บิ๊กเทคคอมพานีโลก ‘AWS’ จับตาปี 68 จุดเปลี่ยน AI ในประเทศไทย

บิ๊กเทคโลก AWS มองเทรนด์ AI ในประเทศไทย คาดถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ ปีแห่งการสร้างคุณค่าทางธุรกิจจาก AI และ Generative AI

“กรุงเทพธุรกิจ” จัดงานสัมมนา AI Revolution 2025: A New Paradigm of New World Economy การปฏิวัติด้วย AI : กระบวนทัศน์ของเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ เปิดวิสัยทัศน์เทคคอมพานีระดับโลก และในประเทศไทย กับมุมมองเกี่ยวกับ “AI” เมกะเทรนด์เทคโนโลยีที่ยังคงร้อนแรง และกำลังเข้ามาพลิกโฉมโลกธุรกิจ และการใช้ชีวิตของผู้คนในหลากหลายมิติ...

Special Talk: AI Empowering: Business Opportunities

วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AWS แสดงวิสัยทัศน์ว่า ช่วงสองถึงสามปีมานี้ถนนทุกสายต่างมุ่งสู่ AI เช่นเดียวกับในปี 2568 นี้ที่ได้เห็นว่าองค์กรชั้นนำกว่า 80% ทั่วโลกกล่าวว่า มีแผนที่จะนำเอไอมาใช้งานไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

หากมองถึงพัฒนาการของ Generative AI สรุปได้ว่าปี 2566 เป็นจุดเริ่มต้นของ “POC” และการพูดคุยทำความเข้าใจว่า GenAI คืออะไร ปลอดภัยหรือไม่ และจะเริ่มต้นอย่างไร จากนั้น ปี 2567 เริ่มต้นจัดทำโครงการต้นแบบ พร้อมมองหาแนวทางที่จะปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของธุรกิจ

ส่วนปีนี้ ที่น่าจับตามองคือ การนำ AI รวมถึง GenAI มาใช้งานจริงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ สร้างผลกระทบเชิงบวก หาแนวทางที่จะนำ AI agents มาใช้งาน และทำให้บุคลากรรวมถึงวัฒนธรรมองค์กรมีความสอดคล้อง สามารถก้าวไปข้างหน้าได้พร้อมกัน

เชื่อว่าปี 2568 จะเป็นปีแห่งการสร้างคุณค่าทางธุรกิจจาก Generative AI อย่างแท้จริง หลังจากที่หลายองค์กรได้ทดลอง และเรียนรู้มาระยะหนึ่งแล้ว และที่น่าจับตามองคือ การมาของ Agentic AI, มัลติโมเดล ที่เลือกใช้หลายโมเดล ไม่จำเป็นต้องเป็นโมเดลขนาดใหญ่, การใช้โมเดลที่มาจากหลายสื่อ (Multiple models) และการสร้างมาตรฐาน และกฎเกณฑ์การกำกับดูแล AI

ปีนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้งานจริงในภาคธุรกิจและสังคม การนำ AI มาประยุกต์ใช้ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับองค์กรที่ต้องการคงความสามารถในการแข่งขัน

สำหรับ AWS มีแผนสนับสนุนการใช้ AI อย่างครอบคลุม ทำให้ใช้งานได้ง่าย พร้อมช่วยเปิดสวิตช์ ไฟ Gen AI ให้กับทุกองค์กร ภายใต้แนวคิดที่พยายามทำให้ลูกค้ามีทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ และหลากหลายมากที่สุด ราคาคุ้มค่าต่อการลงทุน เชื่อว่าในโลกของ AI ไม่มีโมเดลใดโมเดลหนึ่งจะครองโลกไปได้ตลอด ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าจะเลือกใช้งานแบบใด

อาทิ ชิป AWS Trainium กลุ่มชิป AI ที่ AWS สร้างขึ้นสำหรับการฝึก AI และการอนุมานเพื่อให้ประสิทธิภาพสูงไปพร้อมๆ กับลดต้นทุน เทียบกับชิปของอินวิเดียถูกกว่า 40-50%, Amazon Bedrock ที่สามารถรองรับโมเดลจากผู้พัฒนาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Amazon เอง, AI21Labs, Meta, Anthropic, Cohere, stability.ai, รวมถึง Deepseek R-1 ฯลฯ ,โมเดลพื้นฐานรุ่นใหม่ Amazon Nova ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงทว่าต้นทุนต่ำกว่าเดิมถึง 75% ที่จะเข้ามาสร้างมิติใหม่ให้กับโมเดล GenAI

ขณะเดียวกัน มีบริการแอปสำเร็จรูปสำหรับนักพัฒนา แซนด์บ็อกซ์ที่สามารถนำไปใช้เป็นโมเดลตั้งต้นได้ รวมถึงโปรแกรมสนับสนุน ที่ช่วยให้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันได้ ตอบโจทย์ทั้งบุคคลทั่วไป เยาวชน และชุมชน

พร้อมกันนี้ ยังคงมุ่งขับเคลื่อนการเติบโตประเทศไทยด้วย “AWS Asia Pacific (Thailand) Region” ส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนในประเทศไทยกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ในระยะเวลา 15 ปี ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานโดยเฉลี่ยกว่า 11,000 ตำแหน่งต่อปี ส่งผลให้จีดีพีของไทยเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์

ก้าวต่อไปของการพัฒนา AI ในประเทศไทย มุ่งเน้นการสร้างโมเดลที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งข้อความ เสียง และวิดีโอ พร้อมให้ความสำคัญกับ Responsible AI เพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างมีจริยธรรม และเป็นประโยชน์ต่อสังคม เราตระหนักดีว่าการนำ AIไปใช้ไม่ใช่เรื่องง่าย องค์กรต้องพิจารณาอย่างรอบคอบใน 4 มิติหลัก ได้แก่ ความพร้อมของข้อมูล ระยะเวลาในการพัฒนา ความเสี่ยง และศักยภาพของบุคลากร

AWS ยังได้ยกตัวอย่างความสำเร็จที่น่าสนใจจากบริษัทชั้นนำของไทย กรณีศึกษาแรก คือ ซีพี ออลล์ซึ่งสามารถใช้ AI ในการวิเคราะห์ และจัดการสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ลดปริมาณสินค้าคงค้างลงได้ถึง 40% และยังช่วยลดระยะเวลาในการบริหารสินค้าลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกตัวอย่างหนึ่งคือ บริษัท acommerce ที่ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพการขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยสามารถเพิ่มยอดขายได้สูงถึง 71%