เผยเม็ดเงินลงทุนผ่าน LINE Ads สูงสุด 'เครื่องสำอางค์-ค้าปลีกแฟชั่น' พุ่ง!!
LINE เปลี่ยนชื่อแพลตฟอร์มโฆษณาเป็น LINE Ads เผยเทรนด์ใช้งานในไทย เม็ดเงินลงทุนผ่าน LINE Ads สูงสุดใน 3 ปีที่ผ่านมา และคงครองตำแหน่งปีนี้ คือ ธุรกิจเครื่องสำอางค์ ธุรกิจค้าปลีกแฟชั่น ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ
LINE for Business ตอกย้ำแพลตฟอร์มแห่งการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ ประกาศปรับเปลี่ยนชื่อเครื่องมือการลงโฆษณาเดิมจาก LINE Ads Platform (LAP) สู่ LINE Ads เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นต่อนักโฆษณา ผู้ประกอบการทั่วไทย พร้อมเผยเทรนด์การใช้งานล่าสุด ให้ผู้ใช้เข้าใจการขับเคลื่อนของโฆษณาออนไลน์ในโลกธุรกิจ เดินหน้าอัปเกรด ฟีเจอร์ใหม่ เสริมประสิทธิภาพการยิงโฆษณาบนแพลตฟอร์มให้ดีขึ้นกว่าเดิม
เทรนด์น่าสนใจบน LINE Ads
นายจิรพัฒน์ เดชดนู หัวหน้าฝ่าย Display Advertising, LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า LINE Ads ได้รับความนิยมใช้งานเป็นอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลอย่างจริงจัง โดยธุรกิจที่มียอดเม็ดเงินลงทุนผ่าน LINE Ads สูงสุดในสามปีที่ผ่านมาและยังคงครองตำแหน่งในปีนี้ คือ ธุรกิจเครื่องสำอางค์ (Cosmetics) ธุรกิจค้าปลีกแฟชั่น (Shopping & Fashion) และธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ (Healthfood) โดยยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่องในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่มาแรงคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นในปีนี้เป็นพิเศษ คือ ธุรกิจยานยนต์ คาดการณ์เติบโตที่ 93% ธุรกิจสถาบันการเงินที่ 70% และธุรกิจเทคโนโลยีที่ 52% ด้วยเหตุจากการขยายการให้บริการ หรือการออกสินค้าใหม่ที่ต้องการเข้าถึงลูกค้าโดยตรงผ่านทางออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์กระแสหรือความต้องการตลาดได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ อาทิ การให้บริการสินเชื่อผ่านแอปฯ ต่างๆ การออกรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่กำลังเป็นกระแสความสนใจ เป็นต้น เหล่านี้เป็นปัจจัยกระตุ้นการใช้เม็ดเงินโฆษณาบน LINE Ads ทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน เมื่อมองในด้านของวัตถุประสงค์การใช้งานโฆษณาบน LINE ซึ่งมีหลากหลายให้เลือกตามความต้องการของแบรนด์แล้ว วัตถุประสงค์ “Reach” ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนจาก Reach & Frequency เดิม เพื่อเสริมประสิทธิภาพของการโฆษณาในแง่ของจำนวนการเข้าถึงผู้ใช้งานแต่ละคนในต้นทุนที่ต่ำลง ได้กลายเป็นวัตถุประสงค์การลงโฆษณาที่ LINE มองเห็นอัตราการเติบโตในแง่ของเม็ดเงินการลงทุนจากแบรนด์มากที่สุดในปีนี้ถึง 467%
โดยวัตถุประสงค์ VDO View มีแนวโน้มการเติบโตที่ 35% สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคไทย ที่นิยมรับชมวิดีโอสั้นในปัจจุบัน ทั้งนี้ แบรนด์ยังสามารถใช้ประโยชน์จากการเก็บ Reach จากแคมเปญโฆษณาในระดับสร้างการรับรู้ (Awareness) ต่อยอดนำไปสู่การทำแคมเปญเพื่อให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์ (Consideration) และตัดสินใจซื้อ (Conversion) ในลำดับต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการทำแคมเปญโฆษณาในระดับ Consideration และ Conversion วัตถุประสงค์ “Gain Friend” เพื่อเพิ่มเพื่อนให้กับ LINE OA ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเติบโต 9% ในขณะที่วัตถุประสงค์ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายไปที่เว็บไซต์อย่าง “Website Visit” กลายเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นมาก คาดว่าจะเติบโตประมาณ 34% เนื่องจากในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล หลายแบรนด์มีความพร้อมในการจัดทำเว็บไซต์หรือหน้าร้านของตนบนโลกออนไลน์ได้อย่างครบครัน จึงต้องการสร้าง traffic ไปที่เว็บไซต์หรือหน้าร้านของตนเพื่อปิดการขายได้ทันที ในขณะที่แคมเปญเพื่อกระตุ้นการใช้งานแอปฯ ก็เห็นการเติบโตไม่แพ้กัน
ทั้งในส่วนวัตถุประสงค์ “App Install” ที่คาดว่าจะเติบโต 50% และ “App Engagement” ที่คาดว่าจะเติบโตถึง 900% อันเนื่องมาจากการ retarget เชิญชวนหรือกระตุ้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มผู้ติดตั้งแอปฯ ไว้แล้วแต่ไม่แอคทีฟ หรือกลุ่มที่เคยใช้บริการ ซื้อสินค้าผ่านแอปฯ มาแล้ว ให้หันกลับมาสนใจ เข้าใช้บริการในแอปฯ อีกครั้งอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจเกมและธุรกิจสถาบันการเงินถือเป็นธุรกิจหลักที่ใช้งานโฆษณาด้วยวัตถุประสงค์เหล่านี้
ในด้านประสิทธิภาพของโฆษณาที่สะท้อนความสนใจของผู้บริโภค ธุรกิจสื่อและบันเทิง เช่น สำนักข่าว ทีวีสตรีมมิ่ง ถือเป็นธุรกิจมาแรงที่ได้รับความสนใจ โดยคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น หรือ CTR สูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ 0.81% ตามมาด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน และธุรกิจเครื่องสำอางค์ 0.72% และ 0.57% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงโฆษณาบน LINE Ads มีสถิติยืนยันจากการใช้งานว่า แบรนด์ที่มีการทำแคมเปญโดยใช้ดาต้าจากหลากหลายช่องทางมาวิเคราะห์ ทำ Cross-Targeting ร่วมกัน จะช่วยให้ผลลัพธ์ตัวเลข CTR เพิ่มขึ้นถึง 1.3 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับการทำแคมเปญโดยใช้ดาต้าจากช่องทางหรือเครื่องมือเดียว
หนึ่งในจุดเด่นของ LINE Ads คือการมีพื้นที่ในการลงโฆษณาหรือ Ads placement ในแพลตฟอร์มมากถึง 6 พื้นที่ด้วยกัน โดยทุกพื้นที่ต่างมีศักยภาพและจุดเด่นที่แตกต่างกัน เริ่มตั้งแต่หน้า HOME TAB พื้นที่ใหม่ล่าสุดรองรับโฆษณาในหลากหลายวัตถุประสงค์ ล่าสุดได้เปิดรองรับโฆษณาวัตถุประสงค์ “Gain Friends” แล้ว หน้า CHAT LIST ที่มีผู้ใช้งานมากถึง 53 ล้านคน ถือเป็นพื้นที่ทำเลทองที่กลุ่มคนทุกเพศทุกวัยเข้ามาใช้งาน เช็คหน้ารายการแชทอยู่เสมอ
หน้า LINE VOOM ที่มีผู้ใช้งานมากถึง 35 ล้านคนต่อเดือน นำโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ต่างจังหวัดครอบคลุมทั่วไทย โดยแบรนด์สามารถลงโฆษณาเพื่อเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้ในรูปแบบ VDO สั้นซึ่งกำลังเป็นที่นิยม
หน้า LINE TODAY กับยอดผู้ใช้งาน 38 ล้านคนต่อเดือน นำโดยกลุ่มคนในวัยทำงานที่ต้องการเสพข่าวสารสาระประจำวัน หน้า LINE WALLET กับยอดผู้ใช้งาน 26 ล้านคนต่อเดือน นำโดยกลุ่มสูงวัย ซึ่งนับเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ที่นิยมเข้ามาช้อปปิ้งออนไลน์และทำธุรกรรมการเงินต่างๆ
และท้ายสุดคือใน LINE OpenChat พื้นที่ใหม่มาแรง คอมมิวนิตี้ออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน ด้วยอัตรา Engagement ของผู้เข้าใช้งานปัจจุบันสูงถึง 58.8% ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเรื่องการศึกษา กลุ่มแฟนคลับศิลปิน รวมไปถึงกลุ่มพูดคุยด้านการเงิน การลงทุน เป็นต้น
ฟีเจอร์ใหม่ พลาดไม่ได้บน LINE Ads
ในปีนี้ LINE for Business ได้นำเสนอโซลูชั่นใหม่ที่แบรนด์สามารถนำมาต่อยอดการใช้งาน LINE Ads ให้ทรงพลังมากขึ้น พัฒนาฟีเจอร์เดิมบน LINE Ads ให้ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมสร้างฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย เพื่อช่วยให้นักการตลาดใช้งานได้สะดวก และมีประสิทธิภาพกว่าเดิม โดยมีไฮไลท์ 4 ฟีเจอร์ เครื่องมือที่น่าสนใจ พร้อมให้แบรนด์ได้ใช้งานแล้ววันนี้! ดังนี้
1. Business Manager คือ ดาต้าโซลูชั่นใหม่จาก LINE เป็นเสมือนตัวกลางที่ช่วยรวบรวมและแชร์ข้อมูลจาก 3 เครื่องมือที่อยู่บน LINE Ecosystem คือจาก LINE Official Account (LINE OA), LINE Ads และ LINE Smart Channel ได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้แบรนด์สามารถนำข้อมูล Target Audience จากทั้ง 3 เครื่องมือมาวิเคราะห์ ต่อยอดสู่การทำ Cross-Targeting ในการสื่อสาร ทำการตลาดผ่าน LINE OA และ LINE Ads ได้ สามารถช่วยเพิ่ม CTR ขึ้นได้มากถึง 1.3 เท่า นอกจากนี้ ยังมี Cross Service Report ที่จะทำให้นักการตลาดสามารถเห็นข้อมูลทั้งหมดและนำไปวิเคราะห์ทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. Smart Channel Custom คือ ตำแหน่งโฆษณาในหน้ารายการแชท หรือที่เรียกว่า Smart Channel ทำเลทองสำหรับการลงโฆษณาบน LINE ที่แต่เดิมธุรกิจจะสามารถซื้อโฆษณาตำแหน่งนี้ได้ผ่านการจองและสามารถรันโฆษณาได้เพียง 1 วันเท่านั้น
ทั้งนี้ LINE ได้ปรับเปลี่ยนใหม่ ให้การลงโฆษณาตำแหน่งนี้มีความยืดหยุ่นขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเปิดให้แบรนด์สามารถซื้อผ่านระบบ Bidding บน LINE Ads ได้ สามารถกำหนดระยะเวลาการรันแคมเปญโฆษณาเองได้สูงสุดถึง 31 วัน สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ผ่านระบบ Bidding แต่ยังคงความพรีเมี่ยมของชิ้นงานโฆษณาเพื่อออกสู่สายตาผู้ใช้บนทำเลทองนี้ได้ ทั้งรูปแบบภาพนิ่งอันสวยงาม มีสีสันตามที่แบรนด์ต้องการ รวมถึงขยายเป็นเฟรมวิดีโอโฆษณาที่ใหญ่ขึ้นเพื่อถ่ายทอดชิ้นงานวิดีโอโฆษณา (Expandible Ads) ได้ชัดเจน น่าดึงดูดใจ
อย่างไรก็ตาม แบรนด์ยังสามารถเลือกที่จะใช้งานได้ทั้งแบบเดิมผ่านการจองล่วงหน้า และแบบใหม่ด้วยการ Bidding หรือที่เรียกว่า Smart Channel Custom นี้ได้ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแคมเปญโฆษณานั้นๆ
3. Reach Objective เป็น Objective หรือวัตถุประสงค์ใหม่ในการลงโฆษณาบน LINE Ads ที่เปิดตัวในปีนี้ พัฒนามาจาก Reach & Frequency เดิมให้มีการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ได้กับทั้ง 6 พื้นที่ของ LINE Ads และกับ Ads ทุกรูปแบบ ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
โดยสามารถกำหนดจำนวนความถี่ที่ต้องการให้กลุ่มเป้าหมายเห็น พร้อมช่วงเวลาและจำนวนการมองเห็นได้ด้วย เช่น ตั้งความถี่การมองเห็น 10 ครั้งตลอดแคมเปญ แต่ใน 10 ครั้งนี้ ขอให้เห็นเป็นช่วงความถี่ เช่น เห็นอย่างน้อย 4 ครั้งในสัปดาห์แรก และลดลงในสัปดาห์ถัดไป เป็นต้น เรียกได้ว่า สามารถลงรายละเอียดในการตั้งค่าการเข้าถึงได้มากขึ้น ส่งผลทำให้ต้นทุนต่อ Reach ของแบรนด์ หรือ CPR ต่ำลงถึงกว่า 83%
4. Instream Ads โฆษณารูปแบบใหม่บน LINE VOOM โดยแบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบ VDO (Mid-roll Skippable Ads) ที่จะขึ้นแทรกระหว่างผู้ใช้รับชมวีดีโอคอนเทนต์จากหน้า LINE VOOM โดยจะขึ้นตรงวินาทีที่ 60 ของวีดีโอคอนเทนต์นั้นๆ ผู้ใช้งานสามารถกดข้ามโฆษณาได้ในวินาทีที่ 6 และแบบภาพนิ่ง (Image Ads) ที่จะปรากฎขึ้นใต้วิดีโอคอนเทนต์ระหว่างที่ผู้ใช้รับชมวิดีโอคอนเทนต์อยู่
นอกจากนี้ LINE for Business ยังเตรียมออกฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบในอนาคต เพื่อตอบโจทย์นักการตลาดและแบรนด์ไทย ยกระดับธุรกิจไทยไปอีกขั้น อาทิ วัตถุประสงค์ใหม่อย่าง Chat Ads ที่จะนำลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเข้าสู่ห้องแชทที่รันโดยแชทบอตเพื่อพูดคุยเบื้องต้นได้อย่างฉับไว โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่ม LINE OA เป็นเพื่อนก่อน นำไปสู่การปิดการขายได้ง่ายขึ้นในคลิกเดียว และ Animated Ads โฆษณารูปแบบภาพเคลื่อนไหวบนหน้ารายการแชท อีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่จะช่วยให้โฆษณาของแบรนด์คุณมีลูกเล่นและน่าดึงดูดใจมากขึ้น บนพื้นที่ทำเลทองยอดฮิตบน LINE