"ซินเจียง" เสี่ยงน้ำท่วม อุปทานฝ้ายโลกระส่ำ

"ซินเจียง" เสี่ยงน้ำท่วม อุปทานฝ้ายโลกระส่ำ

เขตปกครองตนเองซินเจียง ประเทศจีน ประกาศเตือนในวันนี้ว่า จะมีน้ำท่วมเฉียบพลันและดินโคลนถล่มจากพื้นที่ภูเขาน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้พื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงผลผลิตฝ้ายเสี่ยงได้รับความเสียหายที่มาจากคลื่นความร้อนที่แพร่กระจายไปทั่วภูมิภาค

ประเทศจีนได้รับผลกระทบจากความร้อนที่สูงกว่าปกติในฤดูร้อนปีนี้นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 

นักอุตุนิยมวิทยาบางคนชี้ว่าเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และอากาศที่ร้อนมากขึ้นทำให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทั้งในบ้าน ที่ทำงาน และโรงงานที่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเพิ่มความเย็น ขณะที่ภาคการเกษตรต้องเผชิญกับภัยแล้งและกำลังกลายเป็นปัญหา

นางเฉิน ชุนหยาน หัวหน้าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาซินเจียง กล่าวว่า สภาพอากาศที่ร้อนสุดขั้วจะเกิดขึ้นทางตอนใต้และตะวันออกของซินเจียง ซึ่งอาจจะกินเวลากว่า 10 วัน ยาวนานกว่าประเทศฝรั่งเศสถึงสองเท่า 

เมืองรั่วเชียง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของซินเจียงถูกประกาศเตือนให้เป็นพื้นที่แจ้งระดับสีแดง เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ก.ค.) โดยคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านั้นใน 24 ชั่วโมง

เมื่อปี 2555 สถานีตรวจวัดอากาศใกล้เมืองอัยหยิ่ง มีอากาศสูงถึง 50.3 องศาเซลเซียส และพบว่าทะเลสาปในเมืองแอ่งทูร์ปัน เผชิญกับน้ำที่แห้งขอด 

นางชุนหยาน กล่าวว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัดต่อเนื่องจะเร่งให้น้ำแข็งในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือละลายอย่างรวดเร็ว ก่อพิบัติภัยทางธรรมชาติ น้ำท่วมเฉียบพลันและดินโคลนถล่มที่จำเป็นต้องเฝ้าระวังภัยเพิ่มมากขึ้น

ซินเจียงยังเป็นที่ตั้งของเทือกเขายาวตามพรมแดน เช่น เทือกเขาเทียนซาน เทือกเขาปามีร์ เทือกเขาคุนหลุน และคาราโกรัม ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนท่ามกลางข้อจำกัดด้านการเดินทางระหว่างประเทศจากโควิด-19

"คลื่นความร้อนดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อพืชผลเช่นกัน โดยเฉพาะฝ้าย" นางชุนหยานเตือน 

ซินเจียงเป็นแหล่งผลิตฝ้ายประมาณ 20% ของโลก ซึ่งฝ้ายเป็นพืชที่ต้องการน้ำ  เฉลี่ยอยู่ที่ 20,000 ลิตรเพื่อผลิตฝ้าย 1 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอสำหรับเสื้อยืดตัวเดียวและกางเกงยีนส์หนึ่งตัว 

 ซินเจียงไม่ได้เผชิญคลื่นความร้อนในจีน เพียงแห่งเดียว แต่คาดว่า อุณหภูมิที่ร้อนจัดได้ส่งผลกระทบ 20 มณฑลของประเทศ