ย้อนเรื่องฉาวราชวงศ์อังกฤษใต้บัลลังก์ ‘ควีนเอลิซาเบธ’

สำนักข่าวรอยเตอร์ รวบรวมวิกฤติครั้งสำคัญในราชวงศ์อังกฤษตลอด 70 ปีแห่งรัชสมัยของควีน

เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต

เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต พระกนิษฐาควีนเอลิซาเบธ ทรงสร้างเรื่องฉาวเขย่าบัลลังก์หลายเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นรัชสมัย

เจ้าหญิงโฉมงามผู้แสนดื้อรั้นพระองค์นี้ถูกบีบให้ทรงยกเลิกคำขอแต่งงานจากนาวาอากาศเอกปีเตอร์ ทาวน์เซนด์ คนกล้าแห่งกองทัพอากาศในปี 1955 เพราะเขาเป็นพ่อม่าย ไม่เหมาะสมกับธรรมเนียมปฏิบัติอันเข้มงวดในเวลานั้น

พระองค์เสกสมรสกับช่างภาพข่าวสังคม “แอนโทนี อาร์มสตรอง โจนส์” ได้บรรดาศักดิ์เป็นลอร์ดสโนว์ดอนแทน ชีวิตสมรสจบลงเมื่อเจ้าหญิงทรงคบกับร็อดดี เลเวลิน นักจัดสวนผู้อ่อนเยาว์กว่าพระองค์ถึง 18 ปี

เจ้าชายฟิลิป

การที่พระองค์ตัดสินใจอภิเษกสมรสกับเจ้าชายกรีกนาม “ฟิลิป” ใช่ว่าจะไร้ข้อครหา

ขณะที่เจ้าชายรับใช้ราชนาวีอังกฤษอย่างแข็งขันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล่าพระขนิษฐาเจ้าชายแต่งงานกับขุนนางเยอรมันสมาชิกพรรคนาซี ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีพระญาติฝ่ายเยอรมันของเจ้าชายได้รับเชิญร่วมงานอภิเษกสมรสเลยสักคน

ช่วงปีแรกๆ ของการครองราชย์ มีข่าวลือว่าเจ้าชายนอกใจ ตอนที่เจ้าชายฟิลิปเสด็จเยือนเครือจักรภพเพียงพระองค์เดียวในปี 1957 ตอนที่ไมค์ ปาร์เกอร์ เลขานุการณ์ส่วนพระองค์เจ้าชายฟิลิปถูกบีบให้ออกจากงานหลังภรรยาฟ้องหย่านำไปสู่การคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระสวามีของควีน

“เป็นเรื่องไม่จริงเลยที่ว่าควีนกับดยุกขัดแย้งกัน” โฆษกประจำพระองค์ควีนกล่าวในแถลงการณ์ที่หาได้ยากในเวลานั้น

เจ้าหญิงไดอานากับคามิลลา

ในยุคสมัยของควีนเอลิซาเบธไม่มีเรื่องใดฉาวยิ่งกว่าชีวิตแต่งงานล้มเหลวของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส พระโอรสองค์โตกับไดอานา พระชายาองค์แรก และความสัมพันธ์ของเจ้าชายกับคามิลลา ปาร์เกอร์ โบว์ลส อีกแล้ว

คามิลาคือรักแรกที่พระองค์มีสัมพันธ์ด้วย และได้เสกสมรสกันหลังเจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์

งานอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลสกับไดอานาในปี 1981 ตามมาด้วยเรื่องซุบซิบในหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ ที่ทั้งคู่ทรงตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งไม่เว้นแต่ละวัน ความสัมพันธ์ของสองพระองค์เป็นขาวตั้งแต่สิ้นทศวรรษ 1980 ไปจนถึงศตวรรษ 1990

ปี 1992 หนังสือของนักข่าวนาม “แอนดรูว์ มอร์ตัน” ที่ตอนหลังยืนยันว่าเจ้าหญิงไดอานาคือแห่งข่าวหลัก เผยว่าชีวิตคู่ของพระองค์กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลสพังเกินกว่าจะแก้ไข เป็นเหตุให้พระองค์มีปัญหาในการเสวยและทรงพยายามฆ่าตัวตาย

ต่อมาในปีเดียวกัน หนังสือพิมพ์เผยบางตอนของบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเจ้าหญิงไดอานากับเจมส์ กิลบี ผู้เรียกเจ้าหญิงว่า “Squidgy” หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในเวลานั้นดักฟังโทรศัพท์ระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลสกับชู้รัก คามิลลา ในปี 1993 ที่พระองค์ตรัสว่า “เกิดชาติหน้าอยากเป็นผ้าอนามัยของเธอ”

หลังจากทรงแยกกันอยู่ ทั้งคู่ทรงแยกกันประทานสัมภาษณ์ทางทีวีโดยทรงยอมรับว่านอกใจ เจ้าหญิงไดอานาตรัสว่า ทรงมีความสัมพันธ์กับนายทหาร “เจมส์ เฮวิตต์” และมี “เราสามคน” ในชีวิตสมรสซึ่งหมายถึงคามิลลา

ปีแห่งหายนะและการหย่าร้าง

ในพระราชดำรัสส่งท้ายปีเก่า 1992 ควีนทรงบรรยายว่าเป็น “ปีแห่งหายนะ” “1992 ไม่ใช่ปีที่ข้าพเจ้าจะมองกลับไปด้วยความสุขล้วน ๆ”

ปีนั้น พระราชวังวินด์เซอร์โดนไฟไหม้ใหญ่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลสและเจ้าหญิงไดอานาทรงแยกกันอยู่อย่างเป็นทางการ แต่ชีวิตสมรสของทั้งคู่ไม่ได้พังเพียงคู่เดียว

เจ้าชายแอนดรูว์ พระโอรสองค์ที่ 2 กับพระชายา ซาราห์ เฟอร์กูสัน หรือดยุกและดัชเชสแห่งยอร์ก ก็ทรงแยกทางกันด้วย ภาพ “เฟอร์กี” เปลือยอกนอนให้จอห์น ไบรอัน นักธุรกิจผู้มั่งคั่งของสหรัฐดูดนิ้วเท้าที่ริมสระในวิลลาฝรั่งเศส ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง

เดือน เม.ย. เจ้าหญิงแอนน์ พระธิดาควีน หย่าร้างกับมาร์ก ฟิลลิปส์ หลังจากครองคู่กันมาเกือบ 20 ปี สามปีหลังจากแยกทางกันเรื่องสัมพันธ์รักกับคนอื่น ๆ ของทั้งคู่ถูกเปิดเผย เจ้าหญิงแอนน์ สมรสกับนาวาโททิโมธี ลอเรนซ์ ในเดือน ธ.ค.1992

เจ้าชายแอนดรูว์

เมื่อลำดับการสืบสันตติวงศ์ของเจ้าชายแอนดรูว์ถูกเลื่อนลงมา พระองค์ตกเป็นเป้าของแท็บลอยด์อังกฤษมากขึ้น ถึงขนาดตั้งฉายให้เป็น “Airmiles Andy” หรือ“Randy Andy” จากวิถีชีวิตเสเพล

ปี 2011 ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแอนดรูว์ กับเจฟฟรีย์ เอปสทีน แดงขึ้นมา 3 ปีหลังจากนักการเงินสหรัฐรายนี้ถูกดำเนินคดีความผิดทางเพศต่อเด็กคดีแรก บีบให้เจ้าชายแอนดรูว์ต้องสละบทบาททูตการค้าอังกฤษ

4 ปีต่อมา เวอร์จิเนีย กิฟเฟร กล่าวหาว่า เธอถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับเจ้าชายขณะเป็นผู้เยาว์ พระองค์ปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่หนังสือพิมพ์ยังไล่ล่าไม่หยุด

เกิดคำถามมากขึ้นทุกขณะหลังเอปสทีนปลิดชีพตนเองในคุกในปี 2019 ขณะถูกจองจำในข้อหาค้ากาม เพื่อเคลียร์ตนเอง เจ้าชายแอนดรูว์ประทานสัมภาษณ์กับบีบีซี หลังลดบทบาทการเป็นเชื้อพระวงศ์ที่ต้องทรงงาน ขณะที่ภาคธุรกิจพยายามตีตัวออกห่างจากพระองค์

ปี 2021 กิฟเฟรฟ้องร้องเจ้าชายแอนดรูว์โดยตรงด้วยข้อกล่าวหาข่มขืนและทำร้ายเธอ เดือน ม.ค. ปีถัดมา พระองค์ถูกถอดยศทหาร และฐานันดร “เจ้าฟ้า” หรือ “His Royal Highness”

เดือน ก.พ.2022 เจ้าชายแอนดรูว์ทรงยอมความแต่ไม่ยอมรับว่ากระทำความผิด เห็นชอบจ่ายเงินปิดคดีเพื่อไม่ต้องแบกหน้ารับความอับอาย

เจ้าชายแฮร์รีและ “เม็กซิท”

สมัยหนุ่มๆ เจ้าชายแฮร์รี พระนัดดาถูกสื่อฉายภาพเป็นเด็กเฮี้ยวแห่งราชวงศ์ ทรงยอมรับว่า สูบกัญชาและดื่มแอลกอฮอล์ขณะเข้าผับแม้อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ ทะเลาะกับปาปารัสซีนอกไนท์คลับในลอนดอน และจุดประกายความโกรธเคืองด้วยการแต่งตัวเป็นนาซีในงานปาร์ตี้

แต่พระองค์กลับเป็นราชวงศ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดองค์หนึ่ง ด้วยธรรมชาติความเป็นคนสบายๆ และรับราชการทหาร การเสกสมรสกับ เมแกน มาร์เคิล นักแสดงชาวสหรัฐในปี 2018 ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างของราชวงศ์ยุคใหม่

อย่างไรก็ตาม ระเบิดลูกใหญ่ต่อสถาบันเกิดขึ้นเมื่อทั้งคู่ประกาศในเดือน ม.ค.2020 ว่าจะถอนตัวจากการทรงงาน ไม่มีความสุขที่ถูกสื่อรุกล้ำจับจ้องชีวิต

เมื่อย้ายไปอยู่นครลอสแองเจลิสในเดือน มี.ค.2021 ทั้งคู่เปิดฉากทำร้ายราชวงศ์และพระราชวังบักกิงแฮมด้วยการให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีสหรัฐของโอปราห์ วินฟรีย์ รวมทั้งข้อกล่าวหาเหยียดผิว และเมแกนบอกว่า เธอเกือบจะฆ่าตัวตาย ส่วนเจ้าชายแฮร์รีทรงชี้ว่า พระบิดาและพระเชษฐาทรงติดกับดัก