'เคธี วูด'เชื่อศก.สหรัฐถดถอยแล้ว หลังประเมินวิกฤตเงินเฟ้อต่ำเกินไป
นางเคธี วูด ซีอีโอของบริษัท Ark Investment Management กล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว และเธอยอมรับว่าที่ผ่านมานั้น เธอประเมินความรุนแรงและความยืดเยื้อของวิกฤตเงินเฟ้อต่ำเกินไป
"ดิฉันคิดว่าขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว โดยคาดว่าปัญหาใหญ่ก็คือสต็อกสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นอย่างที่ดิฉันไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดชีวิตการทำงาน หรือประมาณ 45 ปี ส่วนเงินเฟ้อพุ่งขึ้นรุนแรงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์" นางวูดให้สัมภาษณ์ในรายการ "Squawk Box" ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีเมื่อวันอังคาร (28 มิ.ย.)
"สิ่งหนึ่งที่เราประเมินผิดพลาดก็คือเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งขณะนี้พุ่งขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ ส่วนปัญหาห่วงโซ่อุปทานนั้น แทบไม่น่าเชื่อว่าจะยืดเยื้อยาวนานกว่า 2 ปี และแน่นอนว่าการที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนก็ก่อให้เกิดปัญหาตามมาอย่างที่เราคาดไม่ถึง" นางวูด กล่าว
รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 40 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2524
นางวูด กล่าวว่า บรรดาผู้บริโภครับรู้ได้ถึงราคาที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ที่ทรุดตัวลงแตะระดับ 50 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยดัชนีดังกล่าวสำรวจโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน
เมื่อไม่นานมานี้ ทีมนักวิเคราะห์ของบริษัทโกลด์แมน แซคส์เตือนว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากผลกระทบของการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นและรุนแรงขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ซึ่งนำโดยนายแจน แฮตซิอุสคาดการณ์ว่า ขณะนี้มีโอกาสถึง 30% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่ามีโอกาสเพียง 15%