ดาวโจนส์พลิกร่วง 280 จุดหลังพุ่งกว่า 100 จุด หุ้นพลังงานฉุดตลาด
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ(31ส.ค.)พลิกร่วงลง 280 จุด หลังพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก วันนี้เป็นวันทำการซื้อขายสุดท้ายสำหรับเดือนส.ค. โดยดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ร่วงลงกว่า 3% ในเดือนนี้ ขณะที่แนสแด็ก ดิ่งลง 4%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 280.44 จุด หรือ 0.88% ปิดที่ 31,510.43 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 31.16 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 3,955.00 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 66.93 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 11,816.20 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงในวันนี้
วันนี้เป็นวันทำการซื้อขายสุดท้ายสำหรับเดือนส.ค. โดยดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ร่วงลงกว่า 3% ในเดือนนี้ ขณะที่แนสแด็ก ดิ่งลง 4%
ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลง 1,500 จุดในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 70.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 29.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพียง 300,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 132,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 300,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 270,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ภาคบริการมีการจ้างงาน 110,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงาน 22,000 ตำแหน่ง