GM เผย ยอดขายรถยนต์ 'ตกต่ำสุด' หลังจีน 'ล็อกดาวน์'

เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) บริษัทผลิตรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) รายงานยอดขายรถยนต์ในจีนตกต่ำที่สุดในไตรมาส ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มมากขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

บริษัทผลิตรถยนต์ GM ระบุว่า ประเทศจีนถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโลก มียอดขายรถยนต์เพียง 484,200 คัน ตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงมิถุนายน โดยยอดขายตกฮวบถึง 35.5% เมื่อเทียบกับต้นปี ส่วนยอดขายที่ต่ำที่สุด คือ 461,700 คัน ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวด ส่งผลให้การผลิตหยุดชะงัก

ในงานเปิดตัว GM กล่าวว่า บริษัทมุ่งเน้นไปที่การดำเนินงานผลิตอย่างต่อเนื่อง ด้านบริษัทจำหน่ายรถยนต์ในจีนเพิ่งเปิดเผยข้อมูลยอดขายออกมาไม่ถึงสัปดาห์ หลังจาก GM เตือนนักลงทุนถึงปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อรายได้ในไตรมาสที่สองนี้ ในขณะที่ยังคงดำเนินธุรกิจตามแนวทางปี 2565

พอล จาคอบสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองทุน อธิบายถึงสถานการณ์ในจีน ระหว่างการประชุมนักลงทุนธนาคารดอยซ์ แบงก์ ว่า “นี่เป็นเรื่องท้าทายอย่างเห็นได้ชัด” โดยพูดถึง ปัญหาระยะสั้นที่เผชิญอยู่นั้น พวกเขาต้องผ่านมันไปให้ได้

ยอดขายของ GM รวมถึงธุรกิจคู่ค้า อย่างบริษัทผลิตรถยนต์ คาดิลแลค (Cadillac) และเชฟโรเลต (Chevrolet) มียอดขายลดลง 22%-79%

จากรายงานของติง ลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์บริษัทโนมูระ ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อรวมถึงผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการในจีนพุ่งสูงขึ้นจากเพียงไม่กี่เคสเป็น 200-300 ราย ภายในไม่กี่วันที่ผ่านมา มีเมืองโดนล็อกดาวน์ถึง 11 เมือง เนื่องจากโควิดระบาดเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวในวันจันทร์ โดยเพิ่มสูงขึ้นจาก 5 สัปดาห์ก่อนหน้านี้

ยอดขายไตรมาสที่สองบริษัท GM ลดลงตามยอดขายผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐเมื่อวันศุกร์ซึ่งร่วงลง 15.4%

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์