อังกฤษวางระบบรปภ.สุดเข้มพิธีพระบรมศพควีนเอลิซาเบธ
อังกฤษเตรียมรับมือพสกนิกร 325,000 คน ที่จะหลั่งไหลไปถวายความเคารพพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 หรือโดยเฉลี่ยชั่วโมงละ 3,000 คน รวมทั้งสมาชิกพระราชวงศ์, อาคันตุกะต่างแดนและนักการทูต ซึ่งมีการวางกฎการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
แม้จะเปิดให้เข้าถวายความเคารพ 24 ชั่วโมง แต่เชื่อว่าแถวจะยาวตั้งแต่พระราชวังบักกิงแฮมไปจนถึงเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ ซึ่งหีบพระบรมศพจะถูกนำไปประดิษฐาน ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันพุธที่ 14 ก.ย. จนถึเวลา 06.30 น. ของวันที่ 19 ก.ย. หลังจากเปิดโอกาสให้พสกนิกรถวายความอาลัยที่วิหารเซนต์ไจลส์ ในเอดินบะระ 24 ชั่วโมงมาแล้ว
มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐและนางจิล สุภาพสตรีหมายเลข 1 จะเดินทางไปร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ วันที่ 19 ก.ย.นี้
นอกจากนี้ มีผู้นำประเทศอื่นๆ เช่น แฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีเยอรมัน, แซร์โจ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลี, ชาอีร์ โบลโซนาโร ประธานาธิบดีบราซิล ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และแอนโทนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย
เว็บไซต์ข่าว “โพลิติโค” รายงานโดยอ้างเอกสารของสำนักงานต่างประเทศ, เครือจักรภพและการพัฒนา (FCDO) ที่เวียนไปตามสถานทูตว่า มีเพียงประมุขของประเทศและคู่สมรสเท่านั้นที่ได้รับเชิญไปร่วมพิธี เนื่องจากจำกัดพื้นที่ในสถานที่ประกอบพระราชพิธี
ส่วนผู้ที่ไม่สามารถไปได้ให้เลือกบุคคลที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการ และไม่ให้เดินทางเข้ากรุงลอนดอนโดยเครื่องบินส่วนตัวหรือเฮลิคอปเตอร์ และอาคันตุกะทุกคนจะเดินทางด้วยรถโค้ชภายใต้การอารักขาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของทางการอังกฤษ ไม่ให้ใช้ยานพาหนะส่วนตัวอย่างเด็ดขาด
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า ผู้นำต่างชาติและคู่สมรสที่จะมาร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ได้รับการแจ้งว่าให้เดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์มายังสหราชอาณาจักรและเดินทางต่อไปยังสถานที่จัดงานโดยรถบัสที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไปยังงานพิธี
แหล่งข่าวจากสำนักงานเครือจักรภพและการพัฒนาต่างประเทศคาดการณ์ว่าจะมีบุคคลสำคัญจากต่างประเทศราว 500 คน เดินทางมาร่วมพระราชพิธีพระบรมศพควีนอังกฤษ ที่จะจัดเป็นรัฐพิธีศพเป็นครั้งแรกของสหราชอาณาจักรในรอบ 60ปี โดยทางการพยายามวางแผนให้ระบบการขนส่งต่างๆ ดำเนินไปด้วยความราบรื่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นอกจากนี้ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำต่างประเทศทั้งหมดที่พระราชวังบักกิงแฮมในตอนเย็นก่อนพระราชพิธีพระบรมศพ โดยประมุขแห่งรัฐที่มาเยือน จะสามารถเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิเซาเบธที่ 2 ได้ ลงนามและยืนถวายความอาลัยได้ที่คฤหาสน์แลงคาสเตอร์เฮาส์ ซึ่งจะมีสื่อบันทึกภาพไว้
คาดกันว่าในรัฐพิธีครั้งนี้จะมีการระดมกำลังตำรวจหลายพันนายจากทั่วประเทศมายังกรุงลอนดอน เพื่อช่วยจัดการกับคลื่นมหาชนจำนวนมากที่จะเดินทางเข้ามา ตลอดจนถึงผู้นำทั่วโลกและสมาชิกราชวงศ์อื่นๆ ที่จะมาร่วมงานพระราชพิธีพระบรมศพควีนเอลิซาเบธที่ 2
เมื่อตอนที่มีการเคลื่อนพระศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 ไปยังกรุงเอดินบะระของสกอตแลนด์ กรุงเอดินบะระก็มีสภาพเหมือนถูกล้อมไว้ด้วยเหล็กกล้า ด้วยการวางกำลังสไนเปอร์บนหลังคาวิหารเซนต์ไจส์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. โดยประชาชนมีโอกาสใกล้ชิดหีบไม้โอ้คบรรจุพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่เคลื่อนออกมาจากโฮลีรู้ดเฮาส์
ขณะที่ปฏิบัติการอารักขาความปลอดภัยขยายถึงกรุงลอนดอน ที่ได้ชื่อว่าใหญ่และแน่นหนาที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ นับตั้งแต่มีการจัดพระราชพิธีพระบรมศพในเมืองหลวง ตำรวจและทีมข่าวกรองต่างยกเลิกวันหยุด และเป็นครั้งแรกที่ชุดเฉพาะกิจรวมทั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศ (SAS) เข้าประจำการในกรุงลอนดอน ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อป้องเหตุโจมตีที่อาจเกิดขึ้น
โดยเฉพาะในช่วงที่หีบพระบรมศพจะเคลื่อนจากพระราชวังบักกิงแฮมไปประดิษฐานยังเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ ห้องโถงใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดในกลุ่มอาคารรัฐสภา เพื่อเปิดให้ประชาชนถวายสักการะเป็นเวลา 4 วัน ก่อนจะถึงพระราชพิธีสำคัญที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ วันที่ 19 ก.ย.