‘หวังอี้’ เตือนอาเซียน ‘อย่าทำตัวเป็นหมากให้มหาอำนาจใช้’
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศG20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เมื่อสัปดาห์ก่อน ความเคลื่อนไหวของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และจีนถูกจับตาอย่างมาก ล่าสุดหวังอี้เตือน ชาติอาเซียนอย่าทำตัวเป็น “หมาก” ให้มหาอำนาจใช้ น่าสนใจอย่างมากว่า รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกำลังหมายถึงใคร
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายหวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนแสดงสุนทรพจน์ที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียนในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย เตือนว่า หลายๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังถูกกดดันให้เลือกข้าง ในภูมิภาคที่กำลังเสี่ยงถูกเปลี่ยนโฉมหน้าด้วยปัจจัยทางการเมือง
“เราควรป้องกันภูมิภาคนี้จากการคำนวณทางภูมิรัฐศาสตร์ จากการถูกคู่อริมหาอำนาจใช้เป็นหมาก และจากการถูกบีบบังคับ อนาคตของภูมิภาคเราควรอยู่ในมือของเรา”
น่าสังเกตว่า เมื่อวันเสาร์ (9 ก.ค.) แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กับหวัง อี้ เคยคุยกันนอกรอบการประชุม G20 เป็นการพบกันครั้งแรกของคนทั้งสองนับตั้งแต่เดือน ต.ค.2564
บลิงเคน ระบุว่า ในความสัมพันธ์อันซับซ้อน และส่งผลสืบเนื่องอย่างความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนมีเรื่องให้คุยกันมาก
“เรารอคอยอย่างมากที่จะสนทนากันอย่างสร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์” บลิงเคน กล่าว
ขณะที่หวังกล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เชื่อในความร่วมมือ และเคารพซึ่งกัน และกันระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก
“จีนและสหรัฐเป็นสองประเทศใหญ่ จึงจำเป็นที่ทั้งสองประเทศต้องรักษาการแลกเปลี่ยนกันตามปกติ ในเวลาเดียวกันเราจำเป็นต้องร่วมงานกันเพื่อสร้างหลักประกันว่า ความสัมพันธ์จะเดินหน้าต่อเนื่องในทางที่ถูกต้อง”
นั่นคือ วาทะที่คนทั้งสองกล่าวต่อกัน อีกข้อน่าสังเกตคือ ก่อนประชุมG20 หวังได้มาเยือนประเทศไทย ครั้นจบการประชุมG20 บลิงเคนก็มาเยือนประเทศไทยเช่นกัน
ในการแถลงข่าวที่กรุงเทพฯ เมื่อวันอาทิตย์ (10 ก.ค.) บลิงเคนประณามนโยบายปราบปรามผู้เห็นต่างของรัฐบาลทหารเมียนมา พร้อมเรียกร้องให้จีนรวมทั้งสมาชิกอาเซียนร่วมกดดันกองทัพเมียนมาให้ฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย
"เป็นหน้าที่ของจีน และผลประโยชน์ของจีน ที่จะเห็นพม่า กลับคืนสู่เส้นทางที่เคยดำเนินมาก่อนหน้าที่จะถูกสกัดกั้นอย่างรุนแรงโดยเหตุรัฐประหาร” รมต.ต่างประเทศสหรัฐ ยังเรียกเมียนมาด้วยชื่อเดิม พร้อมย้ำด้วยว่า แม้ว่าชาติสมาชิกอาเซียนจะบรรลุฉันทามติ 5 ข้อให้กับเมียนมาเมื่อปีที่แล้ว จวบจนวันนี้ยังไม่มีพัฒนาการเชิงบวกในด้านนี้เลย
“ประเทศอาเซียนจำเป็นต้องทำให้รัฐบาลทหารเมียนมารับผิดชอบในเรื่องนี้ และเดินหน้าเรียกร้องให้มีการยุติการใช้ความรุนแรง และปล่อยตัวนักโทษ ทุกประเทศต้องพูดให้ชัดเจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมา รวมทั้งการปราบปราม และการใช้ความรุนแรงโหดร้ายที่ยังดำเนินอยู่นี้ เพราะเราต่างมีหน้าที่รับผิดชอบต่อประชาชนชาวพม่า ในการทำให้รัฐบาลทหารออกมารับผิดต่อการกระทำของตน"
นั่นคือ วาทะของบลิงเคน ที่คล้อยหลังไปไม่กี่ชั่วโมง หวังอี้ก็แสดงสุนทรพจน์เตือนอาเซียนที่จาการ์ตา
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์