‘AWS’ คิกออฟอีเวนท์ใหญ่ สานพันธกิจขับเคลื่อนดิจิทัลไทย

บิ๊กเทคคอมพานีโลก “เอดับบลิวเอส” เร่งแผนขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัลประเทศไทย คิกออฟอีเวนท์ใหญ่ “AWS Summit Bangkok” ที่กรุงเทพฯ
ปักธงสนับสนุนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน พร้อมเปิดเวทีให้ลูกค้า - พันธมิตร สัมผัสประสบการณ์จริงกับระบบ “AI - คลาวด์” ชั้นนำระดับโลก พลิกเกมประเทศไทยรับมือการเปลี่ยนแปลง พร้อมเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ยุคใหม่แห่ง AI เต็มรูปแบบ
วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส หรือ เอดับบลิวเอส (AWS) ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลก แสดงวิสัยทัศน์ในงาน “AWS Summit Bangkok” ที่กรุงเทพฯ ว่า เอดับบลิวเอสยังคงมุ่งสานต่อพันธกิจสร้างอนาคตดิจิทัลประเทศไทยให้แข็งแกร่ง ผ่านการขับเคลื่อนงานใน 3 แกนหลักคือด้าน เทคโนโลยี ทรานส์ฟอร์ม และบุคลากร
การขับเคลื่อนบทต่อไปของอนาคตดิจิทัลประเทศไทย เราพร้อมให้การสนับสนุนทั้งด้านคลาวด์ ดิจิทัลอินฟราสตรักเจอร์ AI ขณะเดียวกันมุ่งผลักดันให้องค์กรในประเทศไทยใช้เทคโนโลยีทรานส์ฟอร์มธุรกิจเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง พร้อมปูทางสู่การเติบโตใหม่ๆ
ที่ขาดไม่ได้คือ การพัฒนาบุคลากร เนื่องจากเมื่อถึงปี 2573 มีการคาดการณ์ว่าทักษะของบุคลากรกว่า 39% ที่มีอยู่ในทุกวันนี้จะใช้ไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นสำคัญมากที่ต้องมีการรีสกิลและอัปสกิลเพื่อเตรียมความพร้อม
เอดับบลิวเอสเองมีโครงการสนับสนุนด้านการพัฒนาบุคลากรที่หลากหลาย ซึ่งได้ร่วมมือกับทั้งสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และพันธมิตรที่เกี่ยวข้องในภาคส่วนต่างๆ ขณะเดียวกันพยายามสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นกับคนไทยในทุกระดับ ทั้งบุคคลทั่วไป คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ ฯลฯ
ติดปีกธุรกิจด้วย ‘คลาวด์ - AI’
ส่วนกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี เน้นเรื่องการเปลี่ยนผ่านและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ทันสมัย, แพลตฟอร์มดาต้าอนาไลติกส์ AI และแมชีนเลิร์นนิง, ซิเคียวริตี้, และการให้บริการโซลูชันสำหรับภาคธุรกิจภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรเทคคอมพานีระดับโลกต่างๆ
กว่าสิบปีที่เอดับบลิวเอสเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยได้มีการขับเคลื่อนงานในหลากหลายมิติ กระทั่งปัจจุบันเครือข่ายคอมมูนิตี้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง มีคอมมูนิตี้ผู้สร้างสรรค์กว่า 19 กลุ่ม, 2 เอดับบลิวเอสฮีโร่ รวมมีสมาชิกกว่า 1.8 หมื่นคน
ส่วนความคืบหน้าล่าสุดของ “AWS Asia Pacific (Thailand) Region” งบการลงทุนมูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.9 แสนล้านบาท) ในระยะเวลา 15 ปี ที่ได้เปิดตัวและให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้มีองค์กรธุรกิจกว่า 350 รายเข้ามาใช้บริการแล้ว
เอดับบลิวเอส คาดการณ์ว่า รีเจียนแห่งนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าจีดีพีไทยมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลล์ สร้างงานไม่น้อยกว่า 11,000 ตำแหน่งต่อปี ทั้งจะช่วยให้ลูกค้าในประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากคลาวด์และเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Generative AI ได้ง่ายขึ้น
ที่สำคัญผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยและสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลาง AI ของภูมิภาค
ทุกอย่างเริ่มจาก ‘ซิเคียวริตี้’
ลอร่า กริต รองประธาน วิศวกรผู้ทรงคุณวุฒิ เอดับบลิวเอส ย้ำถึงจุดยืนที่สำคัญของเอดับบลิวเอสว่า ทุกมิติของการพัฒนาสร้างสรรค์บริการเริ่มต้นจาก “ซิเคียวริตี้” และต้องฝังอยู่ในทุกกระบวนการ
AWS มีมุมมองว่าความปลอดภัยเป็นรากฐานสำคัญของเทคโนโลยี ที่ผ่านมาจึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยตั้งแต่ระดับชิปไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ และในทุกๆ กระบวนการที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกัน ในแต่ละปีมีการยกระดับศักยภาพอินฟราสตรักเจอร์อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นช่วง 12 เดือนที่ผ่านมามีการลงทุนเพื่อเพิ่มคาปาซิตี้ให้กับเน็ตเวิร์กกว่า 80%
ปัจจุบัน พร้อมรองรับทุกการใช้งานในทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการพัฒนาด้าน AI โดยมั่นใจว่าเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการรันจีพียูเวิร์กโหลด ขณะที่ Generative AI ที่กำลังเป็นเทรนด์ระดับโลก ให้ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น AWS Trainium2 ที่เร็วกว่ารุ่นแรกสี่เท่า ประหยัดพลังงานกว่าสามเท่า และทำราคาที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนา GenAI
เปิดเวทีสัมผัสเทคโนฯ ระดับโลก
สำหรับงาน “AWS Summit Bangkok” ครั้งนี้ทางเอดับบลิวเอสจะมีการอัปเดตด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม วิสัยทัศน์ บูธจัดแสดงเทคโนโลยี และกรณีศึกษาล่าสุดสำหรับธุรกิจ พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าและพันธมิตรได้สัมผัสประสบการณ์จริงกับระบบคลาวด์ชั้นนำระดับโลกที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ในประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ สามารถเร่งการพัฒนานวัตกรรมให้เร็วยิ่งขึ้น
ปีนี้มีพันธมิตรเข้าร่วมมากกว่า 35 ราย, เวทีเสวนาด้านคลาวด์และเอไอกว่า 30 หัวข้อ, กลุ่มเวิร์กช้อป เดโม่ รวมถึงการพูดคุยตามความสนใจเฉพาะกลุ่มกว่า 50 รายการ มุ่งเน้นการนำเสนอเทคโนโลยี Generative AI ที่กำลังปฏิวัติรูปแบบการดำเนินธุรกิจ พร้อมแนะนำแนวทางการวางกลยุทธ์ด้านข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อต่อยอดการใช้งาน AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร
นอกจากนี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี พันธมิตรทางธุรกิจจากทั้งในประเทศไทยและนานาชาติ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และกลยุทธ์การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
อาทิ Generative AI แพลตฟอร์มจัดการข้อมูลรูปแบบใหม่ การพัฒนาแอปพลิเคชันให้ทันสมัย และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อยกระดับธุรกิจสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน พร้อมเปิดมุมมองถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าสนใจ