คนไทย ‘ติดมือถือ’ หนักมาก ใช้เน็ตวันละ 5 ชม. ท็อป 5 ของโลก

คนไทย ‘ติดมือถือ’ หนักมาก ใช้เน็ตวันละ 5 ชม. ท็อป 5 ของโลก

We Are Social เปิดสถิติล่าสุด พบคนไทยใช้เวลาอยู่กับอินเทอร์เน็ตบนมือถือสูงถึง 5 ชั่วโมงต่อวัน ติดอันดับ 5 ของโลก DeepSeek มาแรง แต่ "ChatGPT" ยังยืนหนึ่ง โซเชียลมีเดียยังทรงอิทธิพล ผู้คนใช้เป็นช่องทางติดต่อเพื่อน ครอบครัว เสพข่าว

สถิติระบุว่า เวลาเฉลี่ยที่คนไทยใช้อยู่บนอินเทอร์เน็ตบนมือถือต่อวันคือ 5 ชั่วโมง สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก ขณะที่ค่าเฉลี่ยของการใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตบนมือถือทั่วโลกอยู่ที่วันละ 3 ชม. 46 นาที

ที่น่าสนใจ นักช้อปออนไลน์ในประเทศไทยครองแชมป์โลกของการซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ต่อสัปดาห์ คิดเป็น 69.2% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ในขณะที่ตัวเลขเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 55.8%

ขณะที่ การใช้จ่ายโฆษณาประเทศไทยครองอันดับหนึ่งของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก เมื่อเทียบกับจีดีพีของคนในประเทศ

ChatGPT ยังยืนหนึ่ง

รายงานยังได้เผยถึงดิจิทัลเทรนด์ที่น่าสนใจโดยมีไฮไลต์ เช่น ณ เดือน ก.พ. 2568 มีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ 5.78 พันล้านคนทั่วโลก คิดเป็น 70.5% ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมด

คนไทย ‘ติดมือถือ’ หนักมาก ใช้เน็ตวันละ 5 ชม. ท็อป 5 ของโลก

เริ่มต้นปี 2568 มีจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตรวม 5.56 พันล้านคน โดย 62.8% ของผู้ใหญ่บนโลกออนไลน์ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการ “ค้นหาข้อมูล” เป็นหลัก

แม้ DeepSeek จะเป็น AI ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา ทว่าจากรายงานของ data.ai พบว่า ChatGPT ยังคงรั้งตำแหน่งเจ้าตลาด ด้วยจำนวนผู้ใช้งานประจำ (active users) มากกว่า 250 ล้านรายต่อเดือน ในช่วงเดือนก.ย. ถึงพ.ย. 2567 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ChatGPT ยังเป็นหนึ่งในแอปที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในโลกในช่วงเวลาดังกล่าว โดยอยู่อันดับที่ 8 ในการจัดอันดับทั่วโลกของ data.ai ในทุกหมวดหมู่ของแอปช่วงเวลาที่สำรวจ

วีอาร์โซเชียลเผยว่า ยังไม่ชัดเจนว่ามีคนจำนวนเท่าใดที่ใช้เครื่องมืออย่าง Gemini ของกูเกิลและ Copilot ของ ไมโครซอฟท์เนื่องจากเครื่องมือเหล่านี้ถูกรวมเข้ากับข้อเสนอที่หลากหลายของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

ในทำนองเดียวกัน แม้ว่า Meta จะประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่าขณะนี้ Meta AI มีผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 700 ล้านราย แต่บริการนี้จะถูกส่งต่อไปยังผู้ใช้ Facebook และ Instagram ทุกคนตามค่าเริ่มต้นทุกครั้งที่พวกเขาค้นหาบางสิ่งบนแพลตฟอร์มเหล่านั้น

ดังนั้นจึงไม่ชัดเจนว่าผู้ใช้งาน 700 ล้านรายเหล่านี้จำนวนเท่าใดที่กำลังมองหาโซลูชัน AI โดยเฉพาะ และมีกี่รายที่กำลังมองหามีมล่าสุด

‘ดิจิทัล’ เติบโตแข็งแกร่ง

ในระดับโลกจากการเก็บข้อมูลล่าสุดในเดือนก.พ.นี้พบว่า อ้างอิงจากข้อมูลของประชากรจากองค์การสหประชาชาติปัจจุบันมีประชากรโลก 8.2 พันล้านคน โดยเพิ่มขึ้นราว 70 ล้านคน จากทั้งหมดมีประชากรเกือบ 4.8 พันล้านคน หรือคิดเป็น 58.1 % อาศัยอยู่ในเขตเมือง ส่วนที่เหลือราว 3.4 พันล้านคนอาศัยอยู่ในเขตชนบท

ปัจจุบันมีผู้คนกว่า 5.78 พันล้านคนใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งคิดเป็น 70.5% ของประชากรโลกทั้งหมด พบด้วยว่าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น 112 ล้านรายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เฉลี่ยเติบโตราว 2% ต่อปี ส่วนการใช้สมาร์ทโฟนคิดเป็น 87% ของโทรศัพท์มือถือที่ใช้ทั่วโลก

ขณะที่ตัวเลขของประชากรอินเทอร์เน็ต ต้นปี 2568 ทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 5.56 พันล้านคน มีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 67.9% เพิ่มขึ้น 136 ล้านคน หรือ 2.5% ในช่วงปี 2567 ทว่ายังคงมีประชากรที่ออฟไลน์กว่า 2,630 ล้านคน ณ ต้นปี 2568

ด้านประชากรผู้ใช้โซเชียลมีเดียมีอยู่ 5.24 พันล้านคน คิดเป็น 63.9% ของประชากรทั้งโลก เพิ่มขึ้น 4.1% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยมีผู้ใช้รายใหม่เพิ่มขึ้น 206 ล้านคน

สถิติเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในช่วงปีที่ผ่านมา

และจากข้อมูลข้างต้นเทียบกับข้อมูลจาก Statista จะพบว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 5.56 พันล้านคนทั่วโลกนั้นมีจำนวนมากกว่าผู้ชมทีวีแบบออกอากาศและเคเบิลทีวีที่มี 5.32 พันล้านคน

แต่ที่สำคัญกว่านั้น ข้อมูลยังแสดงให้เห็นด้วยว่าผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกันเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ใช้เวลาบน ‘โซเชียล’ น้อยลงแต่ยังทรงอิทธิพล

โดยสรุปเหตุผลหลักในการใช้โซเชียลมีเดีย ยังคงเป็นการติดต่อกับเพื่อนและครอบครัว (50.8%) ตามมาด้วยการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มากกว่า 1 ใน 3 ของผู้ใช้เข้ามาเพื่ออ่านข่าว และโดยเฉลี่ยแล้วแต่ละช่วงวัยมีเหตุผลในการใช้โซเชียลมีเดียที่แตกต่างกันออกไป

พบด้วยว่า แม้โซเชียลมีเดียจะมีบทบาทมากขึ้น ทว่าเวลาที่ใช้บนโซเชียลมีเดียกลับลดลง เฉลี่ยที่ 2 ชั่วโมง 21 นาทีต่อวัน ลดลง 10 นาทีจากปี 2566

ส่วนพฤติกรรมการติดตามบนโซเชียลมีเดีย นอกจากการติดต่อกับเพื่อนและครอบครัวที่เป็นเหตุผลหลัก มีผู้ใช้งานน้อยกว่าครึ่งที่ติดตามคนรู้จักในชีวิตจริง รองลงมาคือ นักแสดง ตลก และศิลปิน ส่วนบัญชีที่ได้รับความนิยมคือแนวบันเทิง มุกตลก ล้อเลียน  และมี 22% ที่ติดตามอินฟลูเอนเซอร์

ส่วนแนวโน้มของการใช้อุปกรณ์ จำนวนคนที่ใช้แล็ปท็อปและเดสก์ท็อปในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ใหญ่ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพียง 61.5% เท่านั้นที่ใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในการเข้าถึงบริการที่เชื่อมต่อได้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567

แนวโน้มเหล่านี้ยังสะท้อนถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้คน ซึ่งผลกระทบที่น่าจับตามองเช่น การใช้งานเพื่ออีคอมเมิร์ซ และเป็นเรื่องที่นักการตลาดจำต้องศึกษาเพื่อก้าวตามเทรนด์ให้ทัน