โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 ทำโควิดแอฟริกาใต้พุ่งอีกรอบ

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงาน นายซาลิม อับดุล การิม ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข มหาวิทยาลัยควาซูลู-นาทัลอดีตที่ปรึกษาการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาลแอฟริกาใต้ กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแอฟริกาใต้ลดลงตั้งแต่เดือน ก.พ. แต่ตอนนี้โอมิครอนสายพันธ์ุย่อยที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า BA.4 ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่การเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและไม่มีการเสียชีวิตเพิ่ม

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันขณะนี้อยู่ที่กว่า 6,000 คน เพิ่มขึ้นจากแค่ไม่กี่ร้อยคนเมื่อสองถึงสามสัปมด์ก่อน สัดส่วนผู้ติดเชื้อเพิ่มจาก 4% เมื่อกลางเดือน เม.ย. เป็น 19% เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ผลการตรวจน้ำทิ้งชี้ให้เห็นด้วยกว่าโควิดกระจายเพิ่มขึ้น

แม้สายพันธุ์ใหม่จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักเหนือโอมิครอนต้นกำเนิดและสายพันธุ์อื่นๆ อย่างรวดเร็ว แต่นายอับดุล การิม กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า BA.4 เป็นเหตุให้เกิดการระบาดระลอกใหม่เต็มตัว

กระนั้น สายพันธุ์ใหม่ก็น่าจับตาเพราะโอมิครอนสายพันธุ์แรกพบที่แอฟริกาใต้และบอตสวานาเมื่อเดือน พ.ย.2564 ก่อนกระจายไปทั่วโลก สอดคล้องกับนางสาวเฮเลน รีส ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอนามัยเจริญพันธุ์และเอชไอวี มหาวิทยาลัยวิทวอเตอร์สแรนด์ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ที่กล่าวว่า เด็กๆ เป็นกลุ่มแรกที่เข้าโรงพยาบาลเหมือนกับเมื่อตอนที่โอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมพุ่ง

เหล่าผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า BA.4 ดูเหมือนติดง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม และสายพันธุ์ BA.2 อย่างไรก็ตาม ต้องศึกษาเพิ่มเติมรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุไม่มีทีท่าว่า BA.4 เป็นเหตุให้เจ็บป่วยรุนแรงกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า

นายอับดุล การิม กล่าวด้วยว่า แอฟริกาใต้เพิ่งมีงานใหญ่ประชาชนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ทั้งเทศกาลอีสเตอร์ เดือนรอมฎอน วันหยุดพาสโอเวอร์ รวมถึงน้ำท่วมใหญ่ที่เมืองชายฝั่งเดอร์บัน เหล่านี้อาจเป็นเหตุให้การติดเชื้อพุ่งสูงในขณะนี้

“BA.4 ปรากฏในประเทศอื่นด้วย แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะกลายเป็นสายพันธ์ุหลักของโลกหรือไม่” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว