อาลีบาบารุกตลาดโลก เตรียมปล่อย ‘Qwen-3’ พร้อมขยายบริการ AI ในสิงคโปร์

อาลีบาบารุกตลาดโลก เตรียมปล่อย ‘Qwen-3’ พร้อมขยายบริการ AI ในสิงคโปร์

อาลีบาบาทุ่มงบ 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ พัฒนาคลาวด์ และเอไอใน 3 ปี พร้อมเปิดบริการผ่านสิงคโปร์ เตรียมเปิดตัวโมเดล ‘Qwen-3’ และบริการเอไอใหม่หลายรายการ ใช้กลยุทธ์ราคาประหยัดท้าชนยักษ์เอไอตะวันตก

อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ธุรกิจบริการคลาวด์ยักษ์ใหญ่จากจีน ประกาศแผนขยายบริการด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับลูกค้าต่างประเทศอย่างจริงจัง เพื่อดึงดูดลูกค้าในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น โดยเริ่มให้บริการผ่านศูนย์ข้อมูลของอาลีบาบาในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเพิ่มทางเลือกการให้บริการแบบแพลตฟอร์ม (platform-as-a-service)

การให้บริการผ่านศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ช่วยให้อาลีบาบาสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้สะดวกขึ้น โดยไม่ติดข้อจำกัดด้านกฎระเบียบของจีน นอกจากนี้ ด้านกลยุทธ์ราคา อาลีบาบาเสนอบริการในราคาที่ค่อนข้างต่ำกว่าตลาด เช่น เครื่องมือธุรกิจอัจฉริยะสำหรับนักพัฒนาในราคาเพียง 1 ดอลลาร์ต่อปี เพื่อดึงดูดผู้ใช้

อาลีบาบาปรับปรุงโมเดลเอไอขนาดใหญ่ของตัวเองหลายตัว ได้แก่ Qwen-Max และ QwQ-Plus โมเดลที่เน้นการใช้เหตุผล มีลักษณะคล้ายกับโมเดล DeepSeek นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ได้แก่

  • AI Doc: เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์และจัดการเอกสารหลากหลายรูปแบบ เช่น รายงานธุรกิจ คู่มือ และแหล่งข้อมูลอื่นๆ
  • Smart Studio: บริการสร้างเนื้อหาด้วยเอไอแบบสร้างสรรค์ ทั้งข้อความ ภาพ และวิดีโอ

ตามรายงานของ Bloomberg อาลีบาบากำลังเตรียมเปิดตัวการอัปเกรดที่สำคัญในเดือนเม.ย. โดยจะเปิดตัวโมเดลเรือธงรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า “Qwen 3” ซึ่งคาดว่าจะเป็นโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า

นอกจากนี้ สำนักงานใหญ่ของอาลีบาบาที่ตั้งอยู่ในเมืองหางโจวของจีน ยังได้เปิดตัวผู้ช่วยเอไอเวอร์ชันใหม่ที่ชื่อว่า Quark ซึ่งเป็นเครื่องมือที่รวมความสามารถหลายอย่างเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาแบบแชตบอตที่ช่วยตอบคำถาม และให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์เชิงลึกที่ช่วยแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และการทำงานตามคำสั่งที่ผู้ใช้ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ Quark เป็นเสมือนผู้ช่วยอัจฉริยะที่ครบวงจรมากขึ้น

อาลีบาบา คลาวด์ เป็นหนึ่งในธุรกิจสำคัญของอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ในวงการค้าปลีกออนไลน์ของจีน โดยเมื่อเดือนก.พ. กลุ่มบริษัทแม่ได้ประกาศว่าจะลงทุนอย่างน้อย 380,000 ล้านหยวน (ประมาณ 52,000 ล้านดอลลาร์) ในโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์ และเอไอในช่วงสามปีข้างหน้าซึ่งมากกว่างบประมาณที่เคยลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้ตลอดสิบปีที่ผ่านมา 

ในสนามการแข่งขันด้านบริการคลาวด์ระดับโลก อาลีบาบา คลาวด์ แม้จะเป็นผู้นำตลาดในประเทศจีน แต่ยังคงตามหลังยักษ์ใหญ่จากตะวันตกอย่าง Amazon Web Services และ Microsoft ที่ครองส่วนแบ่งตลาดโลกอยู่ในขณะนี้ 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจเมื่อบริษัทเทคโนโลยีจากจีนเริ่มนำเสนอบริการเอไอในราคาที่ประหยัดกว่ามาก ตัวอย่างเช่น DeepSeek โมเดลเอไอจากสตาร์ตอัปจีน ที่สามารถผลิตโมเดลเอไอประสิทธิภาพสูง แต่ใช้ต้นทุนในการพัฒนา และดำเนินการที่ต่ำกว่าบริษัทในซิลิคอน วัลเลย์

การที่อาลีบาบา คลาวด์ ขยายบริการสู่ตลาดต่างประเทศในครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่ความพยายามธรรมดาในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจในตลาดเทคโนโลยีเอไอระดับโลก

เพราะเมื่อผู้ให้บริการจากจีนสามารถนำเสนอบริการที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันในราคาที่ถูกกว่ามาก อาจทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกหันมาพิจารณาทางเลือกจากบริษัทจีนมากขึ้น

 

 

อ้างอิง: Asia Nikkei

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์