มองอนาคต "ฮ่องกง" กับ "วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์"
วันที่ 1 ก.ค. ในบริบทการเมืองโลก เป็นวันครบรอบอังกฤษส่งมอบคืนให้กับจีนเมื่อปี 1997 (พ.ศ. 2540) ซึ่งปีนี้ครบรอบ 25 ปี
นั่นหมายความว่า “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ที่จีนรับปากว่าจะใช้กับฮ่องกงต่อไป 50 ปีนับจากฮ่องกงคืนสู่อ้อมอกจีนได้เดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว ฮ่องกงในวันนี้เป็นอย่างไร วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ กรรมการประจำวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับกรุงเทพธุรกิจ
Q: ฮ่องกงอยู่กับอังกฤษมานาน อังกฤษหล่อหลอมลักษณะพิเศษอะไรให้กับคนฮ่องกงบ้าง
A: จีนให้เช่า 99 ปี คนที่เอาฮ่องกงออกจากอกของจีนคือพระนางเจ้าวิกตอเรีย ขณะนั้นจีนอยู่ภายใต้การปกครองของซูสีไทเฮา ผู้หญิงทั้งคู่ พระนางเจ้าวิกตอเรียเป็นพลังอินที่ดูดแผ่นดินเข้ามาอยู่ในจักรภพอังกฤษได้กว้างขวางที่สุด เป็นดินแดนที่พระอาทิตย์ไม่ตกดิน พระจันทร์กลบแสงพระอาทิตย์ มีผู้หญิงอยู่เบื้องหลัง
ควีนวิกตอเรียไม่ได้มีอำนาจมากมายแต่เป็นประมุขแห่งรัฐ เป็น dignity เป็นศักดิ์ศรีสูงสุด
สิ่งที่อังกฤษหล่อหลอมฮ่องกงคือปล่อยให้เป็นอิสระเสรีในทุกด้าน ทั้งด้านสื่อ ธรรมาภิบาล ศาลเนี้ยบ ตำรวจ เมื่อก่อนตำรวจกังฉินเยอะมาก แต่มีอธิบดีกรมตำรวจหญิงรายหนึ่งเข้ามาทำให้สะอาด ขณะนี้ผู้ว่าการฮ่องกงมาจากอธิบดีกรมตำรวจ ฮ่องกงเป็นรัฐตำรวจไปแล้ว
Q: สมัยเรายังเด็กดูหนังฮ่องกงจะสัมผัสถึงความแตกต่างระหว่างแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกง ความรู้สึกของคนฮ่องกงตอนนั้นเป็นอย่างไร
A: เขารู้สึกว่าเขาอยู่ในโลกเสรี พูดอะไรก็ได้ ผิดก็ขึ้นศาล ศาลโอเค ระบบตำรวจโอเค ไม่มีกองทหารส่วนตัว ระบบการเงินโอเค ฮ่องกงถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นศูนย์กลางการเงินโลก ซึ่งญี่ปุ่นอยากได้สถานะนี้มากแต่ก็ไม่ได้เพราะแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐก็คุมเขาสุดฤทธิ์ สิงคโปร์ก็อยากจะได้มากก็ได้ไปครึ่งหนึ่งแล้ว ปีนี้ธุรกิจเผ่นไปเยอะมาก สิงคโปร์ขอบคุณสี จิ้นผิงมากเลยที่ทำให้คนฮ่องกงย้ายมาที่ฉัน กาสิโนมา ศูนย์การเงินมา การท่องเที่ยวมา และยังเป็นฮับของโลจิสติกส์ด้วย ตอนนี้ตั๋วไปสิงคโปร์แพงมาก แพงจัด ขึ้นไปเป็น 2-3 หมื่น ส่วนฮ่องกงอีกหน่อยถ้าจะไปแนวโน้มต้องมีวีซ่าจีน
Q: แล้วทำไมจีนถึงทำแบบนั้น
A: สี จิ้นผิงจะเอาฮ่องกงคืนมาแบบจีนจริงๆ ตอนที่เติ้ง เสี่ยวผิงพูดกับอังกฤษรับรองว่า 50 ปีไม่เปลี่ยน เต้นระบำเหมือนเดิม แข่งม้าเหมือนเดิม แต่นี่แค่ครึ่งทางกฎหมายจีนมาเลย จนอเมริกาต้องเตือนนักธุรกิจของตนในฮ่องกงว่า ไม่รับผิดชอบนะ อยู่ก็อยู่ไป รับผิดชอบกันเอง แต่เราก็ขอเตือนคุณ
Q: เซี่ยงไฮ้จะขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการเงินแทนฮ่องกงได้หรือไม่
A: การจะเป็นศูนย์กลางการเงินต้องมีเงื่อนไข 1. จะต้องเป็นที่ที่เงินไหลเข้าไหลออกได้ 2. มีธรรมาภิบาล 3. สื่อมีอิสระ พูดเรื่องเศรษฐกิจได้อย่างเปิดกว้าง ปิดกั้นตัวเลขไม่ได้ เซี่ยงไฮ้เป็นได้แค่ศูนย์กลางการเงินภายในประเทศ
Q: ถ้าพูดถึงดีเอ็นเอความเป็นคนจีนกับคนฮ่องกง
A: ใน 99 ปี คนฮ่องกงไม่เคยคิดว่าคนจีนเป็นพวกเดียวกับเขา ขณะนี้คนฮ่องกงอพยพไปไหนมีแต่คนอ้าแขนรับ วิธีคิด การทำงานมีคุณภาพ ตั้งแต่ปีที่แล้วฮ่องกงเก็บภาษีได้น้อยลง เพราะคนครีมๆ อพยพหมดแล้ว
แต่ 25 ปีที่ผ่านมา ฮ่องกงไม่ได้บอบช้ำอะไร เพิ่งบอบช้ำเมื่อ 2-3 ปีนี้ ตอนอังกฤษส่งคืนแรกๆ คนฮ่องกงอพยพไปเยอะมากไปอยู่อเมริกา แคนาดา ยุโรป แต่พอมองกลับมา เออ.. ฮ่องกงไม่เปลี่ยนจริงๆ เว้ย สัก 3-4 ปีก็ย้ายกลับมาหมด อย่างเลสลี่ จางก็เคยย้ายไปแวนคูเวอร์แล้วย้ายกลับมา ช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา สื่อฮ่องกงเหมือนรอยเตอร์เลย ฟรี แสดงความเห็นต่างได้ บางคนก็เชียร์คอมมิวนิสต์ บางคนก็ไม่เชียร์ เศรษฐกิจเป็นระบบทุนนิยมเต็มที่
Q: จะกล่าวได้หรือไม่ว่าที่ฮ่องกงเป็นอย่างนี้เพราะขบวนการปฏิวัติร่มของนักศึกษา
A: ไม่ได้ เพราะเขาอยู่อย่างนั้นมา 99 ปี+20 กว่าปี ก็อยู่มา 100 กว่าปีแล้ว อยากเดินขบวนเขาก็เดิน เขาฟรีไง ก็ไปทำให้เขาไม่ฟรีขึ้นมา ทุกอย่างมันต้องมีเหตุ เรื่องการเรียกร้องสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าโดยตรงนั้นเป็นปัญหาเก่า ชนวนจริงๆ เป็นเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เป็นการใช้อำนาจรุกล้ำลิดรอนสิทธิของเขา หนึ่งประเทศ สองระบบ ก็ไม่ต้องรออีก 25 ปี อีกหน่อยก็หมดแล้ว อีกหน่อยจะไม่มีทัวร์ไปฮ่องกง แบรนด์เนมถอนออกเยอะมาก ไม่ได้ถอนเพราะโควิด ตอนนี้กำลังดูอยู่ว่าอเมริกาจะถอนฮ่องกงออกจาก SWIFT เมื่อไหร่ ตลาดหุ้นจีนออกกฎหมายถ้าจะไปขึ้นที่แนสแด็กจะต้องถูกตรวจสอบอย่างแรง ให้มาขึ้นที่ฮ่องกง
Q: พูดแบบนี้เรามองจีนในแง่ร้ายไปมั้ย
A: ไม่ได้ร้าย เขาประกาศกฎหมายออกโครมๆ
Q: ขบวนการนักศึกษาคงจะต้องเหี่ยวเฉา
A: ก็เหี่ยวแล้วไง เขาปราบ
Q: วันก่อนอาจารย์พูดถึงอุตสาหกรรมบันเทิง ตอนนี้บันเทิงฮ่องกงแผ่วลงไปมั้ย
A: ก็ไม่ได้แผ่วอะไรแต่ตัวเงินอยู่ในจีน แล้วเงินจีนก็เข้าไปในฮอลลีวูดเยอะมาก แต่ปีนี้เริ่มแล้ว Top Gun ถูกแบน ฮอลลีวูดเริ่มรู้ตัวแล้ว ไม่จำเป็นไม่พึ่งตลาดจีน
Q: ความสำคัญที่ฮ่องกงมีต่อจีน
A: 1. เงินเข้าเงินออกที่ฮ่องกง 2. เทคโนโลยีบางอย่างตะวันตกไม่ขายให้จีน แต่ขายให้บริษัทฮ่องกง จีนก็ต้องมาตั้งบริษัทในฮ่องกง จีนจึงได้เทคโนโลยีไปเยอะมาก สินค้าบางอย่างก็ต้องผ่านฮ่องกง พอจีนทำแบบนี้เขาตัดหมดเลย ต่อไปนี้เทคโนโลยีไม่ขายให้ฮ่องกงแล้ว จีนทำแบบนี้แล้วไม่ได้อะไรเลย แต่ทำเพราะอุดมการณ์ทางการเมือง ดูหนังเขาสิให้กะเทยกับกะเทยมาจูบกันไม่ได้ เป็นเสนียด หรือระบบติวที่มีคนทำงานในระบบนี้หลายสิบล้านคน จีนสั่งห้ามหมดเพราะถ้าระบบการศึกษาหลุดจากพรรคส่วนกลางให้อ้ายอีไปติวกันเองก็จะใส่ความคิดแบบอเมริกันลงไป ก็สั่งยุบหมดเลย คน 40-50 ล้านคน ตกงานแล้วจะเอาตังค์ที่ไหนมาซื้อทุเรียน หรืออาลีบาบาจะแบ่งเงินไปจากระบบก็ไม่ได้ สื่อที่อยู่ในเทนเซ็นต์ อาลีบาบา ออนไลน์ ก็ถูกจัดการหมด งานแบบนี้ต้องอาศัยฟรีวิว นโยบายจีนคือรัฐก้าว ราษฎร์ถอย เทนเซ็นต์ แอนท์เป็นเอกชนที่ต้องถอยลงมา แต่ในอเมริกายอมให้เอกชนเก่งกว่ารัฐได้ เช่น เพนตากอนยอมให้อีลอน มัสก์เก่งกว่า แล้วมาโคกัน
Q: ถ้าอย่างนั้นการต่อสู้ของขบวนการประชาธิปไตยฮ่องกงสอนอะไรเราได้บ้าง
A: ฮ่องกงก็คงบอกว่าประชาธิปไตยไม่ใช่ข้าว กินไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีประชาธิปไตยก็หากินลำบาก อาจไม่มีข้าวกิน