ลุ้นญี่ปุ่นเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ‘ปัง หรือ แป้ก’

ลุ้นญี่ปุ่นเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ‘ปัง หรือ แป้ก’

และแล้วก็ถึงเวลาที่ญี่ปุ่น ประเทศยอดนิยมของหลายคน รวมทั้งคนไทย เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียที หลังจากปิดประเทศมาสองปีเพราะโควิด-19 ระบาด แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศระมัดระวังตัว ญี่ปุ่นย่อมไม่ทำอะไรผลีผลาม การเปิดประเทศคราวนี้มีเงื่อนไขมากมาย

สำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (เจทีเอ) เผยว่า ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.นี้ ญี่ปุ่นเปิดประเทศเฟสแรก แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้าไปเที่ยวได้ต้องไปแบบกรุ๊ปทัวร์เท่านั้น ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ต้องสวมหน้ากาก ต้องทำประกันสุขภาพส่วนตัว และต้องมีผู้ติดตามตลอดเวลาที่อยู่ในญี่ปุ่น ซึ่งก็คือ มัคคุเทศก์จากบริษัทนำเที่ยวที่จะคอยดูแลให้นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยนั่นเอง

“ทัวร์ไกด์ควรเตือนลูกทัวร์บ่อยๆ ถึงมาตรการป้องกันโควิดที่จำเป็น เช่น การสวม และถอดหน้ากากในแต่ละขั้นตอนขณะท่องเที่ยว แม้แต่อยู่ในที่โล่งแจ้งก็ควรสวมหน้ากากต่อไป ในสถานการณ์ที่ผู้คนพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด” คู่มือท่องเที่ยวเจทีเอ ระบุ

ช่วงโควิดระบาดญี่ปุ่นออกมาตรการควบคุมพรมแดนเข้มงวดที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ผู้ไม่มีถิ่นพำนักในญี่ปุ่นแทบทุกคนไม่มีสิทธิได้เข้าประเทศ

ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ของโลกยกเลิกล็อกดาวน์เปิดพรมแดนกันหมดแล้ว ถึงทีญี่ปุ่นต้องผ่อนคลายกฎกับเขาบ้าง นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ให้คำมั่นใช้มาตรการดูแลพรมแดนแบบเดียวกับประเทศมั่งคั่งอื่นๆ

เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลเพิ่งเริ่มผ่อนคลายคู่มือการสวมหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนแต่ก็ยังมีการสวมกันอยู่ทั่วไป คนญี่ปุ่นสวมหน้ากากป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และละอองเกสรดอกไม้มาตั้งแต่โควิด-19 ระบาดแล้ว

และด้วยความเป็นชาติระมัดระวังเดือนก่อนญี่ปุ่นทดลองทำ “ทัวร์ทดสอบ” ก่อนกลุ่มละ 50 คน ส่วนใหญ่เป็นตัวแทนบริษัททัวร์แต่หนึ่งในนั้นติดโควิด

เจมส์ จาง ตัวแทนบริษัทนำเที่ยวจากออสเตรเลีย ที่ร่วมทัวร์ทดสอบด้วย เล่าว่า กฎระเบียบของญี่ปุ่นทำให้คนยังไม่อยากมาในตอนนี้

“ลูกค้าโอเคหรอก ถ้าสวมหน้ากากในอาคาร แต่ให้สวมตลอด 24 ชั่วโมงก็ไม่ไหวนะ ต้นทุนการมีไกด์ตลอดเวลา ก็อาจทำให้ลูกค้าไม่อยากมาด้วย รอให้สะดวกกว่านี้ค่อยมาเที่ยวจะดีกว่า” เจมส์ ให้ความเห็น

ทั้งนี้ ในปี 2562 ญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 31.9 ล้านคน ใช้จ่ายเงิน 4.81 ล้านล้านเยน (3.62 หมื่นล้านดอลลาร์) รัฐบาลยังคงตั้งเป้านักท่องเที่ยวเข้าประเทศปีละ 60 ล้านคนภายในปี 2573

คนวงในเล่าว่า การเปิดประเทศนั้นรัฐบาลโตเกียวต้องคิดหนักเรื่องการสร้างสมดุลระหว่างความสำคัญของการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจประเทศ กับความกังวลว่านักเดินทางอาจทำให้โควิดระบาดอีก

แหล่งข่าวสามราย เผยกับรอยเตอร์ว่า กว่ารัฐบาลจะยอมเปิดประเทศได้ต้องอาศัยแรงกดดันจากผู้บริหารภาคการเดินทางและท่องเที่ยวนานหลายเดือน รัฐบาลกลัวว่า ถ้ามีการติดเชื้อพุ่งขึ้นมาประชาชนจะไม่พอใจ ส่วนภาคการท่องเที่ยวกังวลเรื่องความเสียหายทางเศรษฐกิจ

“พวกเขากังวลว่านักท่องเที่ยวต่างชาติอาจมีพวกพฤติกรรมแย่ๆ รวมอยู่ด้วยหลายคน คนที่ไม่ยอมสวมหน้ากาก ไม่ทำความสะอาดมือ แล้วการติดเชื้อจะแพร่ออกไปอีกครั้ง”ผู้บริหารบริษัทท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าวโดยไม่เปิดเผยตัวตนเพราะเป็นประเด็นอ่อนไหว

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องไปกดดันพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายกฯ คิชิดะ และพรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาลรวมไปถึงกระทรวงต่างๆ แต่ตอนแรกไม่มีเสียงตอบรับ การแข็งขืนของรัฐบาลเบาลงหลังวันหยุด “โกลเดน วีค”ของญี่ปุ่นในเดือนพ.ค. ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศแต่การติดเชื้อก็ไม่ได้เพิ่มมาก

“ถ้ารัฐบาลไม่เปิดประเทศ บริษัทคงล้มละลายกันมากขึ้น ซึ่งนั่นไม่ส่งผลดีทางการเมือง” ผู้บริหารรายนี้กล่าว

พรรคแอลดีพีของคิชิดะต้องลงเลือกตั้งในเดือนก.ค. แม้นโยบายปิดประเทศจะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงแรก สาธารณชนเริ่มอยากให้เปิดประเทศเมื่อโควิดเบาบางลง อีกทั้งความเสียหายจากการปิดพรมแดนเห็นชัดเจนขึ้น

ผลสำรวจความคิดเห็นของนิกเคอิชี้  ผู้ให้ข้อมูล 67% เห็นว่าสมเหตุสมผลที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวญี่ปุ่นได้แล้ว

แหล่งข่าววงในอีกรายเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศเองก็รู้สึกถึงแรงกดดันจากต่างประเทศ และเป็นกระทรวงหนึ่งในไม่กี่กระทรวงที่พยายามโน้มน้าวรัฐบาล ผู้บริหารอีกรายกล่าวว่า สุดท้ายแล้วอาจต้องใช้แรงกดดันจากต่างประเทศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ด้านรัฐบาลท้องถิ่นยังคงกังวลว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะนำโควิดมาด้วย จึงยากที่ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศเต็มตัว

ญี่ปุ่น ประเทศที่ผู้คนสวมหน้ากาก และล้างมือกันอยู่แล้ว ไม่มีการติดเชื้อขนานใหญ่อย่างที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ แต่ตอนเจทีเอ ทำทัวร์ทดสอบทริป จ.โออิตะ ทางภาคใต้ของประเทศ ลูกทัวร์คนหนึ่งติดโควิด อีกสามคนติดแบบไม่แสดงอาการ ทัวร์ที่เหลือก็ต้องยกเลิกไป

ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

รีโซล โฮลดิงส์ ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม เปิดโรงแรมใหม่สี่ทำเลก่อนโตเกียวโอลิมปิก คาดว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศจะทะลักเข้ามามหาศาล แต่กลายเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

“คุณจ่ายหนี้ จ่ายค่าเช่า จ่ายค่าแรงไม่ได้ถ้าไม่มีการท่องเที่ยวอินบาวด์” ฮิเดอากิ คาเกยามา ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวและว่า การผ่อนคลายเปิดประเทศอาจไม่ฟื้นภาคการท่องเที่ยวได้เร็วพอ

บริษัทวิจัย “เทโคคุ ดาตาแบงก์” รายงานว่า ปีก่อนจำนวนโรงแรมที่ปิดตัวลงทั่วประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบห้าปี ระดับหนี้โรงแรมเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตั้งแต่ปี 2562

การช่วยเหลือของรัฐบาลช่วยป้องกันโรงแรมล้มละลายเป็นวงกว้างได้ คาเกยามา กล่าวว่า รีโซลอาจล้มละลายเหมือนกันถ้าไม่มีธุรกิจข้างเคียงมาช่วยเสริม เช่น สนามกอล์ฟ และโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์

ก่อนโควิดระบาดการท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาแรงมาก แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป คนลากรถในย่านวัดอาซากุสะ หันมาบริการนักท่องเที่ยวในประเทศแทนนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มใหญ่ที่เคยมา

“ผมอยากให้ชาวต่างชาติกลับมา มีชีวิตชีวากว่านี้เยอะ ผู้คนจากทั่วสารทิศมาวัดอาซากุสะ มาสวดมนต์หรือไม่ก็มาดื่ม” ยูอิ โออิกาวะ จากกลุ่มรถลากไรส์อัพโตเกียวให้ความเห็น

นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังเสียโอกาสที่เงินเยนอ่อนค่าที่สุดในรอบ 20 ปี ทำให้การมาเที่ยวญี่ปุ่นถูกลงด้วย

ส่วนแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในเอเชียอย่างสิงคโปร์ และไทยเริ่มต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2564 เดือนเม.ย.ผ่อนคลายข้อจำกัดเพิ่มเติม ขณะที่ญี่ปุ่นไม่ได้กำหนดกรอบเวลารับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบที่สามารถเดินทางอย่างอิสระได้ รัฐบาล กล่าวว่า มาตรการที่ผ่อนคลายอาจเข้มงวดอีกได้ถ้าโควิดเลวร้ายลง

ทัวร์ทดสอบเมื่อสองสัปดาห์ก่อนต้องปฏิบัติตามกำหนดการอย่างเข้มงวด จนถูกชาวเน็ตล้อว่าเป็นการทัวร์เกาหลีเหนือ ทางการกล่าวว่า ทัวร์ทดสอบช่วยให้รัฐบาลกำหนดแนวทางท่องเที่ยวที่จะเริ่มในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ได้อย่างเหมาะสม แต่เคลเมนท์ เกอ ตัวแทนบริษัทนำเที่ยวจากออสเตรเลียที่เดินทางมาถึงสนามบินฮาเนดะในกรุงโตเกียวเมื่อสองสัปดาห์ก่อนกล่าวว่า เขาและเพื่อนยังไม่แน่ใจว่า ทางการจะนิยามการเดินทางแบบกลุ่มได้อย่างไร “เราเองก็ไม่แน่ใจว่ามันหมายความว่าอะไรกันแน่”

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์