"ข้อมูล" ปฏิวัติฟุตบอล | วรากรณ์ สามโกเศศ
น้ำมันเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 20 แต่นับจากนั้นไป “ข้อมูล” ก็จะมาแทนที่ เพราะธุรกิจค้าขายอันเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในการขับเคลื่อนจะใช้ ข้อมูล เป็นปัจจัยประกอบที่สำคัญ
ผู้ใดที่สะสมข้อมูลที่มีประโยชน์ไว้อย่างเป็นระบบ และสามารถเอามาใช้วิเคราะห์ตอบปัญหาได้ตามต้องการจะเป็นผู้ชนะ
หากมีผู้ใดสามารถเข้าถึงข้อมูลของพฤติกรรมมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค ผู้ผลิต คนป่วยไข้ คนร่างกายแข็งแรง เด็กเยาวชนหรือผู้ใหญ่ ผู้ลงคะแนนเสียง ผู้สนใจการบ้านการเมือง ผู้ต่อต้านรัฐ อาชญากร พนักงานของรัฐ ฯลฯ ก็จะเป็นโอกาสทองที่สร้างความร่ำรวยจากการขายข้อมูลเพื่อการค้าการตลาด
ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เข้าใจจิตใจของการชอบพรรคการเมืองใด นโยบายแบบใด ตลอดจนเข้าใจการตัดสินใจทุกเรื่องตั้งแต่การลงทุน การลงคะแนนเลือกตั้ง การบริโภค การออม การกู้ยืม ฯลฯ เมื่อเข้าใจจิตใจก็สามารถใช้มาตรการเชิงจิตวิทยาหาประโยชน์ได้อย่างมหาศาล
การรู้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวบุคคลหนึ่ง เช่น อายุ การศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจ อาชีพ แบบแผนการดำรงชีวิต การจับจ่ายใช้สอย การเลือกสินค้าบริการ ฯลฯ ย่อมโยงใยไปถึงทางโน้มของรสนิยมในการชอบนโยบายการเมือง พรรคการเมืองและนักการเมืองได้อย่างไม่ยาก ผู้หาเสียงรู้ว่าจะพูดอะไร พูดอย่างไร จึงจะถูกใจคนกลุ่มนี้
พูดง่ายๆ ก็คือพรรคการเมืองสามารถเห็นและเข้าใจผู้ลงคะแนนเสียงได้อย่างล่อนจ้อนหมด ในปัจจุบันทั้งโลกพยายามสะสมข้อมูลลักษณะนี้ของผู้ลงคะแนนให้ได้มากที่สุด เพราะจะ “กิน” ได้ยาว
ชัยชนะของ Trump อย่างหักปากกาเซียนในการเลือกตั้งปี 2559 ด้วยการเข้าถึงผู้ลงคะแนนในรัฐที่เอียงไปทางพรรคใดได้ผ่านข้อมูลโซเซียลมีเดีย ที่บิดเบือนอย่างจงใจโดยยิงข้อมูลเข้าไปทุกวันในมือถือ จนในที่สุดก็ทำให้เอนเอียงมาทาง Trump ได้ในที่สุด
ปัจจุบันมีบริษัทฝรั่งรับจ้างทำงานลักษณะนี้มากมายไปทั่วโลก ขอแต่ให้มีข้อมูลผู้ลงคะแนนมาสมบูรณ์พอควรเถอะ รับรองใส่พานให้ได้เลย
นี่คือความสำคัญของข้อมูลในด้านการค้าขายและการเมือง สำหรับฟุตบอลนั้นก็มีการเก็บสถิติการเล่นกัน แต่เก็บไม่ต่อเนื่องและไม่สมบูรณ์ ที่สำคัญคือไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ให้ได้คำตอบอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเช่น การยิงประตูลูกโทษ เราได้ยินกันว่ามีการเก็บสถิติว่าคนยิงแต่ละคนของอีกทีมชอบยิงไปด้านใดของประตู ยิงมุมเสาสูง ต่ำ แรง ค่อย ด้านใด เพื่อให้ประตูรู้ทาง มากกว่านั้นเราไม่ได้ยินว่าจะนำมาใช้กำหนดกลยุทธ์ในการเล่นอย่างไร
ในปี 2555 Ian Granam ผู้จบปริญญาเอกด้านฟิสิกส์จากเคมบริดจ์ เข้ามาทำงานช่วยทีมโปรดของเขา โดยเริ่มงานด้วยความลำบากใจ เพราะวงการนี้ของอังกฤษยอมรับเฉพาะคนที่เคยเป็นผู้เล่น หรือเคยเป็นผู้ช่วย หรือผู้จัดการที่มีชื่อมาก่อนเท่านั้น
ที่ชิงชังที่สุดคือพวกนักวิชาการอวดรู้ มีปริญญาที่น่าหมั่นไส้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฟุตบอล เช่น พวกเขาเลยได้สถิติทั้งหลายที่เก็บกันมา ก็ไม่เห็นจะเอามาใช้อะไรได้มาก
ฟุตบอลนั้นเป็นกีฬาที่มีความไม่แน่นอนสูง ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยตัวเลข อย่างไรก็ดี เขาต่อสู้จนได้การยอมรับในที่สุด โดยเฉพาะจากผู้จัดการทีม เขาเก็บข้อมูลลักษณะสำคัญต่างๆ ของการเล่นในแต่ละครั้ง และของแต่ละคน สร้างโมเดลทางคณิตศาสตร์เพื่อวิเคราะห์แง่มุมต่างๆ
เช่น ชัยชนะครั้งนี้เป็นผลพวงสำคัญจากฝีมือแท้ๆ หรือจากการฟลุก ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาจากฝีมือไม่ถึง หรือความไม่ฟิตของผู้เล่น หรือจากสิ่งที่อธิบายไม่ได้ แค่นั้นไม่พอ มีการเก็บข้อมูลทีมคู่แข่งด้วยในลักษณะที่สำคัญต่างๆ เพื่อนำมากำหนดกลยุทธ์ในการแข่งขันแต่ละครั้ง
เขาบอกว่า สิ่งที่สำคัญของฟุตบอลก็คือ การรู้จักทีมของตัวเองว่ามีฝีมือที่แท้จริงอยู่ระดับใด ผู้เล่นแต่ละคนมีฝีเท้าที่เชื่อถือได้ในระดับใด
หากไม่รู้จักตัวเองแล้วก็คล้ายกับการบังคับเครื่องบินในเวลากลางคืนอย่างไม่มีเครื่องมือใดๆ บอกทิศทางและความสูง (flying blind) ทุกการแข่งขันกำหนดกลยุทธ์โดยใช้ความรู้สึก การสังเกตเห็น ความเชื่อดั้งเดิม ข้อมูลลับล่าสุดของทีมคู่แข่ง ฯลฯ โดยปราศจากการใช้หลักฐานจริง ซึ่งสถิติตัวเลขทั้งหมดที่เก็บสะสมมาคือ ข้อมูลของจริงที่จะช่วยได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์
Graham ทำงานให้ Liverpool ลิเวอร์พูล เป็นเวลากว่า 10 ปีจนลาออกเพื่อไปตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านกีฬาเมื่อปีที่แล้ว หลายทีมฟุตบอลติดต่อให้เขาไปทำงานให้ แต่เขาปฏิเสธเพราะงานทั้งหมดอุทิศให้ Liverpool ด้วยความรัก เขาไม่อาจทำสิ่งเดียวกันให้ทีมอื่นได้
แต่ความรู้ที่ได้รับมาจากวงการมานานพอควร ทำให้เขาสามารถช่วยวงการได้โดยเฉพาะในเรื่องการสอดส่องหานักเตะใหม่มาเสริมทีม เพราะเขามีสถิติและประวัติของนักเตะกว่า 100,000 คนทั่วโลก
Graham ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากวงการฟุตบอลในการนำเอาวิชาการมาใช้อย่างเป็นประโยชน์ จนทำให้ Liverpool ยิ่งใหญ่ตลอดสิบปีที่ผ่านมา (Champions League, UEFA Super Cup and FIFA Club World Club)
ปัจจุบันทีมใหญ่ทุกทีมมีการเก็บสถิติการเล่นอย่างจริงจัง เพียงแต่การเอามาวิเคราะห์โดยใช้โมเดลต่างๆ เพื่อตอบคำถามที่ต้องการรู้เท่านั้นที่เป็นเรื่องยาก
ความสำเร็จอย่างงดงามยิ่งของ Liverpool ในช่วงเวลาที่เขาทำงานให้นี้ เขามีส่วนร่วมอย่างสำคัญควบคู่ไปกับความสามารถสุดยอดของผู้จัดการทีมคือ Jürgen Klopp ผู้เห็นประโยชน์จากใช้ข้อมูลสถิติ และบทวิเคราะห์มีเรื่องเล่าว่าเขาเองเป็นคนที่เห็นแววของ Klopp จากการพิจารณาสถิติและมีบทบาทในการผลักดันให้จ้าง Klopp จากทีม Borussia Dortmund ในเยอรมนีเมื่อ 8 ปีก่อนด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ เขามีบทบาทสำคัญในการซื้อนักเตะจากสโมสรต่างๆ ด้วยราคาต่างๆ กัน โดยพิจารณาจากสถิติและการใช้โมเดลของเขา เช่น ซื้อสองนักเตะ Mohamed Salah และ Sadio Mane ซึ่งทำให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง
Ian Graham ปัจจุบันอายุ 45 ปี เป็นผู้ทำให้วิชาการมีบทบาทสำคัญในการสร้างชัยชนะ ทั้งๆ ที่อเมริกันฟุตบอล เบสบอล และบาสเกตบอล ได้ใช้ข้อมูลสถิติในแนวทางเดียวกันนี้มาเป็นเวลายาวนาน
เขาทำให้โลกฟุตบอลเปลี่ยนไปทั้งในเรื่องมาตรฐานและการพนันด้วย เพราะสถิติและการวิเคราะห์นำไปสู่คำพยากรณ์ใครแพ้ชนะและด้วยสกอร์เท่าใด
Ian พิสูจน์ให้เห็นว่า วิชาการแทรกอยู่ในทุกอณูของชีวิต เพียงแต่มีผู้มองเห็นและนำมันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใดเท่านั้น การตระหนักถึงการเตรียมแผนการเล่นและการจัดผู้เล่นอย่างรอบคอบผ่านการวิเคราะห์เชิงวิชาการ อาจทำให้ผู้ดูรู้สึกสนุกขึ้นอีกกระมัง
เพราะรู้ว่าทั้งสองทีมสู้กันอย่างมีหลักการ มิใช่มวยวัดและเข้าใจว่าข้อมูลคือทุกสิ่งในโลกปัจจุบัน