ่นใหม่ ช่วยให้ลูกค้าค้นหาสินค้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมรับคำแนะนำที่เหมาะสม
ประการที่สาม Conversational AI Agents จะยกระดับการซื้อขายผ่านการสนทนา โดยทำหน้าที่เป็นตัวแทนแบรนด์ในโลกดิจิทัล ช่วยตอบคำถาม แนะนำสินค้า และรับออเดอร์ได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในบริการไดร์ฟทรูของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด
ประการสุดท้าย เอไอจะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยและการตรวจสอบเนื้อหา ช่วยคัดกรองรูปภาพสินค้า ตรวจจับการฉ้อโกง และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ดังเช่นโซลูชันของ Lytehouse สตาร์ตอัปสิงคโปร์ ที่พัฒนาระบบตรวจจับพฤติกรรมน่าสงสัยแบบเรียลไทม์
ทั้งนี้ ความสำเร็จในการนำเอไอมาใช้จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการข้อมูล โดยผู้นำในอุตสาหกรรมค้าปลีกปี 2568 จะเป็นองค์กรที่สามารถใช้เอไอสร้างมูลค่าได้อย่างครอบคลุม พร้อมสนับสนุนให้พนักงานเข้าถึงเครื่องมือเอไอ เพื่อแก้ปัญหาธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ