ธุรกิจการบินไม่คึกคักแม้ญี่ปุ่นเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ธุรกิจการบินไม่คึกคักแม้ญี่ปุ่นเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ธุรกิจการบินไม่คึกคักแม้ญี่ปุ่นเปิดพรมแดน โดยช่วงเดือนก.ค.ถึงเดือนธ.ค.ปีนี้มีเที่ยวบินเข้าญี่ปุ่นจำนวน 61,298 เที่ยว น้อยกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2562 ประมาณ 58%

ธุรกิจการเดินทางและท่องเที่ยวในญี่ปุ่นยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ สายการบินทั่วโลกวางแผนเปิดบริการเที่ยวบินไปญี่ปุ่นด้วยอย่างระมัดระวัง  ส่งผลให้มีเที่ยวบินระหว่างประเทศเข้าญี่ปุ่นในช่วงที่เหลือของปีนี้ไม่ถึง50% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 แม้รัฐบาลโตเกียวเปิดประเทศรับกรุ๊ปทัวร์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา        

แนวโน้มการให้บริการเที่ยวบินที่ระมัดระวังตัวของสายการบินชั้นนำเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าญี่ปุ่นยังคงเผชิญหน้ากับความท้าทายในการดึงดูดเหล่านักเดินทางให้เดินทางเข้าประเทศ ภายใต้การบริหารจัดการในปัจจุบันของรัฐบาล

โดยเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม แต่เป็นการจำกัดเฉพาะการท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ จำนวนรวม 98 ประเทศและดินแดน เริ่มให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. เป็นต้นไป

หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำการทดสอบเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปขนาดเล็กจาก 4 ประเทศ คือ สหรัฐ  ออสเตรเลีย ไทย และสิงคโปร์ ล่าสุด รัฐบาลญี่ปุ่น ได้เปลี่ยนกฎด้านการตรวจคนเข้าเมือง โดยรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบแพ็กเกจทัวร์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ในจำนวน 98 ประเทศรวมถึง อังกฤษ สหรัฐ ฝรั่งเศส สเปน แคนาดา และมาเลเซีย นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังขยายจำนวนสนามบินที่จะรับเที่ยวบินจากต่างประเทศออกไปเป็น 7 แห่ง เช่น สนามบินนาฮะ ในโอกินาวา และสนามบินนิวชิโตะเสะ เมืองซัปโปโร ทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโด

ผู้ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศ และต้องถูกตรวจโควิดอีกครั้งหลังเดินทางถึงสนามบิน แต่ ผู้ได้รับวัคซีนครบ 3 เข็มจากประเทศที่กำหนดจะไม่ต้องตรวจเพิ่มหลังเดินทางถึงญี่ปุ่น รวมไปถึงไม่ต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน

ส่วนกรุ๊ปทัวร์นั้นต้องปฏิบัติตามข้อบังคับในเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยในทุกสถานที่ที่เดินทางเข้าเยี่ยมชม และต้องปฏิบัติตามมาตรการอื่นๆที่ช่วยให้ญี่ปุ่นควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับต่ำให้ได้มากที่สุด  
 

ภายใต้คำประกาศของรัฐบาลญี่ปุ่น ทำให้ปัจจุบันการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ต้องเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยว และต้องมีหัวหน้าทัวร์ที่พูดญี่ปุ่นได้เดินทางไปด้วย เพราะเป็นนโยบายการเปิดประเทศแบบค่อยเป็นค่อยไป และยังไม่มีสัญญาณว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเอฟไอที หรือเดินทางเที่ยวเองได้เมื่อไหร่

“ซิริอุม” บริษัทวิเคราะห์ด้านการบิน ระบุว่า ในช่วงเดือนก.ค.ถึงเดือนธ.ค.ปีนี้มีเที่ยวบินเข้าญี่ปุ่นจำนวน 61,298 เที่ยว น้อยกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2562 ประมาณ 58% ส่วนภาพรวมทั่วโลก เที่ยวบินในช่วงเดือนก.ค.และเดือนธ.ค.มีแนวโน้มลดลงประมาณ 29% เมื่อเทียบกับปี 2562 

สายการบินใหญ่สุดของญี่ปุ่นสองแห่งคือ ออล นิปปอน แอร์เวย์ส (เอเอ็นเอ)และเจแปน แอร์ไลน์(เจเอแอล) กล่าวว่า ยังไม่มีความคิดที่จะเพิ่มเที่ยวบินเพื่อตอบสนองการเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล

“ตอนนี้เรายังไม่เห็นการจองตั๋วเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากกรุ๊ปทัวร์ต่างประเทศ เรียกได้ว่าภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาลที่เป็นอยู่ในตอนนี้ มีความต้องการจากนักท่องเที่ยวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” โฆษกเอเอ็นเอ ให้สัมภาษณ์นิกเคอิ เอเชีย

แต่สายการบินก็ไม่ได้มีมุมมองเชิงลบแบบนี้เหมือนกันหมดทุกแห่ง เช่นสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่ามีแผนเพิ่มความถี่ในการให้บริการเที่ยวบินเส้นทางโตเกียว-สิงคโปร์ จากสัปดาห์ละ 14 เที่ยวบินเป็น 21 เที่ยวบิน เริ่มตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากคาดการณ์ว่าความต้องการเดินทางเข้าญี่ปุ่นของบรรดานักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเพราะการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มด้านการเดินทางข้ามพรมแดนของรัฐบาลโตเกียวที่ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

อย่างไรก็ตาม จำนวนเที่ยวบินของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ที่ให้บริการระหว่างสิงคโปร์และญี่ปุ่นยังคงมีจำนวนครึ่งหนึ่งของระดับก่อนโรคโควิด-19 ระบาด

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ สายการบินหลายแห่งยังคงมีความระมัดระวังในการเปิดให้บริการไปญี่ปุ่นเพราะข้อกำหนดที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดให้บริษัททัวร์ต้องรับผิดชอบให้ลูกทัวร์สวมหน้ากากอนามัย ซื้อประกันภัย และขอให้บริษัททัวร์บันทึกการเคลื่อนไหวของลูกทัวร์ทุกคนเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19  

“การมีข้อจำกัดบางอย่างสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางเข้าประเทศทำให้สายการบินหลายแห่งคิดหนักในการเพิ่มเที่ยวบินโดยเฉพาะเมื่อความต้องการที่แท้จริงยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมาก”เดนนิส หลอ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านการบินจากซิริอุม กล่าว

ด้านอินไซด์ ทราเวล กรุ๊ป  เอเยนซีท่องเที่ยวมีฐานดำเนินงานในอังกฤษที่ให้บริการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มมายังญี่ปุุ่น กล่าวว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประเทศเปิดประเทศ มีผู้สนใจเข้ามาถามไถ่เกี่ยวกับแผนการเดินทางเยือนญี่ปุ่นจำนวนมาก และบริษัทจะเริ่มให้บริการพาทัวร์กลุ่มแรกเดินทางไปญี่ปุ่นในวันที่ 2 ก.ค. ก่อนจะเพิ่มจำนวนลูกทัวร์ไปญี่ปุ่นในช่วงที่เหลือของปีนี้ 

แต่“เจมส์ มันดี้” ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัท กล่าวว่า 80% ของทัวร์ที่บริษัทจัดไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ทางการญี่ปุ่นกำหนดได้ทั้งหมด

“แม้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่เลือกที่จะรอให้บริษัทพร้อมแต่ก็มีลูกค้าจำนวนมากที่ไม่รอและเลือกไปเที่ยวที่อื่น ไปประเทศที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าญี่ปุ่น และไม่มีกฏข้อบังคับใดๆเลย”มันดี้ กล่าว