'ดีอี'ดันที่ทำการไปรษณีย์ไทย หวังอัปเกรดสู่ศูนย์ดิจิทัลชุมชน

“ดีอี” ปิ๊งไอเดียดันที่ทำการปณ.ตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชน หวังสร้างรายได้ยั่งยืนให้คนในพื้นที่ เป็นสื่อกลางระหว่างประชาชนกับรัฐเป็นช่องทางการรับบริการอิเล็กทรอนิกส์ คุย สดช. ประสานไปรษณีย์เร่งดำเนินการโมเดลนำร่อง กระจายศูนย์ดิจิทัลชุมชนอยู่ 1,722 แห่ง ทั่วประเทศ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงได้มอบนโยบาย ให้ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (สดช.) หารือร่วมทำความตกลงกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เพื่อเตรียมขยายโครงการศูนย์ดิจิทัลชุมชนเพื่อการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในสาขาหรือ ที่ทําการไปรษณีย์ของปณทที่มีอยู่ทั่วประเทศราว 12,000 แห่ง
โดยให้นำร่อง โดยการคัดเลือกที่ทำการฯ ที่มีศักยภาพในแต่ละพื้นที่ เพื่อเปิดให้คนในชุมชนต่างๆ ได้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เรียนรู้ และใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการสร้างรายได้ สร้างอาชีพเพิ่มขึ้น และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับชีวิตตนเองและคนในครอบครัว
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มได้ในที่ทําการไปรษณีย์หลักสี่ เนื่องจากมีความพร้อมด้านสถานที่ และ กำลังคน โดยจะมีการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้ในการไลฟ์ หรือ ขายของ ทำอีคอมเมิร์ซ ซึ่งคิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ที่พี่น้องประชาชน ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา จะได้มีสถานที่เพิ่มพูนทักษะด้านดิจิทัล และ การหาอาชีพและรายได้เสริมเพิ่มขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
“ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คนนิยมซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งได้ทำความตกลงกับ ปณท ว่า ต่อไปนี้ พื้นที่ หรือสาขาแห่งใดที่มีศักยภาพในการตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชน ก็จะให้ สดช. นำอุปกรณ์ ไปติดตั้งเพื่อทำศูนย์ดิจิทัลชุมชนเพิ่มเติมได้เลย”
สำหรับ ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างประชาชนกับรัฐเป็นช่องทางการรับบริการอิเล็กทรอนิกส์ การเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์เพื่อการเรียนรู้ผ่านดาวเทียม วีดีโอออนดีมาน และ การให้ความรู้ด้านการทำธุรกิจและประกอบอาชีพผ่านระบบออนไลน์ โดยปัจจุบันกระทรวงดีอี โดย สดช. ได้มีการศูนย์ดิจิทัลชุมชนอยู่ 1,722 แห่ง ทั่วประเทศ
โดยเป็นการลงนามสัญญาเมื่อปี 2566 ครบกำหนดสัญญาในปี 2571 โดยสถิติการให้บริการศูนย์ดิจิทัลชุมชน ตัวเลขปี 2566 มีจำนวนผู้เช้ามาใช้บริการแบบวอลค์ อิน จำนวน 3,934,700 คน และมีจำนวนผู้ใช้บริการแบบออนไลน์ หรือ อี-เซอร์วิส จำนวน 575,700 คน