ศรีลังกาขึ้นค่าไฟกว่า 800% - ห้ามรถส่วนบุคคลเติมน้ำมัน
ศรีลังกาขึ้นค่าไฟกว่า 800% พร้อมประกาศหยุดขายน้ำมันนาน 2 สัปดาห์ เพื่อรับมือวิกฤติพลังงานในประเทศ หลังส่งรัฐมนตรีพลังงานไปรัสเซีย และกาตาร์ เพื่อขอซื้อน้ำมันราคาถูก ขณะที่น้ำมันสำรองในประเทศใกล้หมด
บริษัทซึ่งผูกขาดการขายไฟฟ้าที่ดำเนินการโดยรัฐของศรีลังกาซึ่งกำลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก ประกาศขึ้นราคาค่าไฟมากถึง 835% สำหรับลูกค้าที่มีรายได้น้อย ซึ่งยิ่งซ้ำเติมการดิ้นรนเอาชีวิตรอดของชาวศรีลังกาที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจล่มสลายอยู่ก่อนหน้านี้
คณะกรรมการการไฟฟ้าของศรีลังกา (ซีอีบี) สูญเสียเงินไป 6.5 หมื่นล้านรูปี ในไตรมาสแรก ทำให้ขอขึ้นราคาสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยถึง 835% เนื่องจากปัจจุบัน ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 30 กิโลวัตต์ต่อเดือน จะจ่ายค่าไฟ 54.27 รูปี หรือราว 0.15 ดอลลาร์ ซึ่งซีอีบีพยายามจะขึ้นค่าไฟเพิ่มเป็น 507.65 รูปี หรือราว 1.44 ดอลลาร์
นายจานาคา รัตนยาเก ประธานคณะกรรมการสาธารณูปโภคของศรีลังกา ยอมรับว่า ผู้บริโภคในประเทศส่วนใหญ่ไม่สามารถรับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมากเช่นนี้ได้ จึงเสนอขอเงินอุดหนุนโดยตรงจากกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยให้ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นเหลือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งจากตัวเลขที่ซีอีบีร้องขอ
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลศรีลังกาเสนอให้มีการตัดไฟ 13 ชั่วโมงต่อวัน ก่อนที่เวลาตัดไฟจะลดลงเหลือ 4 ชั่วโมงต่อวัน หลังจากฝนที่ตกลงมาช่วยเติมเต็มแหล่งกักเก็บน้ำสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ
นอกจากค่าไฟที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาลแล้ว รัฐบาลศรีลังกายังประกาศยุติการขายเชื้อเพลิงทุกชนิดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เว้นแต่ในการให้บริการที่จำเป็นเท่านั้น โดยให้มีผลทันทีในวันจันทร์(27 มิ.ย.)ที่ผ่านมา
โฆษกรัฐบาลศรีลังกา ระบุว่า ปริมาณสำรองน้ำมัน และเชื้อเพลิงลดลงสู่ระดับต่ำสุด ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานอีกแม้แต่หนึ่งวัน การห้ามการขายน้ำมันทั้งเบนซิน และดีเซลก็เพื่อเก็บไว้ใช้สำหรับกรณีฉุกเฉิน พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดปัญหาขาดแคลนพลังงาน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์