WHO ศึกษาโควิดเอี่ยวตับอักเสบปริศนาในเด็กหรือไม่
WHO แถลง พบผู้ป่วยต้องสงสัยตับอักเสบไม่ทราบสาเหตุ 348 คน ขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้ว่าอะดีโนไวรัส และการติดเชื้อโควิด-19 มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ สมมติฐานหลักยังคงเกี่ยวข้องกับอะดีโนไวรัส
องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเมื่อวันอังคาร (10 พ.ค.) ตามเวลาสวิตเซอร์แลนด์ พบผู้ป่วยตับอักเสบใน 20 ประเทศ เพิ่มเติม 70 ราย จาก13 ประเทศ ที่กำลังรอผลการตรวจสอบเพื่อจำแนกประเภท มีเพียงหกประเทศเท่านั้น ที่รายงานผู้ป่วยมากกว่าห้าราย กว่า 160 รายพบในอังกฤษ
นางสาวฟิลิปปา อีสเตอร์บรูค จากโครงการตับอักเสบโลก WHO กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การสอบสวนโรคคืบหน้าไปมาก มีการปรับแต่งสมมติฐานที่ใช้บางส่วน อังกฤษประสานงานให้มีการศึกษาอันครอบคลุม ดูถึงพันธุกรรมของเด็กที่ติดเชื้อ การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน การศึกษาด้านไวรัส และระบาดวิทยาเพิ่มเติม
WHO ได้รับแจ้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 เม.ย. พบผู้ป่วยตับอักเสบไม่ทราบสาเหตุ 10 รายในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ที่สกอตแลนด์
ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) แถลงเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ค.) ว่า กำลังสอบสวนโรคกับผู้ป่วยแบบเดียวกัน 109 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตห้าราย
น.ส.อีสเตอร์บรูค ระบุว่า สมมติฐานนำในปัจจุบันยังเกี่ยวกับอะดีโนไวรัส แต่ก็ยังพิจารณาความเกี่ยวข้องโควิดด้วย ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อร่วมหรือติดเชื้อในอดีต
การตรวจสอบเพิ่มเติมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยืนยันว่า ราว 70% ของป่วยตรวจเจออะดีโนไวรัสสายพันธุ์ย่อย 41เป็นสายพันธุ์ที่มักเกี่ยวข้องกับโรคกระเพาะ และลำไส้อักเสบ ราว 18% ตรวจพบโควิด-19
“จุดมุ่งเน้นใหญ่ในสัปดาห์หน้าคือ ตรวจภูมิคุ้มกันการติดเชื้อครั้งก่อนหน้าหรือติดเชื้อร่วมกับโควิด” น.ส.อีสเตอร์บรูค กล่าว
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์