“จนท.สหรัฐ-ไทย-อาเซียน” ถกยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศ ก่อนประชุมผู้นำ
"เจ้าหน้าที่สหรัฐ" เริ่มถกไทย-อาเซียน ก่อนซัมมิตผู้นำ มุ่งกระชับความเป็นหุ้นส่วนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่แข็งแกร่งขึ้น
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า สหรัฐจะเริ่มต้นการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงกับไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อกระชับความเป็นหุ้นส่วนในภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและตอกย้ำบทบาทที่สำคัญยิ่งของอาเซียนในการสร้างสันติภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสหรัฐ และไทย จะพบกันที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 9-10 พฤษภาคม เพื่อเข้าร่วมการหารือยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศระหว่างสหรัฐกับไทย (U.S.-Thailand Strategic and Defense Dialogue) เป็นครั้งแรก โดยมีนายแดเนียล คริเทนบริงค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก และนายอีไล แรตเนอร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายสหรัฐ ในขณะที่นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทย และพลเอก วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหมไทย เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย
การหารือยุทธศาสตร์และการหารือด้านการป้องกันประเทศเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับไทยที่มีมายาวนาน ซึ่งการประชุมในปีนี้ถือเป็นการหารือร่วมกันและพบกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดใหญ่ขึ้นทั่วโลก การหารือในปีนี้จะครอบคลุมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและความร่วมมือในหลากหลายด้านระหว่างสหรัฐกับไทย นอกเหนือจากความร่วมมือที่กว้างขวางและหยั่งรากลึกของเราเพื่อรับมือกับความท้าทายนานัปการที่โลกกำลังเผชิญ ซึ่งรวมถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งหลังยุคโควิด-19 ความร่วมมือด้านสาธารณสุขและการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนความพยายามในการต่อสู้กับวิกฤตการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศ
“เราจะหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันที่แข็งแกร่งในฐานะที่สหรัฐ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดและหนึ่งในแหล่งลงทุนจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของไทย แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายในระดับภูมิภาคและระดับโลก สหรัฐ และไทย จะยืนยันการเป็นพันธมิตรในสนธิสัญญาและการเป็นหุ้นส่วนอันยาวนานระหว่างเรา ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือในการจัดการความท้าทายและการบรรลุเป้าหมายที่มีร่วมกันต่อไป” สถานทูตสหรัฐระบุ
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ บอกด้วยว่า หลังเสร็จสิ้นการหารือยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศระหว่างสหรัฐกับไทย จะมีการประชุมสุดยอดสหรัฐ-อาเซียน สมัยพิเศษ (U.S.-ASEAN Special Summit) โดยประธานาธิบดีไบเดนจะเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำประเทศอาเซียน ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม การประชุมสุดยอดแบบพบกันครั้งนี้จะเน้นย้ำความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนต่ออาเซียนและบทบาทสำคัญของอาเซียนในการหาทางออกที่ยั่งยืนเพื่อรับมือความท้าทายเร่งด่วนสูงสุดของภูมิภาค
การประชุมสมัยพิเศษครั้งนี้จะต่อยอดจากเมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีไบเดนได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดสหรัฐ-อาเซียน เดือนตุลาคม 2564 ซึ่งจัดขึ้นทางออนไลน์ โดยในการประชุมดังกล่าว ประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศข้อริเริ่มใหม่ๆ มูลค่า 102 ล้านดอลลาร์ เพื่อขยายความร่วมมือของเรากับอาเซียนในด้านการฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 และความมั่นคงด้านสุขภาพ ตลอดจนการต่อสู้วิกฤตการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศ การกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในวงกว้าง การส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ และการสานสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของเราให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เป้าหมายสำคัญอันดับต้นๆ ของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนและรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส คือการเป็นหุ้นส่วนที่มั่นคงและพึ่งพาได้ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อปี 2564 สหรัฐได้ประกาศยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ซึ่งกำหนดกรอบวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการต่างประเทศและความมุ่งมั่นที่ประธานาธิบดีไบเดนมีต่อความร่วมมือที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์กับพันธมิตร หุ้นส่วน และหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนอกภูมิภาค