‘มาร์กอส จูเนียร์’เตือนแฟนคลับระวังถูกโกงเลือกตั้ง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งฟิลิปปินส์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พ.ค. ผลสำรวจความคิดเห็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งชี้ว่า บุตรชายผู้นำเผด็จการมีคะแนนนำคู่แข่งอย่างรองประธานาธิบดีเลนี โรเบรโด อยู่มาก ชัยชนะของเขาจะเป็นที่สุดของการฟื้นคืนตำนานบิดาและนำครอบครัวกลับคืนสู่ทำเนียบประธานาธิบดีที่ออกไปอย่างไร้เกียรติในปี 1986 (พ.ศ.2529)

ตอนเลือกตั้งรองประธานาธิบดีในปี 2559 โรเบรโดเคยตามหลังมาร์กอสจูเนียร์แต่ก็ตีตื้นจนเอาชนะไปได้ไม่มาก เมื่อเร็วๆ นี้ความนิยมของเธอพุ่งขึ้นมา ทวีความหวังว่าเธอจะทำได้เหมือนการเลือกตั้งครั้งก่อนอีก

สำหรับมาร์กอสจูเนียร์แม้พ่ายแพ้ห้าปีต่อมาก็กลับมาใหม่ เมื่อกลางดึกวันอังคาร (3 พ.ค.) โพสต์เฟซบุ๊คถึงผู้สนับสนุน จำเป็นต้อง “เฝ้าระวังคะแนนเสียงของพวกเรา”

ในคลิปวีดิโอสั้น มาร์กอสจูเนียร์สวมเสื้อบารงแบบฟิลิปปินส์ ยืนอยู่หลังแท่นมีธงชาติฟิลิปปินส์เป็นฉากหลัง ต่างจากสไตล์ลำลองตามปกติของเขา

“เราต้องปกป้องการตัดสินใจของเรา ต้องไม่ปล่อยให้ถูกขโมยไปจากเราได้อีก” มาร์กอสจูเนียร์กล่าว

การเลือกตั้งครั้งนี้มีชาวฟิลิปปินส์ลงทะเบียนแล้วราว 67 ล้านคน การเปลี่ยนระบบลงคะแนนด้วยมือมาเป็นลงคะแนนอิเล็กทรอนิสก์ในปี 2553 ทำให้โกงเลือกตั้งยาก แม้การซื้อเสียงยังมีอยู่ทั่วไปในประชาธิปไตยอันฉ้อฉลของฟิลิปปินส์

ผลสำรวจความคิดเห็นโดยพัลส์เอเชียรีเสิร์ช เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (2 พ.ค.) ชี้ว่า มาร์กอสจูเนียร์ชนะ 56% นำโรเบรโด 33%

อิเกลเซีย นี คริสโต กลุ่มคริสเตียนอนุรักษนิยมที่เชื่อว่ามีเสียงผู้สนับสนุนกว่า 1 ล้านคนพร้อมลงคะแนนให้กับคนที่ผู้นำกลุ่มสนับสนุน เมื่อวันอังคารเพิ่งรับรองมาร์กอสจูเนียร์ กับซารา ดูเตอร์เต คู่ชิงรองประธานาธิบดี คนที่กลุ่มสนับสนุนล้วนชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี กลุ่มยังเคยสนับสนุนมาร์กอสจูเนียร์ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในปี 2559 ที่เขาพ่ายแพ้

ปีนี้แม้มีคะแนนนำในโพลมาร์กอสจูเนียร์กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ไม่มั่นใจว่าจะชนะ

“ทุกคนรู้ดีว่าผมเป็นเหยื่อในปี 2559 แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องระวัง เพราะคุณทุกคนรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นและสามารถเกิดได้อีก” เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็น ฟิลิปปินส์ อย่างที่ไม่ค่อยมีบ่อยนัก