ยูโรอ่อนค่าหนุนชาวอเมริกันในปารีสช็อปแบรนด์หรูราคาถูกสุด

ยูโรอ่อนค่าหนุนชาวอเมริกันในปารีสช็อปแบรนด์หรูราคาถูกสุด

ยูโรอ่อนค่าหนุนชาวอเมริกันในปารีสช็อปแบรนด์หรูราคาถูกสุด โดยยูโรที่อ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 20 ปีนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น เพราะปัญหาความขัดแย้งในยูเครน และมีแนวโน้มว่าอาจทำให้สหภาพยุโรป (อียู)เผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจเป็นเวลานาน

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ค่าเงินยูโรที่อ่อนลงดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากสหรัฐอย่างมาก โดยข้อมูลเชิงวิเคราะห์จากธนาคารบาร์เคลย์ส ระบุว่า นักท่องเที่ยวอเมริกันเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของภาคสินค้าหรูหราในยุโรปในช่วงไตรมาสที่2 

ขณะที่บทวิเคราะห์ของธนาคารยูบีเอส ที่อ้างอิงข้อมูลจากบริษัทแพลเนต บริษัทคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยว  ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งชึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรทำให้การใช้จ่ายในภาคการท่องเที่ยวในยุโรปสูงขึ้น4เท่าเมื่อเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีการใช้จ่ายจากชาวอเมริกันมากขึ้น

"ชอว์นา วิลสัน" นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน บอกว่า เธอซื้อชุดกระโปรง4ตัวที่ห้างสรรพสินค้า La Samaritaine ซึ่งเป็นห้างหรูในเครือแอลวีเอ็มเอชในกรุงปารีส หลังจากที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาต่ำกว่าค่าเงินดอลลาร์เมื่อวันพุธ(13ก.ค.)

วิลสัน นักท่องเที่ยวจากรัฐโคโลราโดวัย 49 ปี ยังบอกด้วยว่า เธอรู้สึกว่าสินค้าในยุโรปเหมือนอยู่ในช่วงลดราคา เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโรมีค่าเงินเกือบเท่ากัน จึงทำให้เธอรู้สึกอยากจับจ่ายมากขึ้น

วิลสันก็เหมือนกับ"เจนนิเฟอร์ โกรเนอร์" อินฟลูเอนเซอร์บนแอพพลิเคชั่นติ๊กต่อก ที่ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยจำนวนมากที่กรุงปารีสเมื่อเดือนเม.ย. และบอกว่า ไม่เคยเห็นสินค้าหรูหราคาถูกขนาดนี้มาก่อน  

พร้อมทั้งยกตัวอย่าง เธอซื้อกระเป๋ายี่ห้อแอร์เมส รุ่นเบอร์กิน ได้ในราคา 4,000 ดอลลาร์หลังคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ซึ่งถูกกว่าราคากระเป๋ารุ่นเดียวกันในสหรัฐซึ่งอยู่ที่กว่า 9,000 ดอลลาร์ แถมเธอยังซื้อกระเป๋าถือและเครื่องประดับของปราด้า ดิออร์ หลุยส์ วิตตอง และชาเนล ในราคาที่ต่ำกว่าราคาขายในสหรัฐถึง 8,000 ดอลลาร์