คุยกับเอ็มดีใหม่ ‘แกร็บ’ กับพันธกิจ รักษาเบอร์ 1 ศึก ‘เดลิเวอรี่’

คุยกับเอ็มดีใหม่ ‘แกร็บ’ กับพันธกิจ รักษาเบอร์ 1 ศึก ‘เดลิเวอรี่’

“แกร็บ” เปิดเกมรุกปี 68 ชูกลยุทธ์ S.M.A.R.T เน้นเติบโตแบบยั่งยืนในทุกมิติ ตอกย้ำเบอร์หนึ่งแอปเรียกรถ-สั่งอาหารในประเทศไทย

KEY

POINTS

  • ทิศทางธุรกิจปี 2568 ยังคงมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “Lead with P

“แกร็บ” เปิดเกมรุกปี 68 ชูกลยุทธ์ S.M.A.R.T เน้นเติบโตแบบยั่งยืนในทุกมิติ ตอกย้ำเบอร์หนึ่งแอปเรียกรถ-สั่งอาหาร เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี ขยายบริการ รักษาฐานลูกค้า มัดใจคนขับ-พาร์ทเนอร์ร้านค้า พร้อมเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ที่เข้าถึงคนทุกเจน

จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย แสดงวิสัยทัศน์อย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะเอ็มดีคนใหม่ของแกร็บ ประเทศไทย ว่า ทิศทางธุรกิจของแกร็บปี 2568 ยังคงมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้วิสัยทัศน์ “Lead with Purpose” 

โดยการสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันและตอกย้ำบทบาทของแกร็บ ในฐานะผู้นำซูเปอร์แอปเพื่อยกระดับมาตรฐานของธุรกิจการเดินทางและเดลิเวอรี่ควบคู่ไปกับการสานต่อพันธกิจ GrabForGood ที่มุ่งใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม

พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับคนไทย โดยจะมุ่งเน้นไปที่ 5 แนวทางหลักภายใต้กลยุทธ์ “S.M.A.R.T” 

ประกอบด้วย S: Sustainability สร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม, M: Market Expansion ขยายบริการให้เข้าถึงคนทุกเจเนอเรชัน, A: Affordability นำเสนอทางเลือกของบริการในราคาที่เข้าถึงได้, R: Retention รักษาฐานลูกค้าและมัดใจคนขับ-พาร์ทเนอร์ร้านค้า, T: Tech & Innovation พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน

คุยกับเอ็มดีใหม่ ‘แกร็บ’ กับพันธกิจ รักษาเบอร์ 1 ศึก ‘เดลิเวอรี่’

ธุรกิจ ‘โต’ สวนทางเศรษฐกิจ

ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของแกร็บในไทย หลักๆ ยังมาจากธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่แต่ที่เติบโตมากที่สุดและเติบโตได้มากกว่าการส่งอาหารคือ การเดินทาง ส่วนธุรกิจดาวรุ่งที่มาแรงส่วนใหญ่จะเป็นพีเจอร์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ เช่น ดีลพิเศษ ส่วนธุรกิจการเงิน และบีทูบี ก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉลี่ยทั้งจากกลุ่มที่มองหาโปรโมชั่นและลูกค้าเชิงคุณภาพ ต่อหนึ่งคำสั่งซื้อจะอยู่ที่ราวสองร้อยกว่าบาท ส่วนหนี้เสียนับว่าน้อยกว่าตลาดรวม เนื่องจากใช้ดาต้าในการรวบรวมและพิจารณาปล่อยสินเชื่อ

ท่ามกลางความท้าทายทางเศษฐกิจ แกร็บยังเชื่อว่าธุรกิจยังคงมีโอกาสที่จะเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลัก จากปัจจัยบวกของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและสมาร์ตโฟนของคนไทยที่มีจำนวนมาก อีกทางหนึ่งด้วยสัดส่วนของการใช้จ่ายในตลาดที่ยังน้อยมากไม่เหมือนกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ดังนั้นยังคงมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก

ข้อมูลโดยโมเมนตัมเวิร์กระบุว่า ภาพรวมตลาดฟู้ดดิลิเวอรีไทยมีมูลค่าราว 1.4 แสนล้านบาท เติบโต 12% และแกร็บครองอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 46%

เรามุมมองว่า แม้ปีนี้เศรษฐกิจจะทรงๆ แต่ฟู้ดดิลิเวอรีและการเดินทางมีโอกาสเติบโตอีกมาก แกร็บเองเน้นทำให้ราคาเข้าถึงได้ มีการเพิ่มโฟกัสด้านการเดินทาง ขณะที่การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นหรือมีผู้เล่นจำนวนมากทำให้ตลาดสนุกมากขึ้น แต่เราก็ไม่ได้ไปมุ่งเน้นที่การแข่งขัน ด้วยมีทิศทางและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน พยายามเพิ่มความปลอดภัย ดำรงความเป็นเฟิร์สมูฟเวอร์และสร้างสรรค์สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลาเพื่อรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งตลาดต่อไป

โชว์ความสำเร็จปี 2567

ปี 2567 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ยอดเยี่ยมของ แกร็บ ประเทศไทย โดยบริษัทยังคงครองความเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ที่ผู้ใช้ให้ความเชื่อมั่นทั้งในบริการเรียกรถผ่านแอปและเดลิเวอรี่ทั้งยังสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกธุรกิจ 

 

คุยกับเอ็มดีใหม่ ‘แกร็บ’ กับพันธกิจ รักษาเบอร์ 1 ศึก ‘เดลิเวอรี่’

โดยมีไฮไลท์ความสำเร็จไม่ว่าจะเป็น การส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมสำคัญอย่าง การเปิดให้บริการจุดรับ-ส่งในสนามบินหลัก 4 แห่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ ฯลฯ ปีที่ผ่านมา อดใช้บริการเรียกรถในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตขึ้นถึง 138%

นอกจากนี้ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนำเสนอนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและแก้ปัญหา(pain point)ในชีวิตประจำวันของคนในอีโคซิสเต็ม

อาทิ การอัปเกรดฟีเจอร์บริการสั่งอาหารแบบกลุ่ม (Group Order) โดยมียอดสั่งอาหารเติบโตขึ้น 2 เท่า, การปรับโฉมฟีเจอร์บริการจองล่วงหน้า (Advance Booking) โดยมียอดใช้บริการพุ่งขึ้นถึง 60% ในช่วงเทศกาล, ขณะที่การขายดีลพิเศษสำหรับการรับประทานที่ร้าน (Dine Out Deals) มียอดการใช้บริการเติบโตขึ้นกว่า 11 เท่า

ดันมูลค่าจีดีพีไทย 1.79 แสนลบ.

ขณะเดียวกัน นำเสนอทางเลือกใหม่ของบริการในราคาที่เข้าถึงได้ ผ่านการเปิดตัวบริการ GrabCar SAVER และ GrabBike SAVER ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก สะท้อนผ่านยอดใช้บริการที่เติบโตขึ้นมากกว่า 4 เท่า

ส่วนการเพิ่มตัวเลือก Delivery SAVER ในบริการสั่งอาหาร มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า การเปิดตัวซับแบรนด์ Hot Deals เพื่อนำเสนอดีลลดแรงจากร้านอาหารดังทั่วประเทศ ปีที่ผ่านมาช่วยให้ผู้ใช้บริการประหยัดเงินรวมกว่า 2 พันล้านบาท

 

คุยกับเอ็มดีใหม่ ‘แกร็บ’ กับพันธกิจ รักษาเบอร์ 1 ศึก ‘เดลิเวอรี่’

นอกจากนี้ เดินหน้าขยายธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กร (บีทูบี) โดยเฉพาะบริการ GrabAds รวมถึงบริการ Grab For Business ที่มีการขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ จนมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 80%

ผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ระบุว่า กิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจของแกร็บในปี 2566 ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยสูงถึง 1.79 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)