จับตา! ความถี่ 3500 กสทช.สอดไส้คลื่นทีวี ร่วมวงประมูลคลื่นมือถือ

บอร์ด กสทช.สั่งสำนักงานฯ เปิดเฮียริ่งรอบใหม่ คาดสบช่องดึงคลื่นทีวีดิจิทัลย่าน 3500 ร่วมวงเคาะประมูลครั้งนี้ เชื่อราคาทะยานเกินใบละ 5,000 ล้านบาท
KEY
POINTS
- มติบอร์ด กสทช.สั่งให้สำนักงาน กสทช. ต้องเสนอแนวทางประชาพิจารณ์รอบใหม่ภายใน 7 วัน
- เชื่อว่าหากได้ข้อสรุปภายในเดือนเม.ย.2568 การประมูลจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากมติการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2568 ที่ให้ สำนักงาน กสทช. กลับไปจัดทำรายละเอียด และเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ หรือ ประชาพิจารณ์ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 850 MHz 1500 MHz 1800 MHz 2100 MHz 2300 MHz และ 26 GHz อีกครั้ง หลังจากที่เคยได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยการทบทวนดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากยังมีหลายประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม เช่น การจัดกลุ่มคลื่นความถี่ การกำหนดราคาขั้นต่ำ (Reserved Price) ให้มีความสมเหตุสมผล เงื่อนไขการชำระเงิน จาก 50% ในปีแรก 25% ในปีที่ 3 และงวดสุดท้าย 25% ในปีที่ 4 เป็นแบ่งจ่ายเท่ากันปีละ 25% จำนวน 4 งวด ตลอดจนผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ และการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอ
โดย สำนักงาน กสทช. ต้องเสนอแนวทางภายใน 7 วัน หากได้ข้อสรุปภายในเดือนเม.ย.2568 การประมูลจะเดินหน้าตามกำหนดเดิมในวันที่ 17-18 พ.ค.2568 หรือเลื่อนออกไปไม่เกิน 2 สัปดาห์ แต่หากยังไม่มีข้อสรุป อาจล่าช้าโดยไม่มีกำหนด ส่วนจะนำคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz ซึ่งปัจจุบันเป็นคลื่นที่มีการใช้งานในกิจการโทรทัศน์ดิจิทัล โดยจะสิ้นสุดใบอนุญาตในปี 2572 เข้าประมูลครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ยังไม่มีความชัดเจน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคม กล่าวว่า การนำคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz ออกมาประมูลร่วมด้วย ทั้งที่ไม่ได้นำไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะก่อนหน้านี้ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ให้บริการมือถือบางรายหรือไม่
ขณะเดียวกัน การที่สภาองค์กรของผู้บริโภค เข้ายื่นหนังสือต่อ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) ถึง 2 ครั้ง (12 และ 18 มี.ค.68) เพื่อขอให้ชะลอการประมูล ทบทวนหลักเกณฑ์ และเปิดรับฟังความคิดเห็นใหม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะแล้ว ทำให้เกิดคำถามถึงบทบาท และวาระที่แท้จริง
"การเร่งให้ประมูลคลื่นที่จะใช้งานได้จริงอีก 3 ปีข้างหน้า เป็นการแย่งชิงความได้เปรียบทางธุรกิจ มากกว่าตอบโจทย์ทางเทคนิค"
เขา ยังกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน กสทช.ต้องเร่งจัดการประมูลให้เสร็จสิ้นก่อนใบอนุญาตของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที หมดอายุในวันที่ 3 ส.ค.2568 ไม่เช่นนั้น อาจต้องใช้มาตรการเยียวยาขยายเวลาคืนคลื่น ซึ่งขัดต่อคำพิพากษาของศาลที่ระบุว่า การประมูลต้องเกิดขึ้นล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสียหายต่อรัฐ หาก กสทช.ล่าช้าจนเกิดผลกระทบ หน่วยงานต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 หรือไม่
อีกทั้ง ยังมีประเด็นการตั้งราคาคลื่น 2100 และ 2300 MHz ที่มีบอร์ด กสทช.กำชับให้สำนักงาน กสทช.ไปทำราคาขั้นต่ำ (Reserved Price) ใหม่ทั้งหมด เพราะในการประชาพิจารณ์ที่ผ่านมา มีการกำหนดราคาลดลง 30% นั้น ดูเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย เพราะ คลื่นย่าน 2100 MHz ที่เป็นของค่ายมือถือรายหนึ่งที่มีการใช้งานอยู่ กับคลื่นย่าน 2300 MHz มีอีโคซิสเต็มส์ของอุปกรณ์ที่ต่างกัน ดังนั้น ราคาที่ถูกกำหนดออกมาในตอนแรกไม่ได้ถือว่าต่ำลง แต่บอร์ด กสทช.ควรต้องคำนึงถึงต้นทุน และบริบทของการใช้งานที่เปลี่ยนไปด้วย
- สำหรับราคาความถี่ 2100 มีทั้งแบบ FDD และ TDD รวมมีจำนวน 15 ชุดความถี่ ราคาเริ่มต้น 497-3,391 ล้านบาท
- ส่วนความถี่ 2300 จำนวน 7 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 10 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 1,675 ล้านบาท
- ส่วนความถี่ 3500 หากจะนำมาประมูลในครั้งนี้ มีจำนวน 100 MHz คาดว่ามีราคา ไม่ต่ำกว่าชุดความถี่ละ 5,000 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์