พายุเฮอริเคน'เอียน'ถล่มหนักคิวบา-ฟลอริดาอพยพ 2.5 ล้านคน

สถานีโทรทัศน์ของทางการคิวบา รายงานว่า คิวบากำลังเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับทั่วประเทศ หลังพายุเฮอริเคนเอียนพัดกระหน่ำด้วยความเร็วลม 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนบ่ายหน้าสู่รัฐฟลอริดาของสหรัฐ ทำให้ประชากร 11 ล้านคนอยู่ในความมืด

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงไฟฟ้าอันโตนิโอ กูเตอเรส ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมาทันซัส และเป็นโรงไฟฟ้าหลักที่สำคัญที่สุดของประเทศ มีปัญหาระบบล่มหลังพายุเฮอริเคนเอียนพัดขึ้นฝั่ง ทำให้ไฟดับทั่วประเทศ 100%

 ส่วนผู้ผลิตซิการ์อันดับ 1 ของประเทศอย่างบริษัท “ฟินกา โรไบนา” โพสต์ภาพความเสียหายของไร่ยาสูบลงในโซเชียลมีเดีย เพราะฝนตกหนัก

 ประธานาธิบดีมิเกล ดิอัซ-กาเนล ของคิวบาได้ลงพื้นที่ประสบภัยและให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขณะที่"รอน เดแซนติส" ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาของสหรัฐ สั่งอพยพประชาชนอย่างน้อย 2.5 ล้านคน ในขณะที่พายุเฮอริเคนทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อวันอังคาร(27 ก.ย.) โดยกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ว่าพายุจะพัดเข้าสู่แผ่นดินที่ใด แต่เข้าใจได้ว่า ผลกระทบจะเกิดในวงกว้างไกลกว่ารัศมีของตาพายุ อาจทำให้เกิดอุทกภัยร้ายแรงและสตอร์มเซิร์ชที่รุนแรง
 

 ขณะนี้ พื้นที่ชายฝั่งของรัฐ ทั้งกัลฟ์ โคสต์, เซาท์และเซ็นทรัล ฟลอริดา อยู่ภายใต้การเตือนภัยพายุเฮอริเคน รวมทั้งเมืองแทมปา เบย์, เวนิส, ฟอร์ท มายเออร์ส, เนเปิลส์ และออร์ลันโด

ด้านศูนย์พยากรณ์อากาศฟ็อกซ์ คาดการณ์ว่า สตอร์ม เซิร์ช อาจสูงถึง 10 ฟุต และคาดว่าจะเกิดทั่วบริเวณชายฝั่งตะวันตกของรัฐ

ขณะที่เฮอริเคนเอียนกำลังถล่มคิวบาอยู่นั้น พายุไต้ฝุ่นโนรูซึ่งพัดถล่มฟิลิปปินส์ก่อนจะเคลื่อนตัวไปยังประเทศเวียดนาม ได้ทำลายพื้นที่เกษตรของฟิลิปปินส์ จนนาข้าวเสียหายหนักสุด

พายุไต้ฝุ่นโนรูได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เกษตรในฟิลิปปินส์ ส่งผลให้ประเทศเผชิญความเสี่ยงด้านอุปทานอาหารและเงินเฟ้อ โดยพื้นที่เกษตรของฟิลิปปินส์ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.29 พันล้านเปโซ (21.9 ล้านดอลลาร์) ในวันอังคาร (27 ก.ย.) เพิ่มขึ้นอย่างมากจากความเสียหายที่ประมาณการไว้ที่ 160 ล้านเปโซเมื่อวันจันทร์ (26 ก.ย.) โดยมีพื้นที่เกษตรกว่า 141,000 เฮกตาร์หรือ 881,250 ไร่ ที่ได้รับความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและชาวประมงราว 82,000 คน

กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ผลผลิตข้าวคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 90% ของปริมาณพืชผลเกษตรที่ได้รับความเสียหาย 72,000 เมตริกตัน และเสริมว่าการประเมินความเสียหายยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ระบุว่า พายุไต้ฝุ่นโนรูอาจส่งผลกระทบต่อข้าวยืนต้นในประเทศราว 76%

ด้านกระทรวงการคลังฟิลิปปินส์ เปิดเผยในปีที่ผ่านมาว่า พายุไซโคลนพัดผ่านฟิลิปปินส์จำนวนเฉลี่ย 20 ลูกต่อปี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์จากภาวะอากาศที่อันตรายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาฟิลิปปินส์ประสบกับปัญหาขาดแคลนอาหารตั้งแต่น้ำตาลไปจนถึงหอมหัวใหญ่ ซึ่งส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561

“อาร์เซนิโอ บาลิซากัน” เจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ระบุในทวิตเตอร์ว่า ขณะที่ความเสียหายที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นโนรูดูเหมือนจะรุนแรงมาก แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศปีนี้ในระดับ 6.5% ถึง 7.5%

หลังจากไต้ฝุ่นโนรู สร้างความเสียหายกับนาข้าวที่ฟิลิปปินส์แล้ว ก็พัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดชายฝั่งทะเล ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองมรดกโลก อย่าง“ฮอยอัน” ในช่วงเช้าวานนี้ (28 ก.ย.) รัฐบาลเวียดนามจึงประกาศเคอร์ฟิวและอพยพประชาชนกว่า 800,000 คน แม้ว่าพายุจะลดระดับลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว แต่ทางการยังคงเตือนความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมและดินถล่มจากฝนตกหนัก

สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของเวียดนาม รายงานว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่ง ซึ่งเป็นเส้นทางพาดผ่านของพายุโนรู ได้รับคำสั่งให้อพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย ขณะที่โรงเรียนและบริษัทห้างร้านมากมายในหลายจังหวัดปิดทำการ รวมทั้งมีการยกเลิกกิจกรรมสาธารณะต่างๆ

ก่อนหน้านี้ ทางการเวียดนามเรียกร้องให้ประชาชน 400,000 คน อพยพออกจากที่อยู่อาศัยที่อาจไม่ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างฮอยอัน  ก่อนจะมีคำสั่งให้อพยพประชาชนเพิ่ม รวมแล้วเป็นจำนวนมากกว่า 800,000 คน