วัดความสำเร็จ “คณะนักธุรกิจไทย” สำรวจศักยภาพตลาด “ซาอุฯ”
นักธุรกิจไทย 38 บริษัทจาก 14 สาขา อาทิ ท่องเที่ยว บริการสุขภาพ ส่งออกสินค้า เดินทางไปเชื่อมสัมพันธ์กับนักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย 73 บริษัท ที่กรุงริยาดและเจดดาห์ ระหว่างวันที่ 15 - 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ไม่อาจประเมินความสำเร็จด้วยสายตาแต่วัดได้ด้วยแผนธุรกิจที่เกิดขึ้น
“สนั่น อังอุบลกุล” ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นักธุรกิจซาอุฯ ทั้งจากกรุงริยาดและเมืองเจดดาห์ แสดงความพร้อมจะเจรจาและเริ่มทำธุรกิจกับไทยแบบเป็นรูปธรรมทันที โดยจะเดินทางมายังไทยในเดือนมิ.ย.นี้ ทางสภาหอฯวางแผนคร่าวๆ จะจัดให้ดูงานในภาคธุรกิจที่พวกเขาสนใจ เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาพตะวันออก (อีอีซี) ที่เน้นอุตสาหกรรมการผลิตเทคโนโลยี พลังงานทดแทน พลังงานทางเลือกใหม่ และผลิตภัณฑ์เคมีคอล
นักธุรกิจซาอุฯ ยังต้องการร่วมงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2022 ระหว่างวันที่ 24-28 พ.ค.นี้ แม้เวลาจะกระชั้นไป แต่ทางสภาหอฯ พร้อมจะจัดให้คณะนักธุรกิจซาอุฯไปเยี่ยมชมงาน และออกบูธร่วมกันในปีหน้า
ไทย-ซาอุฯ ศูนย์กลางผลิตรถอีวี
"นักธุรกิจซาอุฯสนใจอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์อีวี เลยได้คุยกันเชิงลึกทราบว่า เขาต้องการแรงงานในส่วนนี้ ไทยจึงเสนอให้ซาอุฯส่งคนไปฝึกงานกับเราก่อน เพื่อเตรียมตัวสำหรับส่งแรงงานตามไปภายหลัง เพราะเร็วกว่า บนพื้นฐานความเชื่อมั่นใจว่า ซาอุฯมองไทยเป็นศูนย์กลางการค้าที่จะเป็นประตูขยายการค้าการลงทุนไปสู่อาเซียนและเอเชีย ในทางกลับกันซาอุฯจะเป็นศูนย์กลางการค้าให้ไทยในตะวันออกกลางและแอฟริกา" สนั่นกล่าว
ส่วนความร่วมมือในอุตสาหกรรมยานยนต์ระหว่างไทย-ซาอุฯ ประเทศไทยสามารถส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจให้ซาอุฯได้ โดยเฉพาะความสามารถด้านการผลิตรถยนต์อีวี เพราะไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ซาอุฯ ตั้งเป้าภายในปี 2568 ไม่แต่เพียงแหล่งผลิตรถยนต์อีวีระดับโลกแต่จะส่งออกไปยังประเทศต่างๆ
ถ้าเจาะลึกความต้องการของซาอุฯ ทราบว่า เขาต้องการให้ไทยเข้ามาช่วยสนับสนุนเรื่องดัดแปลงรถยนต์เช่นรถตู้ทั่วไปเป็นรถพยาบาล ซึ่งความร่วมมือนี้เป็นลักษณะแบ่งปันและแลกเปลี่ยน ขณะเดียวกันซาอุฯ แจ้งว่าพร้อมเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในซาอุฯได้ง่ายหวังชักชวนให้เข้ามาลงทุนในประเทศ
ซาอุฯ ตั้งเป้า นทท.ร้อยล้านคนปี 73
“โกศิน ฉันธิกุล” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการได้เข้าร่วมคณะนักธุรกิจไทยครั้งนี้ ทำให้ไมเนอร์สร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในซาอุฯรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะเห็นศักยภาพทางเศรษฐกิจของซาอุฯ ที่ดำเนินตามวิสัยทัศน์ ค.ศ.2030 มุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและวางเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวไว้ 100 ล้านคนในปี2573 หรือ 8 ปีข้างหน้า
ปัจจุบัน รายได้การท่องเที่ยวของซาอุฯ ไม่ถึง 2%ของจีดีพีประเทศ เมื่อเปรียบเทียบรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยอยู่ที่ 12%ของจีดีพีประเทศ ไมเนอร์หวังเป็นส่วนหนึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวซาอุฯเติบโตได้ครึ่งหนึ่งของไทย หรือเทียบเท่าไทย นั่นหมายถึงมูลค่าการท่องเที่ยวซาอุฯจะสูงถึง 70,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลดีให้ผู้ประกอบการตลอดทั้งห่วงโซ่การท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม สายการบิน สันทนาการ ร้านอาหาร และธุรกิจบริการต่างๆผู้ประกอบการไทยควรให้ความสนใจที่จะศึกษาตลาดการท่องเที่ยว และโครงการของรัฐบาลซาอุฯ เพราะเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมมาก
จ่อเปิดโรงแรมดัง-หรูกลางเมืองดิริยาห์
ไมเนอร์ โฮเทลส์ประกาศเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2565 หลังจากที่คณะนักธุรกิจไทยกลับจากซาอุฯเพียง 1 วัน ในเรื่องการลงนามหนังสือสัญญาร่วมกับบริษัทดิริยาห์ เกต (Diriyah Gate Development Authority :DGDA) ในการพัฒนาโครงการโรงแรมแห่งใหม่ภายใต้แบรนด์หรู อนันตรา ในเมืองดิริยาห์ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของซาอุฯ เพื่อร่วมถ่ายทอดประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 300 ปีของประเทศ ผ่านมรดกทางวัฒนธรรม การศึกษา การค้า และประสบการณ์ด้านอาหารให้กับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว
DGDA ได้ทำการปรับปรุงพื้นที่ขนาด 11 ตารางกิโลเมตรของเมืองดิริยาห์ เป็นโครงการไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบไปด้วยโรงแรมถึง 38 แบรนด์ ร้านอาหารกว่า 100 ร้าน ร้านค้าแบรนด์หรูกว่า 400 ร้านค้า และตลาดนัดกลางแจ้งอีกด้วย
ซาอุฯ เชื่อมั่นระบบรักษา-บริการไทย
“นพ.ศรัณย์ อินทกุล” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ. สมิติเวช ศรีนครินทร์ มองว่า การฟื้นฟูสัมพันธ์และเปิดประเทศทั้ง2ฝ่ายเป็นโอกาสดีให้คนซาอุฯที่ต้องการรักษาโรคที่มีอาการซับซ้อน และเป็นทางเลือกมากขึ้นกว่าไปทางยุโรป สหรัฐ ก็อาจได้นึกถึงได้เดินทางไปรักษาที่ไทยมากขึ้น
นพ.ศรัณย์ กล่าวด้วยว่า ลูกค้าเอเชียตะวันออกกลางเป็นตลาดใหญ่ในธุรกิจภาคบริการ โรงแรม การท่องเที่ยว ธุรกิจส่งเสริมสุขภาพที่เน้นคุณภาพสูง และอาหารเพื่อสุขภาพ โดยร.พ.สมิติเวชมีลูกค้าส่วนใหญ่จากสหรัฐอาหรับอเมริเรตส์ โอมาน กาตาร์ ขณะที่ซาอุฯยังน้อยเพราะในช่วงที่ผ่านมามีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง แต่หลังปลดล็อกวีซ่าแล้ว หวังว่า จะมีชาวซาอุฯจำนวนมากเดินทางไปประเทศไทย เพราะเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขและการรักษาของไทย