สหรัฐสอบสวนเชิงลึก 'ตับอักเสบ'ในเด็ก 109 คน ดับ 5
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐแถลง กำลังสอบสวนเหตุเด็ก 109 คน เจ็บป่วยด้วยโรคตับอักเสบ เสียชีวิตห้าคน ไม่เชื่อเป็นผลจากวัคซีนโควิด
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน เจย์ บัตเลอร์ รองผู้อำนวยการแผนกโรคติดเชื้อ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) แถลง เจ้าหน้าที่สอบสวนทำงานอย่างหนักศึกษาการเจ็บป่วยในสหรัฐ ต่างประเทศ และทั่วโลกเพื่อหาสาเหตุ
ทั้งนี้ ผู้ป่วย 90% เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 14% ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ ส่วนใหญ่หายดี
สัปดาห์ก่อนซีดีซีออกประกาศเตือนภัยด้านสาธารณสุข แจ้งแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขดูเคสการเจ็บป่วยแบบนี้ และเริ่มตรวจสอบย้อนหลังไปจนถึงวันที่ 1 ต.ค.2564
รายงานข่าวระบุ ผู้ที่เจ็บป่วยกว่าครึ่งตรวจพบอะดีโนไวรัส 41 ไวรัสที่ปกติเกี่ยวข้องกับโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับตับอักเสบในเด็กที่สุขภาพแข็งแรง
รอง ผอ.ซีดีซีกล่าวว่า ด้วยเหตุนี้เขาจึงจัดให้อะดีโนไวรัสเป็นไวรัสที่ต้องจับตาอันดับหนึ่ง แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยหรือทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาโดยตรงหรือไม่
นอกจากนี้จำต้องตรวจสอบปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมด้วย เช่น สัตว์ในบ้าน โรคระบาดอื่นๆ เช่น โควิดก็อาจมีส่วน ซึ่งผู้ติดเชื้ออะดีโนไวรัสอาจกลับมาอีกหลังการล็อกดาวน์โควิดหยุดยั้งการระบาดไปได้สองสามปี หรืออะดีโนไวรัสอาจวิวัฒนาการไปเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม แต่ซีดีซีไม่เชื่อว่าวัคซีนป้องกันโควิดเป็นเหตุเนื่องจากผู้ป่วยเก้าคนในแอละแบมาที่กำลังถูกสอบสวนโรคเชิงลึก เป็นเด็กอายุเฉลี่ยเพียงสองขวบ ซึ่งเด็กเกินกว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19