ดาวโจนส์บวก 29 จุดเก็ง CPI บ่งชี้เงินเฟ้อผ่านจุดพีค

ดาวโจนส์บวก 29 จุดเก็ง CPI บ่งชี้เงินเฟ้อผ่านจุดพีค

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์(8ส.ค.)ปรับตัวขึ้น 29 จุด ขณะที่นักลงทุนเกาะติดการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 29.07 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 32,832.54 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 5.13 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 4,140.06 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 13.10 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 12,644.46 จุด

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวจะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ค.

นอกจากนี้ การซื้อขายยังได้ปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยหนุนมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐสามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ขณะนี้บริษัทกว่า 400 แห่งในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 แล้ว ซึ่งราว 77.5% ในจำนวนดังกล่าวได้รายงานกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนก.ค.ในวันพุธนี้ ซึ่งจะเป็นข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญต่อจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์

ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 8.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากที่พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี

อย่างไรก็ดี คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยดีดตัวขึ้นจากระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย.

ขณะเดียวกัน นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เกี่ยวกับการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานพุ่งขึ้นเกินคาด

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 31.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย.จะสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 27 ก.ค. ซึ่งเขาส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย.

นอกจากนี้ หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย.ตามคาด ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่พุ่งขึ้นเกินคาด รวมทั้งการลดลงของอัตราการว่างงาน และการดีดตัวขึ้นของตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน จะทำให้เฟดเดินหน้าเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยพุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 258,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6%