'ไบเดน'ให้อิสระ'พาวเวล'เต็มที่ในการใช้มาตรการต่างๆเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

'ไบเดน'ให้อิสระ'พาวเวล'เต็มที่ในการใช้มาตรการต่างๆเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ปธน.ไบเดนยืนยันว่าพร้อมให้อิสระแก่นายพาวเวลอย่างเต็มที่ในการดำเนินนโยบายการเงินโดยไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้จัดการประชุมร่วมกับ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พร้อมด้วยนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐในวันอังคาร (31 พ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับผลกระทบของเงินเฟ้อที่มีต่อรายได้ของชาวอเมริกัน โดยปธน.ไบเดนยืนยันว่า เขาให้อิสระแก่นายพาวเวลอย่างเต็มที่ในการดำเนินนโยบายการเงินโดยไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง

นายไบรอัน ดีส ผู้อำนวยการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า ปธน.ไบเดนได้ย้ำกับนายพาวเวลว่า เขาให้ความเคารพในความเป็นอิสระของเฟด และยังเปิดเผยว่าการประชุมครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์

 ด้านนางเยลเลน รมว.คลังสหรัฐและอดีตประธานเฟดในช่วงปี 2557-2561 กล่าวว่า ในอดีตเธอมีความผิดพลาดเกี่ยวกับการประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อ พร้อมกับเปิดเผยว่า การควบคุมเงินเฟ้อเป็นภารกิจแรกที่ปธน.ไบเดนให้ความสำคัญ และปธน.ไบเดนก็สนับสนุนการดำเนินงานของเฟดเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการควบคุมเงินเฟ้อ

"ตามที่ดิฉันเคยพูดไปแล้วว่า มีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างที่คาดไม่ถึง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นสาเหตุให้ราคาพลังงานและอาหารพุ่งขึ้น และก่อให้เกิดปัญหาห่วงโซ่อุปทานซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ เศรษฐกิจยังถูกกระทบเป็นวงกว้างจากการที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน และจากการที่จีนล็อกดาวน์เมืองสำคัญเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19"

 "เป็นความจริงที่ว่า เศรษฐกิจยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ แต่เงินเฟ้อก็เป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่ปธน.ไบเดนวิตกกังวล ด้วยเหตุนี้ปธน.ไบเดนจึงมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่า ควรสนับสนุนความเป็นอิสระของเฟดใช้การใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ" นางเยลเลนกล่าว

นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า คณะบริหารของปธน.ไบเดนพยายามดำเนินการในทิศทางเดียวกับเฟด ด้วยการปรับลดต้นทุนราคายาตามใบสั่งแพทย์และต้นทุนด้านการดูแลสุขภาพ รวมทั้งการผลักดันข้อเสนอให้สภาคองเกรสกระตุ้นการใช้พลังงานทดแทน

ทั้งนี้ ท่าทีของปธน.ไบเดนที่ปฏิบัติต่อนายพาวเวลนั้น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับแนวทางของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งพยายามเข้ามาแทรกแซงการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งเคยขู่ว่าจะปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่ง หากไม่ยอมปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามคำเรียกร้อง

การประชุมดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วุฒิสภาสหรัฐให้การรับรองนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดสมัยที่สอง และมีขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐกำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานและสินค้าอุปโภคบริโภค