‘เจ้าหญิงแห่งเวลส์’ จากสามัญชนสู่ว่าที่ราชินี
เมื่อเอ่ยถึง “เจ้าหญิงแห่งเวลส์” ภาพจำของคนทั้งโลกคือ “เจ้าหญิงไดอานา” แต่การสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และการสืบราชบัลลังก์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ทำให้ตำแหน่งเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ตกแก่ เจ้าชายวิลเลียมและชายาเคท
เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงพิสูจน์ถึงการเป็นราชวงศ์ต้นแบบนับตั้งแต่ทรงเข้าร่วมในครอบครัวชื่อดังที่สุดของอังกฤษ การปรากฏพระองค์ในที่สาธารณะไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงเหมือนกับเมแกน คู่สะใภ้
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แคเธอรีน ผู้เสกสมรสกับเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทองค์ปัจจุบันเมื่อปี 2554 ทรงออกงานมากขึ้นเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระอัยยิกาของเจ้าชายวิลเลียมทรงเริ่มลดการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ พระชนมายุ 40 พรรษา ทรงมีบทบาทสำคัญระหว่างที่โควิด-19 ระบาดในปี 2563 ขณะยังดำรงพระยศเป็นดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เป็นเชื้อพระวงศ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดต่อเนื่องรองจากควีนเอลิซาเบธในช่วงหลายปีหลัง
เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมดุลในฐานะราชวงศ์ เช่น มีบทบาทโดดเด่นในงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ 70 ปี (แพลตินัม จูบิลี) ควีนเอลิซาเบธ กับการเป็นแม่ดูแลลูกๆ สามคน ที่ได้รับเสียงปรบมืออย่างมากเมื่อไม่นานมานี้คือภาพการปลอบประโลมเจ้าชายหลุยส์ พระโอรสองค์เล็กขณะทรงกระสับกระส่ายในงานฉลองแพลตินัม จูบิลี เมื่อต้นเดือน มิ.ย.
อดีต เคท มิดเดิลตัน เป็นธิดาของนักธุรกิจนาม ไมเคิล และอดีตแอร์โฮสเตส แครอล มิดเดิลตัน เธอเริ่มเดตกับเจ้าชายวิลเลียมขณะศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ในสกอตแลนด์ ทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกันตั้งแต่นั้น แต่แยกทางกันครู่หนึ่งเมื่อปี 2550 ที่เคทบอกว่า ทำให้เธอ “เป็นคนแกร่งขึ้น”
เจ้าชายวิลเลียมเลือกที่จะเสกสมรสกับ “สามัญชน” หลังจากใช้ชีวิตร่วมกัน แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพระบิดาที่ขณะนี้คือสมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 ทรงอภิเษกสมรสเมื่อปี 2524 กับไดอานา สเปนเซอร์ หญิงสาวตระกูลสูงวัย 20 ปี ขณะที่พระองค์ชันษามากกว่าถึง 12 ปี
เคททำงานเป็นคนขายเสื้อผ้าไฮสตรีทให้กับเชนร้านเสื้อผ้า “จิกซอว์” ได้ไม่นานก่อนเข้าพิธีวิวาห์ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ในกรุงลอนดอน สวมใส่ชุดวิวาห์แขนยาวลูกไม้ออกแบบโดยซาราห์ เบอร์ตัน จากแบรนด์อเล็กซานเดอร์ แมคควีน
ด้วยเหตุนี้เคทจึงมีประสบการณ์มาบ้างในการเข้าร่วมกับราชวงศ์ แตกต่างจากเมแกน ผู้สมรสกับเจ้าชายแฮร์รี พระอนุชาเจ้าชายวิลเลียมในปี 2551 แต่สร้างความฮือฮาด้วยลาออกจากการเป็นราชวงศ์ผู้ทรงงานแล้วย้ายไปอยู่อเมริกาเหนือในเดือน มี.ค. ตามด้วยการให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตในรั้วในวัง
เมแกน อดีตดาราทีวีอเมริกัน ให้สัมภาษณ์โอปราห์ วินฟรีย์ ในเดือน มี.ค.2564 ว่า เธอได้รับการต้อนรับที่เย็นชาและถูกสื่อแท็บลอยด์ไล่ล่า
กรณีของเคท ช่วงจีบกันใหม่ๆ ช่างภาพติดตามเธอทุกฝีก้าวเช่นเดียวกัน เหมือนกับสิ่งที่สื่อเคยทำกับเจ้าหญิงไดอานา พระมารดาเจ้าชายวิลเลียม ผู้เสียชีวิตในปี 2540
มีรายงานว่าพระสหายเจ้าชายวิลเลียมล้อเลียนอาชีพเดิมของมารดาเคท ด้านข้าราชบริพารกล่าวว่า แครอล มิดเดิลตันใช้คำไม่สูงส่งมากพอ แต่เจ้าชายวิลเลียมตรัสถึงความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับพ่อแม่พระชายา
เคทและเมแกน
ปี 2556 เคทให้กำเนิดเจ้าชายจอร์จ ผู้เป็นรัชทายาทถัดจากเจ้าชายวิลเลียม ตามด้วยเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ในปี 2558 และเจ้าชายหลุยส์ในปี 2561 เธอเล่าผ่านพอดแคสต์ถึงอาการแพ้ท้องรุนแรงว่า “เธอคือคนท้องที่ไม่มีความสุขที่สุด”
เดิมทีเจ้าชายแฮร์รีทรงออกงานร่วมกับเจ้าชายวิลเลียมและเคทอยู่บ่อยๆ ความสัมพันธ์อบอุ่นเป็นกันเอง เมื่อเมแกนเข้ามาสองคู่ชู้ชื่นทำท่าจะไปกันได้ดี จนคาดการณ์กันว่า ทั้งสี่คนจะกลายเป็นโฉมหน้าของกษัตริย์ยุคใหม่
แต่หลังจากงานเสกสมรสอันลือลั่นระหว่างเมแกนกับเจ้าชายแฮร์รี ณ วิหารเซนต์จอร์จในพระราชวังวินด์เซอร์เมื่อปี 2561 ได้ไม่นานก็เริ่มมีข่าวลือถึงความร้าวฉานระหว่างกัน
เดือน พ.ย.ปีเดียวกันเดอะซันรายงานว่า เมแกนทำให้เคทร่ำไห้ตอนลองชุดเพื่อนเจ้าสาวของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ตอนให้สัมภาษณ์โอปราห์ เมแกนอ้างว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น จริงๆแล้ว เคทต่างหากที่เป็นฝ่ายขอโทษและส่งดอกไม้มาให้เธอ อย่างไรก็ตาม เมแกนโอดครวญว่าพระราชวังบักกิงแฮมไม่เคยแก้ข่าว
ด้านนักวิจารณ์กล่าวหาสื่อแท็บลอยด์อังกฤษว่าตามติดเมแกนผู้มีเลือดผสมอย่างที่เคทไม่เคยเจอ เจ้าชายแฮร์รีตรัสถึงประเด็นนี้เช่นกัน
เดือน พ.ย.2559 ไม่นานหลังจากสัมพันธ์ของทั้งสองถูกเปิดเผย เจ้าชายแฮร์รีตรัสว่าทรงถูก “ล้ำเส้น” พร้อมกล่าวหาว่าความเห็นหลายชิ้นมีน้ำเสียง “เหยียดผิว”
ผลที่ตามมาจากข้อกล่าวหาราชวงศ์เหยียดผิวของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการได้รับปฏิบัติที่แตกต่างของสะใภ้หลวงทั้งสองคน
หุ่นโชว์หน้าร้าน
แม้วางตัวได้งดงาม แต่เคทก็ยังเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าเฟมินิสต์ เรื่องที่เธอปรากฏตัวอย่างสวยเนี้ยบหลังจากคลอดบุตรได้ไม่กี่ชั่วโมง แม้เธอเต็มใจไม่ปิดบังหน้าท้องนูนหลังคลอด แต่เคียรา ไนท์ลีย์ ดาราดังชาวอังกฤษกล่าวว่า ภาพลักษณ์ที่ตกแต่งมาอย่างดีของเคทสร้างแรงกดดันให้ผู้หญิงต้อง “ดูดี” และ “ซ่อนความเจ็บปวด” ไว้
แม้แต่นักเขียนนิยายอย่าง ฮิลารี แมนเทล ก็กล่าวหาเคทว่าเหมือน “หุ่นโชว์หน้าร้าน ไม่มีบุคลิกของตนเอง”
โดยส่วนตัวเคทมีอารมณ์ร่วมกับบางประเด็นมากเป็นพิเศษ เช่น พัฒนาการวัยเด็กและอิทธิพลในช่วงต้นของชีวิต
“ชีวิตวัยเด็กกำหนดชีวิตวัยผู้ใหญ่ของเรา” เคทกล่าว เดือน ก.ค.2564 เธอเปิดราชมูลนิธิศูนย์เพื่อเด็กปฐมวัย นอกจากนี้ยังเป็นที่ทราบกันว่า เคทคือช่างภาพตัวยงถ่ายภาพทางการของครอบครัวที่ตำหนักหรือในสวนบ่อยๆ
ช่วงโควิดระบาดเจ้าชายวิลเลียมผู้ประชวรโควิดมาแล้ว และเคททรงออกงานสนับสนุนการฉีดวัคซีน ทั้งคู่คุยกับเจ้าหน้าที่แพทย์และชาวบ้านเรื่องการฉีดวัคซีน
นั่นคือชีวิตส่วนหนึ่งในอดีตของ เคท มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ซึ่งในวันนี้เธอเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ว่าที่ราชินีแห่งอังกฤษ นับวันภารกิจจะหนักขึ้นเรื่อยๆ