ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้น 45เซนต์ขานรับผลประชุมโอเปกพลัส
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันพฤหัสบดี(5พ.ค.)ปรับตัวขึ้น 45 เซนต์ ขานรับผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้น 45 เซนต์ ปิดที่ 108.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ ปิดที่ 110.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
โอเปกพลัสได้เสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้แล้ว โดยที่ประชุมมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการกำหนดนโยบายการผลิตสำหรับเดือนมิ.ย. โดยจะยังคงเพิ่มกำลังการผลิต 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ โอเปกพลัสมีมติดังกล่าว แม้ว่าสหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นกว่าในระดับปัจจุบัน หลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 139 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนมี.ค. ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
โอเปกพลัสอ้างว่าทางกลุ่มไม่ควรถูกตำหนิ หรือรับผิดชอบต่อการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันที่เกิดจากภาวะตึงตัวในตลาดขณะนี้ เนื่องจากเป็นปัญหาที่ชาติตะวันตกก่อขึ้นเองในการคว่ำบาตรรัสเซีย นอกจากนี้ โอเปกพลัสยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่จะได้รับผลกระทบจากการที่จีนประกาศล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้และบางส่วนของกรุงปักกิ่งเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หากซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เห็นพ้องกับชาติตะวันตกในการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอย่างมาก ก็จะสร้างความขัดแย้งกับรัสเซีย ซึ่งเป็นสมาชิกโอเปกพลัสเช่นกัน และอาจนำไปสู่การล่มสลายขององค์กรดังกล่าว
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) เสนอให้ประเทศสมาชิก อียูระงับการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน
ทั้งนี้ นางฟอน เดอร์ เลเยน เสนอต่อที่ประชุมรัฐสภายุโรปว่าอียูจะระงับการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียภายในเวลา 6 เดือน และระงับนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นจากรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ โดยจะระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอย่างสิ้นเชิง ซึ่งรวมถึงการขนส่งน้ำมันทางทะเลและท่อส่งน้ำมัน, น้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่น
สำหรับมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียในครั้งนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกอียู ทั้งหมด 27 ประเทศ ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ฮังการีและสโลวาเกียจะยังคงสามารถซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียภายใต้ข้อตกลงปัจจุบันจนถึงสิ้นปี 2566