ส่องอนาคต Embedded Insurance | ต้องหทัย กุวานนท์
Embedded Insurance หรือประกันภัยที่ฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์และบริการ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต ตั้งแต่เรื่องของการเดินทาง การดูแลสุขภาพ และการซื้อสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ กำลังเป็นเทรนด์ที่ร้อนแรงที่สุดของธุรกิจประกันในเวลานี้
รายงานล่าสุดจาก InsTech ระบุว่า ตลาด Embedded Insurance กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราเฉลี่ย 20% ต่อปี และถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าแตะสองแสนล้านเหรียญ ภายในปี 2030 บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจประกันทั้งฝั่งยุโรปและเอเชียกำลังให้ความสนใจลงทุนในสตาร์ทอัพด้าน Embedded Insurtech
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทประกันชั้นนำระดับโลกอย่าง Allianz เข้าซื้อกิจการของอินชัวร์เทคสตาร์ทอัพจากเยอรมัน Simplesurance โดยเป็นการเข้าไปถือหุ้น 100% หลังจากที่ได้เริ่มเข้าไปลงทุนตั้งแต่แต่ปี 2016 ส่วนอีกบริษัทยักษ์ใหญ่ในฝั่งเอเชียอย่าง SOMPO
SOMPO ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท คัฟเวอร์ จีเนียส ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญเรื่อง การประกันภัยแบบฝังตัว (Embedded Insurance) ด้วยเม็ดเงินกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ SOMPO สามารถขยายตลาดทำให้ผู้ให้บริการดิจิทัลด้านต่างๆสามารถฝังผลิตภัณฑ์ประกันหรือการรับประกันต่างๆ ให้กับลูกค้าได้โดยตรง
การผนวกเอาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเข้าไปรวมกับสินค้าและบริการต่างๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้รูปแบบของ Embedded Insurance ก้าวสู่ยุค 3.0 ซึ่งจะทำให้ช่องทางการขายของผลิตภัณฑ์ประกันภัยเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
ในยุค 1.0 เราได้สัมผัสกับการซื้อตั๋วเครื่องบินควบคู่กับประกันการเดินทางผ่านช่องทางเอเยนต์ ในยุค 2.0 คือการนำเสนอออฟชั่นการประกันเมื่อเกิดการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์โดยผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อประกันในรูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง
นักวิเคราะห์จาก Accenture มองว่าปี 2022 อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ Embedded Insurance 3.0 ที่ผลิตภัณฑ์ประกันภัยจะฝังตัวอยู่ในผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ลูกค้าซื้อโดยที่ลูกค้าไม่ได้มีโอกาสเลือก
อีกนัยหนึ่งก็คือบริษัทประกันจะจับมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้เป็นส่วนหนึ่งของสินค้านั้นไปเลย ตัวอย่างที่เริ่มมีให้เห็นแล้วก็คือ Allianz จับมือกับรถไฟฟ้าวอลโวรุ่น XC40 โดยรวมเอาแพคเกจการประกันอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการชารจ์รถไฟฟ้าทั้งหมดรวมเข้ากับราคารถ
หรือการที่ธุรกิจขายตั๋วท่องเที่ยวและสันทนาการจับมือกับอินชัวร์เทคสตาร์ทอัพนำเสนอประกันอุบัติเหตุแบบควบรวมกับราคาตั๋วกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงหรือเอ็กซ์ตรีมสปอร์ตเช่น สกี สเก็ตบอร์ด ปีนหน้าผา เป็นต้น
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการขยายตัวของฐานลูกค้าบนช่องทางออนไลน์ ทำให้ธุรกิจประกันจำเป็นต้องรีบปรับตัวให้ทันกับโมเดลธุรกิจใหม่
แน่นอนว่ารอยต่อระหว่างยุค 2.0 และ 3.0 อาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าเรื่องของเทคโนโลยีแต่ขยายขอบเขตไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าและบริการอย่างไร้รอยต่อ
เทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่จะนำไปสู่ความเสี่ยงรูปแบบใหม่ เช่นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โรคระบาดใหม่ ภัยที่เกิดขึ้นจากการขยายตัวของเมืองใหญ่ หรือกระทั่งอนาคตรถยนต์ไร้คนขับ
สิ่งต่างๆเหล่านี้ กำลังทำให้ธุรกิจประกันจำเป็นต้องหาช่องทางและโมเดลที่จะเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดีกว่าเดิม และนี่คือเหตุผลที่ Embedded Insurance อาจจะเป็นคำตอบสำหรับธุรกิจประกันของวันนี้และต่อไปในอนาคต.
คอลัมน์ Business Transform: Corporate Future
ต้องหทัย กุวานนท์
หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทเอมสไปร์ Startup Mentor
บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ธุรกิจและการบริหารนวัตกรรม