คำต่อคำ BTS บอยแบนด์เกาหลีใต้ พูดอะไรที่ทำเนียบขาว
บอยแบนด์ดังจากเกาหลีใต้ BTS เข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ทำเนียบขาว แม้ไม่ได้ร้องเพลงสักเพลงแต่สารที่ออกมาเรื่องต่อต้านการเหยียดชาวเอเชียนั้นชัดเจนและกึกก้อง
เคป็อปทั้ง 7 คนแต่งกายเหมือนกันในชุดสูทดำ เชิ้ตขาว ผูกไท แถลงข่าวร่วมกับแครีน ฌ็อง ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวบนโพเดียมเล็กๆ แต่เป็นเวทีอันทรงพลัง
นักร้องนำ “ปาร์ก จีมิน” หรือที่รู้จักกันว่า จีมิน กล่าวผ่านล่ามว่า วงสะเทือนใจมากกับเหตุอาชญากรรมเพราะความเกลียดชังที่เพิ่มมากขึ้นในสหรัฐเมื่อเร็วๆ นี้
ชูกา สมาชิกอีกคนขอให้อดทนอดกลั้น “ความแตกต่างไม่ผิด ผมคิดว่าความเสมอภาคเริ่มต้นเมื่อเราเปิดใจรับความแตกต่างทุกอย่าง”
สมาชิกวงไม่ได้ตอบคำถามนักข่าวก่อนเข้าไปพบกับประธานาธิบดีไบเดน ทำเนียบขาวกล่าวว่า มีการบันทึกเนื้อหาดิจิทัล
ที่ด้านนอกอีกฝั่งหนึ่งของรั้วสีดำสูง เหล่าแฟนคลับที่เรียกตัวเองว่า “อาร์มี” รวมตัวกันด้วยความหวังว่าจะได้เห็นบอยแบนด์ในดวงใจ
การแถลงข่าวเพียงชั่วครู่สามารถเรียกคนดูในช่องยูทูบได้กว่า 300,000 คน สูงกว่าถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการแถลงข่าวปกติที่ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นสื่อหรือนักการเมือง
แต่สำหรับไบรอัน ดีส ที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจ ที่มีกำหนดแถลงสรุปต่อนักข่าว เรื่องการต่อสู้เงินเฟ้อของประธานาธิบดีไบเดน หลังการแถลงข่าวของ BTS นี่คือประสบการณ์ใหม่มากๆ ของเขา
“ผมจะกลับบ้านไปบอกลูกๆ ว่า ผมเจอ BTS” ดีสกล่าวพลางหัวเราะ
ทูตยุวชนต่อต้านความเกลียดชัง
ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนเชิญ BTS “มาหารือเรื่องความจำเป็นในการร่วมมือสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียว หลอมรวมและความเป็นตัวแทนของชาวเอเชีย แก้ปัญหาอาชญากรรมจากความเกลียดชังและเลือกปฏิบัติต่อชาวเอเชีย ซึ่งกลายเป็นปัญหาชัดเจนขึ้นช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา”
ความรู้สึกต่อต้านชาวเอเชียและความรุนแรงในสหรัฐเพิ่มมากขึ้นระหว่างการระบาดของโควิด-19
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มักเรียกโรคระบาดที่มีต้นกำเนิดจากการระบาดในเมืองอู่ฮั่นประเทศจีนว่า “ไวรัสจีน” และมักล้อเลียนไวรัสมรณะนี้ว่า“kung flu”
ข้อมูลจากศูนย์ศึกษาความเกลียดชังและแนวคิดสุดโต่ง เฉพาะปี 2564 อาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อชาวเอเชียเพิ่มขึ้น 339% สอดรับกับแนวโน้มอาชญากรรมความรุนแรงโดยรวมที่เพิ่มขึ้น ที่น่ารังเกียจที่สุดเกิดขึ้นในแอตแลนตา ชายคนหนึ่งยิงประชาชนแปดคนดับในร้านสปา หกคนเป็นผู้หญิงเอเชีย
สำหรับ BTS ทำเนียบขาวชมว่า “เป็นทูตยุวชนผู้กระจายสารแห่งความหวังและพลังบวกไปทั่วโลก”
สมาชิกวงที่อยู่ในวัย 20 เศษกันทุกคน บ่อยครั้งสวมต่างหูและทาลิปสติกบอกโลกถึงคนรุ่นใหม่ที่สะดวกใจกับความลื่นไหลทางเพศ พวกเขาได้รับการยกย่องว่าทำเงินให้กับเศรษฐกิจเกาหลีใต้ได้หลายพันล้าน กำไรพุ่งแม้แสดงคอนเสิร์ตได้น้อยลงช่วงโควิด
ส่วนไบเดน วัย 79 ปี ประธานาธิบดีอาวุโสสุด มักติดต่อเซเลบริตี้และอินฟลูเอนเซอร์หนุ่มสาวอยู่เสมอ เพื่อพยายามสร้างความน่าสนใจให้กับเนื้อหาด้านสังคมและปัญหาสาธารณสุข เช่นโอลิเวีย โรดริโกและโจนัส บราเธอร์ส ในการรณรงค์ชักชวนวัยรุ่นอเมริกันฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19