'ดีอี' เพิ่งตื่นหาโมเดลล้อมคอก สั่ง กสทช.-เอ็ตด้าคุม OTT ด่วน

'ดีอี' เพิ่งตื่นหาโมเดลล้อมคอก สั่ง กสทช.-เอ็ตด้าคุม OTT ด่วน

'ประเสริฐ' สั่งตั้งคณะทำงานพิจารณาออกมาตรการควบคุมดูแล OTT ร่ายมาตรการหลัก 5 ด้าน เข้มแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่างชาติ ที่มีรายได้จากผู้ใช้ในประเทศต้องเสียภาษีในไทย

KEY

POINTS

  • สั่ง กสทช.- เอ็ตด้า เป็นเจ้าภาพตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาการพิจารณาออกมาตรการควบคุมดูแล OTT 
  • พบถูกใช้เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์ ทั้งการหลอ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี ได้มอบหมายให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) หรือ เอ็ตด้า

จัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาการพิจารณาออกมาตรการควบคุมดูแล แพลตฟอร์ม Over-The-Top : OTT ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิงออนไลน์ 

ซึ่งให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ รายการทีวี เพลง และพอดแคสต์ ได้โดยตรงผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่ผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ ผู้ประกอบการเคเบิลแบบดั้งเดิม หรือแม้แต่ผู้ให้บริการทีวีดิจิทัล ตัวอย่าง แพลตฟอร์มยอดนิยม ได้แก่ Netfix YouTube Disney+ TikTok และ Spotify ซึ่งพบว่าอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ เช่น การหลอกลวงออนไลน์ การเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือการละเมิดลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชน 

เพื่อเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เป็นธรรม และยั่งยืน ทั้งสำหรับผู้บริโภค ผู้ให้บริการ และเศรษฐกิจดิจิทัลโดยรวม กระทรวงดีอีจึงสั่งให้มีการคณะทำงานขึ้นมาเพื่อดูแลในส่วนนี้โดยตรง

\'ดีอี\' เพิ่งตื่นหาโมเดลล้อมคอก สั่ง กสทช.-เอ็ตด้าคุม OTT ด่วน

สำหรับเรื่องดังกล่าวจะมีพิจารณามาตรการหลัก 5 ด้านเพื่อเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เป็นธรรม และยั่งยืน ทั้งสำหรับผู้บริโภค ผู้ให้บริการ และเศรษฐกิจดิจิทัลโดยรวม ดังนี้

(1) มาตรการด้านความปลอดภัย 

-ควบคุมการละเมิดลิขสิทธิ์ และป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย  และกำหนดมาตรการยืนยันตัวบุคคลเพื่อป้องกันการใช้แพลตฟอร์มไปในทางที่ผิด 

(2) การออกระเบียบเพื่อกำกับด้านเนื้อหา 

-ปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถควบคุมเนื้อหาที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์ม OTT ได้อย่างเป็นรูปธรรม 

-กำหนดให้แพลตฟอร์มต่างประเทศที่ให้บริการในไทย ต้องขอใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงาน และกฎหมายของประเทศไทย 

-ผลักดันแนวทางการกำกับดูแลร่วมกัน ไปสู่เวทีระดับนานาชาติ 

(3) การส่งเสริมด้านอุตสาหกรรมดิจิทัล และการจัดเก็บภาษี

-การส่งเสริมผู้ประกอบการไทยเพื่อการพัฒนาแพลตฟอร์ม 

-กำหนดให้แพลตฟอร์ม OTT ที่มีรายได้จากผู้ใช้ในไทยต้องเสียภาษีในประเทศไทย 

-ส่งเสริมการสร้างมูลค่าจากธุรกิจดิจิทัลภายในประเทศที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

(4) การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 

-กำหนดให้แพลตฟอร์ม OTT ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น GDPR ของยุโรป 

-ควบคุมการเก็บ และการใช้ข้อมูลของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว

(5) การกำกับดูแลด้านการแข่งขัน 

-ป้องกันการผูกขาดของแพลตฟอร์ม OTT ขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม 

-สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาแพลตฟอร์มท้องถิ่น และการกระจายอำนาจในตลาด 

\'ดีอี\' เพิ่งตื่นหาโมเดลล้อมคอก สั่ง กสทช.-เอ็ตด้าคุม OTT ด่วน

พร้อมกันนี้ นายประเสริฐ ยังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 2/2568 โดยระบุว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาผลดำเนินการ และมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ อาทิ 

1.การปราบปรามจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 (ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

- การจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทุกประเภท ก.พ.68 มีจำนวน 4,505 ราย เพิ่มขึ้น 80.56% เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 2,495 คนต่อเดือนช่วงมกราคม - มีนาคม 2567  

- การจับกุมคดีพนันออนไลน์ ก.พ.68 มีจำนวน 2,069 ราย เพิ่มขึ้น 94.45% เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 1,064 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567

- การจับกุมคดีบัญชีม้า ซิมม้า และความผิดตาม พ.ร.ก.ฯ ก.พ.68 มีจำนวน 325 ราย เพิ่มขึ้น 35.42% เทียบกับ การจับกุมเฉลี่ย 240 คนต่อเดือน ช่วงมกราคม - มีนาคม 2567

2.การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน

- ศูนย์ AOC ระงับบัญชีชั่วคราว จำนวน 337,690 บัญชี ธนาคารระงับบัญชี 997,600 รวม 1,335,290 บัญชี

- ปปง. ทำการอายัดบัญชีไปแล้วจำนวน 732,798 บัญชี 

- มาตรการปลดบัญชีม้า ที่ประชุมได้เห็นชอบ ให้ ปปง. มีอำนาจให้การปลดล็อกบัญชี “ม้าดำ” ได้เพียงหน่วยงานเดียว ขณะที่การดำเนินการ ปลดล็อกบัญชี “ม้าเทา” จะเป็นหน้าที่ของ บช.สอท. โดยได้พิจารณาอนุญาตให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า 

หากมีมากกว่า 1 บัญชี สามารถยื่นเรื่องให้ บช.สอท. ดำเนินการปลดล็อกได้ หรือขอเปิดบัญชีใหม่ได้ 1 บัญชี เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เรียกว่า “บัญชีเพื่อการยังชีพ” ซึ่งบัญชีดังกล่าวจะไม่สามารถทำธุรกรรมทางออนไลน์ได้ โดยจะต้องโอน-เบิก-ถอนเงิน ที่ธนาคารเท่านั้น

- มาตรการป้องกันอาชญากรรมทางการเงินของกลุ่มธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ปปง. ก.ล.ต. และ สมาคมผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ได้ร่วมหารือทำความเข้าใจเพื่อการบูรณาการเชื่อมต่อข้อมูลบัญชีม้า การประกาศรายชื่อ HR-03 และแนวทางการพิจารณาการทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องสงสัย เพื่อควบคุมการทำธุรกรรมของมิจฉาชีพผ่านธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

3.การแก้ไขปัญหาซิมม้า ซิมบุคคลต่างด้าว

 - การกวาดล้างซิมม้าและซิมต้องสงสัย โดย สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการยืนยันตัวตน และข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผลการดำเนินงาน มีดังนี้

(1) รายงานผลการดำเนินการตรวจสอบการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ บุคคลธรรมดาแบบเติมเงิน (พรีเพด) ที่มีการโทรออกตั้งแต่ 100 ครั้งขึ้นไป/วัน ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.2566 – 17 มี.ค. 2568 ถูกระงับบริการ (สะสม) จำนวน 233,338 เลขหมาย โดยมีผู้ใช้บริการกลับมาแสดงตน (สะสม) จำนวน 441 เลขหมาย และยังไม่มีการมาแสดงตนของผู้ใช้บริการ (สะสม) จำนวน 232,897 เลขหมาย

(2) กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ด 101 เลขหมายขึ้นไป โดยมีเลขหมายที่เข้าข่าย 5,078,283 เลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว จำนวน 4,273,918 เลขหมาย จำนวนเลขหมายคงเหลือต้องมายืนยันตัวตน 804,365 เลขหมาย 

(3) กลุ่มผู้ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 6-100 เลขหมาย ซึ่งมีเลขหมายที่เข้าข่าย 3,981,251 เลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว 2,424,402 เลขหมาย จำนวนเลขหมายคงเหลือต้องมายืนยันตัวตน 1,556,849 เลขหมาย 

ส่วนความคืบหน้าของการพิจารณา ร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... ซึ่งปรับปรุงกฎหมายเพิ่มเติม ขณะนี้การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาใกล้แล้วเสร็จ โดยกระทรวงดีอี เตรียมหารือร่วมกับ สมาคมธนาคารไทย ธปท. ก.ล.ต. ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม เพื่อทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรการให้สอดคล้องกับ พ.ร.ก. ที่จะมีผลบังคับใช้ต่อไป

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์