Salesforce เปิดตัว ‘Genie’ เทคฯ ที่ทำให้ระบบหลังบ้านเป็นเรื่องง่าย

การทำงานรูปแบบใหม่ของคนยุคดิจิทัลจะเป็นแบบ Hybrid Working หรือที่พนักงานสามารถเลือกทำได้ทั้งจากออฟฟิศ บ้าน Satelllite Office หรือจากที่ไหนก็ได้ ส่งผลให้มีข้อจำกัดหรือข้อปรับเปลี่ยนใหม่ ๆ ตามมา 

เช่น คนรุ่นใหม่ไม่ชอบการทำงานนอกเหนือเวลางาน เพราะฉะนั้นการใช้แอปพลิเคชั่น ‘LINE’ คุยงานทำให้ไม่สามารถแยกเวลางานจากเวลาส่วนตัวออกได้ หรือการคุยงานในกรุ๊ปต่าง ๆ ผ่านโซเชียลมีเดียก็อาจจะทำให้ข้อมูลบางประการรั่วไหล 

บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ บิทคับ (Bitkub) สตาร์ตอัปที่ประสบความสำเร็จกลายเป็นแพลตฟอร์มเทรดเหรียญดิจิตอลชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ไม่ได้ใช้โซเชียลมีเดียหรือไลน์สื่อสารกับคนในองค์กร 

เพราะต้องการแยกเวลางานกับเวลาส่วนตัว และต้องการป้องกันข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเงินรั่วไหล จึงเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ชื่อว่า “Slack” บริการออนไลน์สำหรับสื่อสารทางธุรกิจสัญชาติอเมริกัน อยู่ภายใต้บริษัท เซลส์ฟอร์ซ ดอทคอม จำกัด 

กิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ กรรมการผู้จัดการ เซลส์ฟอร์ซ ประเทศไทย

จุดเด่นของ Slack คือ ไม่ต้องใช้เบอร์โทรในการใช้งาน ทำให้ตอนเปลี่ยนเครื่องไม่ยุ่งยาก, ใช้งานได้ฟรี ไม่มีโฆษณา รวมไปถึงอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่าง ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ก็เคยใช้ Slack แบบเสียเงิน เพื่อคุยงานในช่วงหาเสียงเลือกตั้งอีกด้วย

นอกจากนี้ เซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) ก็ยังมีโซลูชันอีกมากมายที่ช่วยจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ซึ่งช่วยเหลือธุรกิจทุกขนาดและอุตสาหกรรมเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและสร้างการเข้าถึงผู้บริโภคแบบ 360 องศา 

โดยล่าสุดได้เปิดตัว “Genie” แพลตฟอร์มรวมข้อมูลลูกค้า เรียนรู้ คาดการณ์ แนะนำ แบบเรียลไทม์ ที่จะช่วยทำให้การบริการของพนักงา นสร้างประสบสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องใช้ตัวช่วยอย่างอื่นเพิ่ม 

โซลูชันช่วยธุรกิจ พนักงาน Happy ลูกค้า Happy 

กิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ กรรมการผู้จัดการ เซลส์ฟอร์ซ ประเทศไทย กล่าวว่า เซลส์ฟอร์ซมีลูกค้าไทย อาทิ SCB, เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (Kerry Express), ไปรษณีย์ไทย, รู้ใจ (Roojai.com), บิทคับ (Bitkub), KBank, คิง เพาเวอร์, โลตัส, แกร็บ (Grab), ปตท. โออาร์ ซึ่งครอบคลุมแทบทุกอุตสาหกรรมในประเทศไทย ตั้งแต่ โลจิสติกส์ การขายปลีก ปิโตรเคมี น้ำมันก๊าซ ไปถึง ธุรกิจสตาร์ตอัป

เหตุผลที่บริษัทเหล่านี้ไว้วางใช้เลือกใช้บริการจากเซลส์ฟอร์ซเพราะเรามีโซลูชันที่ช่วยให้การทำงานของพนักงาน ผู้บริหาร ตลอดจนการบริการลูกค้านั้นมีความง่ายขึ้น 

“เซลส์ฟอร์ซช่วยให้บริษัททุกขนาดและทุกอุตสาหกรรมสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าในรูปแบบใหม่ผ่านคลาวด์, โมบายล์, โซเชียล, ปัญญาประดิษฐ์, เสียง, และบล็อกเชน” กิตติพงษ์ กล่าว 

จุดเด่นของเซลส์ฟอร์ซ คือ การช่วยจัดเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าจากทุกแหล่งมาไว้ในที่เดียวกัน ช่วยลดเวลาในการทำเซลล์รีพอร์ทแบบเดิม ๆ ซึ่งบางทีกินเวลามาก เช่น การกรอกข้อมูลลงใน Microsoft Excel แบบเก่า ๆ สามารถช่วยนักขายในการวางแผนการขาย     

ซึ่งนอกจากจะทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ครบถ้วนและง่ายดายบนหน้าจอเดียว ยังช่วยให้แบรนด์สามารถยกระดับการให้บริการโดยการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ 

นอกจากนี้ เซลส์ฟอร์ซยังตอบโจทย์เทรนด์การทำงานยุคใหม่ โดยเป็น Software as a Service (SaaS) ที่ประมวลผลแบบคลาวด์ ทำให้พนักงานสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ Work from anywhere ได้ทุกเวลาเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต เหมาะสมลงตัวกับยุค New Normal และเทรนด์การทำงานแห่งอนาคต

นวัตกรรมที่สำคัญของเซลส์ฟอร์ซ

เซลส์ฟอร์ซ เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมบริการหลายด้านไว้ในที่เดียว หากนึกหน้าตาไม่ออกให้นึกถึง “แอปสโตร์ (App Store)” หรือ “กูเกิลเพลย์ (Google Play)” โดยในปี 2565 มีการเปิดตัวฟังก์ชันใหม่ ชื่อ “Genie” แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว โดยโซลูชันด้านอื่น ๆ ของเซลส์ฟอร์ซมีดังนี้

Genie: แพลตฟอร์มข้อมูล Customer 360 แบบเรียลไทม์ใหม่ที่รวมข้อมูลลูกค้าทั่วทั้งธุรกิจและสร้างเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้า Genie เรียนรู้ คาดการณ์ แนะนำ และกระตุ้นการดำเนินการที่เกี่ยวข้องมากที่สุดที่บริษัทควรทำในช่วงเวลานี้กับลูกค้าทุกราย ทุกเวลา ในทุกช่องทาง 

แอปที่สร้างบน Genie สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ขนาดใหญ่จากแหล่งใดก็ได้ รวมถึงแอป Salesforce, แอปมือถือ, การวิเคราะห์เว็บ, อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ และแม้แต่ข้อมูลจากแอปรุ่นเก่าผ่าน MuleSoft

Slack Canvas: เครื่องมือช่วยเหลือพนักงานในองค์กร เพื่อการดูแล จัดระเบียบ และแบ่งปันแหล่งข้อมูลสำคัญ โดยจับคู่กับแพลตฟอร์ม Slack เพื่อให้ทุกคนจะสามารถปรับแต่งแคนวาสด้วยระบบอัตโนมัติที่ช่วยประหยัดเวลาให้งานเดินหน้าอย่างเต็มที่ 

ซึ่ง Slack Canvas เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดจะช่วยเสริมประสบการณ์การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์บนระบบ Slack พร้อมส่งมอบพื้นที่ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับไฟล์ มัลติมีเดีย รวมถึงการผสานการทำงานที่ทรงพลัง เป็นต้น

Automotive Cloud: สร้างขึ้นสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ ตัวแทนจำหน่าย และกลุ่มสินเชื่อยานยนต์โดยเฉพาะ Automotive Cloud ขับเคลื่อนโดย Driver 360 ซึ่งเชื่อมต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยมุมมองที่สมบูรณ์ของลูกค้าและยานพาหนะของตนเอง 

นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมนี้สามารถทำงานร่วมกันและทำการ Personalization ในทุกการโต้ตอบ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกดูรถใหม่ การซื้อ การมองหาตัวเลือกทางการเงิน หรือการบริการ สำหรับรถของพวกเขา

Net Zero Cloud: คือบริการแบบ net-zero-as-a-service ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ในทุกอุตสาหกรรมสามารถจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืนและเร่งมือสู่เส้นทาง Net Zero ได้อย่างรวดเร็ว

โดย Net Zero Cloud ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลด้านความยั่งยืน การติดตามการปล่อยมลพิษของซัพพลายเออร์โดยอัตโนมัติ และคาดการณ์และลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดยอดแพลตฟอร์มคุยงานระดับโลก

กิตติพงษ์ ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Slack ที่เซลส์ฟอร์ซพัฒนาเพิ่มเติม โดยกล่าวว่า ปัจจุบัน Slack มีผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านรายแล้ว มีบริษัทที่เลือกใช้ Slack คุยงานกว่า 7.5 แสนบริษัท 

สิ่งที่ทำให้ Slack โดดเด่นคือ Slack ทำให้คนสามารถรับส่งข้อความเหมือนกับไลน์ รับส่งไฟล์งานเหมือนกับ E-mail สามารถแชร์ข้อมูลข่าวสารได้เหมือน Twitter สามารถแสดงความคิดเห็นได้เหมือน Facebook สามารถจัดเก็บข้อมูลได้เหมือน Dropbox และยังประชุมงานออนไลน์ได้เหมือนกับ Skype, Zoom, Google Meet 

ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำได้บน Slack ในแพลตฟอร์มเดียว โดยไม่ต้องเสียเวลาสับเปลี่ยนแอปพลิเคชันไปมาแต่อย่างใด จึงตอบโจทย์การทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมก็ใช้งานได้ เพียงเข้าไปที่ slack ก็เริ่มต้นใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้เลยทันที ไม่ต้องลงโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นใด ๆ

“เซลส์ฟอร์ซมุ่งมั่นในการสร้างความสำเร็จให้กับพันธมิตร คู่ค้า และหน่วยงานตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดใน Ecosystem ของเรา ซึ่งปริมาณและคุณภาพของบุคลากรจะเป็นรากฐานสำคัญอย่างยิ่งที่จะสร้างความสำเร็จทางธุรกิจให้เกิดขึ้น เซลส์ฟอร์ซจะเป็นพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนธุรกิจคุณให้เติบโต ด้วยความเข้าใจลูกค้าสูงสุด” กิตติพงษ์ ชี้จุดสรุป