‘อเล็กซ์ บลาเนีย’ แห่งโปรเจกต์ World ไขคำตอบ AI จะพามนุษยชาติไปทางไหน

‘อเล็กซ์ บลาเนีย’ แห่งโปรเจกต์ World ไขคำตอบ AI จะพามนุษยชาติไปทางไหน

AI จะเป็นเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ แต่ต้องก้าวข้ามข้อจำกัดด้านความปลอดภัยด้วย ในอีก 10 ปีข้างหน้า AI จะพามนุษยชาติไปทางไหน ไขคำตอบผ่านมุมมอง ‘อเล็กซ์ บลาเนีย’ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งโปรเจกต์ ‘World’

เมื่อพิจารณาในแง่ความปลอดภัยของปัญญาประดิษฐ์ หรือ “AI” แม้ปัจจุบันจะดูเป็นประเด็นที่น่ากังวล แต่ “อเล็กซ์ บลาเนีย” ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท “Tools for Humanity” กุญแจสำคัญร่วมพัฒนาโปรเจกต์ “World” ยังเชื่อว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขให้ผ่านไปได้ แม้ว่าในระยะสั้นความก้าวหน้าอาจจะยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวังมากนัก

‘อเล็กซ์ บลาเนีย’ แห่งโปรเจกต์ World ไขคำตอบ AI จะพามนุษยชาติไปทางไหน

บลาเนีย เปิดเผยกับบัวโนสไอเรสไทม์สว่า อีกสองปีข้างหน้าเทคโนโลยี AI จะเป็นเหมือนกับอินเทอร์เน็ต มากกว่าที่จะเป็นเทคโนโลยีที่ผูกขาดโดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง แม้ปัจจุบันจะยังมีบริษัทใหญ่ไม่กี่แห่งที่พัฒนาโมเดล AI ขั้นสูง แต่หลังจากนี้จะมีบริษัทอื่นๆ อีกมากมายที่นำ AI ไปใช้เพื่อพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจมาก

ในระยะยาว เราจะเห็นการพัฒนาที่ก้าวกระโดดเกินกว่าที่คาดคิด เนื่องจากอาจมีการเติบโตแบบทวีคูณ จนกลายเป็นเทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน “ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ”

เมื่อมองไปข้างหน้าอีก 10 ปี เราอาจมองย้อนกลับมาเห็นว่าปัจจุบันเป็นเหมือน “ยุคหิน” ที่ผู้คนยังต้องเสียชีวิตจากโรคมะเร็งและความยากจนยังคงมีอยู่ทั่วโลก ซึ่งเทคโนโลยีจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ แม้ยังมีความท้าทายอื่นๆ เช่น ข้อจำกัดด้านพลังงานที่อาจเป็นอุปสรรคสำคัญ แต่โดยพื้นฐานแล้ว AI จะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับมนุษย์

ข้อมูลบน ‘อินเทอร์เน็ต’ จะมาจาก AI

การเข้ามาของ AI ทำให้ต้นทุนสร้างคอนเทนต์ลดลงจนแทบไม่มีค่าใช้จ่าย เนื้อหาที่สร้างโดย AI จะสมจริงและซับซ้อนจนแยกไม่ออกจากการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ทราฟฟิกการรับส่งข้อมูลส่วนใหญ่บนอินเทอร์เน็ตจะไม่ใช่จากมนุษย์อีกต่อไป แต่จะมาจาก AI

แม้ปัจจุบัน AI ส่วนใหญ่จะเป็นระบบแพสซีฟที่ต้องป้อนคำสั่งและทำตามออกมาแบบไม่ซับซ้อน แต่อนาคต AI จะกลายเป็น AI Agent ที่สามารถสั่งการให้ทำงานหลายขั้นตอนได้ เช่น เข้าไปค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และส่งข้อมูลกลับมายังผู้ใช้ ซึ่งจะมีความซับซ้อนมากขึ้น การรับส่งข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็น AI

ปัจจุบัน เรามักเชื่อข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ เราคิดว่าข้อมูลที่เราเห็นมาจากคนที่คิดและตัดสินใจสื่อสารข้อมูลบางอย่างบนโซเชียลมีเดีย แต่สถานการณ์นี้จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เราจะไม่เชื่อสิ่งที่เราเห็นบนอินเทอร์เน็ตโดยง่าย เราจะต้องพิสูจน์ว่าอะไรคือเรื่องจริง

อินเทอร์เน็ตในอนาคตจะแตกต่างจากปัจจุบันมาก จากที่เคยเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับนวัตกรรม มีเว็บไซต์และผู้สร้างมากมาย แต่หลังจากยุค 2000 บลาเนียกังวลว่าหลังจากนี้ AI จะทำให้สถานการณ์นี้แย่ลงไปอีก เนื่องจากบริษัทที่มีเทคโนโลยี AI ที่ล้ำหน้า จะมีอำนาจในการควบคุมและเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น

คนจะตกหลุมรัก AI

การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของ AI ทำให้เกิดแนวคิดขึ้นมาว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ AI จะมี “ตัวตน” ขึ้นมา ถึงขั้นสุดท้ายจะกลายเป็นสิ่งที่มีชีวิต (being) หรือไม่

บลาเนียมองถึงเรื่องนี้ว่าเป็นไปได้ หลายคนเคยได้ยิน AI หาคู่ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะมีคนนับพันที่ตกหลุมรัก AI อย่างหมดหัวใจ และพวกเขาจะไม่ยอมรับว่าระบบเหล่านี้ไม่ใช่มนุษย์

อย่างไรก็ตาม เราควรระมัดระวังอย่างมากในการแยกแยะความแตกต่าง แทนที่จะยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้อาจถือเป็นบุคคล แม้ว่าจะด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่ามนุษย์จะตกหลุมรักสิ่งเหล่านี้ก็ตาม การแยกแยะนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และควรต้องสร้างกรอบงานใหม่ทั้งหมดถึงวิธีการคิดที่เกี่ยวกับ AI และปัญหาเหล่านี้ ซึ่งค่อนข้างซับซ้อน

เกิดเป็นโปรเจกต์แยก AI ออกจาก ‘มนุษย์’

แม้ว่าเราจะมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับสิ่งที่ “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” (AGI) หรือเอไอในยุคถัดไปที่จะถูกพัฒนาให้ฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ กำลังจะทำอะไรต่างๆ ให้กับโลก แต่ก็มีปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ เมื่อบอทมีความฉลาดมากกว่าเรา เราจะไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นบอทและใครเป็นมนุษย์ นั่นคือปัญหาที่โปรเจกต์ “World” กำลังพยายามแก้ไข

“แซม อัลท์แมน” ผู้ก่อตั้ง OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง ChatGPT ได้พัฒนาโปรเจกต์ World ขึ้นมาร่วมกับ “อเล็กซ์ บลาเนีย” และ แม็กซ์ โนเวนด์สเติน เพื่อจะมาแก้ปัญหาการแยกแยะระหว่าง AI และมนุษย์ ด้วยแนวคิด Proof-of-Human (พิสูจน์ความเป็นคน) ในโลกดิจิทัล

บลาเนีย ผู้ร่วมก่อตั้ง “World” และซีอีโอบริษัท “Tools for Humanity” จะเปิดมุมมองถึงความสำคัญ AI ที่งานสัมมนาระดับโลก “The World's Next Opportunities and Beyond” หรือ The World's Next จัดโดย MFC ร่วมกับ Nation Group เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และมุมมองเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจในยุค AI และการลงทุนในอนาคต โดยงานจะจัดขึ้น ณ ห้องเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 22 ในวันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2568