ดาวโจนส์ร่วง 154 จุด เหตุบอนด์ยีลด์พุ่ง-เศรษฐกิจซบฉุดตลาด
ดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(23ส.ค.)ปรับตัวร่วงลง 154 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซา นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังได้รับผลกระทบจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุ 3%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 154.02 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 32,909.59 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 9.29 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 4,128.73 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 0.27 จุด หรือ 0.00% ปิดที่ 12,381.30 จุด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังได้รับผลกระทบจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุ 3%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 12.6% สู่ระดับ 511,000 ยูนิตในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2559 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 575,000 ยูนิต จากระดับ 585,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย.และเมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่ทรุดตัวลง 29.6% ในเดือนก.ค.
ยอดขายบ้านใหม่ได้รับผลกระทบจากราคาบ้านในระดับสูง และการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 45.0 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 27 เดือน จากระดับ 47.7 ในเดือนก.ค.
ดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน แม้ว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังคงถูกกดดันจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ นักลงทุนหันมาคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนก.ย. หลังก่อนหน้านี้คาดว่าจะปรับขึ้นเพียง 0.50%
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 56.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 43.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 31.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 25-27 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการปรับลดขนาดงบดุล (QT)
สำหรับหัวข้อในการประชุมประจำปีนี้คือ "Reassessing Constraints on the Economy and Policy" โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2/2565 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ