"ดาวโจนส์" เปิดพุ่งกว่า 200 จุด เก็ง "เฟด" ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด 0.75%
ดัชนี "ดาวโจนส์" เปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ขณะที่นักลงทุนมองว่า "เฟด" จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินคืนนี้ (21 ก.ย.) ตามที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่ "บิตคอยน์" ยืนเหนือ 19,000 ดอลลาร์ ดีดตัวตามวอลล์สตรีท
วันนี้ (21 ก.ย.) บรรดานักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังเสร็จสิ้นการประชุม ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งการเปิดเผย Dot Plot ของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราเงินเฟ้อ อัตราว่างงาน และการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กของสหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้น 219.91 จุด หรือ 0.72% มาอยู่ที่ 30,926.14 จุดในช่วงเปิดตลาด และเมื่อเวลา 21.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 30,897.21 จุด หรือเพิ่มขึ้น 190.98 จุด (0.62%)
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวันนี้
อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของเฟด ยังคงปรับตัวเหนือระดับ 3.9% และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปี
การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวสูงกว่าระยะยาว ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ขณะเดียวกัน ราคา "บิตคอยน์" สกุลเงินดิจิทัลยอดนิยม ดีดตัวเหนือระดับ 19,000 ดอลลาร์ โดยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
ณ เวลา 21.37 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 388.85 ดอลลาร์ (2.05%) สู่ระดับ 19,378.78 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้ และปรับขึ้นอีก 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. ก่อนที่จะผ่อนคันเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 64.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. ขณะที่ให้น้ำหนัก 46.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวตามคาด จะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันถึง 4 ครั้งในการประชุมเดือนมิ.ย.,ก.ค.,ก.ย.และพ.ย. ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะพุ่งแตะระดับ 4.50% ในช่วงสิ้นปีนี้ และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสูงกว่าระดับ 2.50% ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยที่เฟดมองว่าเป็นกลาง โดยไม่ผ่อนคลายหรือเข้มงวดจนเกินไป