‘ทูตหาน จื้อเฉียง’ ฉลอง 73 ปี วันชาติจีน ตั้งเป้าการค้าไทยกว่าแสนล้านดอลล์
เอกอัครราชทูตจีน ฉลองครบรอบ 73 ปี วันชาติจีน พร้อมให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับไทย เผยมูลค่าการค้าระหว่างไทย และจีนปี 2564 ทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์ ล่าสุด มูลค่าการค้าทั้งสองประเทศตั้งแต่เดือนม.ค - ส.ค. มากกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์ แล้ว ย้ำความสัมพันธ์ไทย - จีนเป็นดั่งพี่น้อง
นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีน และมาดามหวัง ฮวน ภริยา จัดงานเลี้ยงรับรองในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 กันยายน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 73 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้เชิญ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง อาทิ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนจากภาคการเมือง การทหาร ธุรกิจ คนไทยเชื้อสายจีน คณะทูตานุทูต และผู้แทนองค์การระดับประเทศในประเทศไทย
ท่านทูต กล่าวว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมา แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่สิ้นสุดลง และสถานการณ์โลกไม่สงบมากนัก แต่ประเทศจีนยังคงมีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างมั่นคง เราได้สร้างสังคมอยู่ดีกินดีอย่างถ้วนหน้าทั่วประเทศจีน แก้ไขปัญหาความยากจนเชิงสัมบูรณ์เป็นครั้งประวัติศาสตร์ และเริ่มการบุกเบิกใหม่เพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยอย่างรอบด้าน เราได้บูรณาการ การป้องกันโควิด-19 และการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมให้ควบคู่กันไป และได้บรรลุผลสำเร็จ แม้ว่าในฐานะประเทศใหญ่ที่มีประชากร 1,400 ล้านคน ภารกิจในการควบคุมโควิด-19 ของจีนยากเข็ญ และหนักหน่วงอย่างยิ่ง แต่อัตราการติดเชื้อ และเสียชีวิตของจีนต่ำที่สุดในโลก เมื่อปี ค.ศ.2020 เศรษฐกิจจีนเติบโต 2.3% ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจหลักเพียงประเทศเดียวในโลกที่ได้บรรลุการเติบโต เมื่อปี ค.ศ.2021 เศรษฐกิจจีนเติบโต 8.1% ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุด ปีนี้เมื่อเผชิญกับสภาพแวดล้อมภายนอกที่ซับซ้อน และรุนแรง
ประเทศจีนได้ยึดมั่นในหลักการการดำเนินงานที่แสวงหาความก้าวหน้าอย่างมั่นคง และใช้มาตรการปรับปรุงและควบคุมเชิงมหภาคจำนวนหนึ่ง การพัฒนาเศรษฐกิจจีนโดยรวมยังคงมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว
ท่านทูตเน้นว่า ปีที่แล้ว เราได้ฉลองครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างมโหฬาร โดยสรุปความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ของการบากบั่นต่อสู้ในหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมาอย่างครบถ้วน ซึ่งได้เพิ่มพูนความมุ่งมั่น และความศรัทธาของจีนที่จะยึดมั่นในเส้นทางสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์จีนและเส้นทางการพัฒนาอย่างสันติ อีก 20 วัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะจัดการประชุมสมัชชาใหญ่ ครั้งที่ 20 ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ที่มีนัยสำคัญทางประวัติศาสตร์โดยจัดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญที่จีนเริ่มการบุกเบิกใหม่เพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยอย่างรอบด้าน ซึ่งจะกำหนดเป้าหมาย และนโยบายใหญ่สำหรับการพัฒนากิจการของพรรค และประเทศในอีกห้าปีข้างหน้าตลอดจนในช่วงเวลาที่นานกว่านี้ ภายใต้การนำของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนโดยมีประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นแกนกลาง ประชาชนจีนกำลังมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม และมุ่งมั่นต่อสู้อย่างไม่ลดละเพื่อบรรลุความฝันของจีนในการฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน
ท่านทูต กล่าวว่า ปีนี้เป็นการครบรอบ 10 ปีการสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีนกับไทย ประเทศจีน และประเทศไทยมีความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ มีการเชื่อมโยงกันทางวัฒนธรรม และมีความผูกพันทางสายเลือด หลายปีมานี้ ความไว้เนื้อเชื่อใจกันทางการเมืองระหว่างสองประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีการติดต่อและประสานงานอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับประเด็นสำคัญระดับโลกและภูมิภาค
เมื่อเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนทั้งสองประเทศได้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ ให้ความช่วยเหลือซึ่งกัน และกัน และฟันฝ่ายามยากด้วยกัน โดยพิสูจน์มิตรภาพอันลึกซึ้งที่ว่า “จีนไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ด้วยปฏิบัติการที่อย่างแท้จริง จีนเป็นประเทศคู่ค้าใหญ่ที่สุดของไทยเป็นเวลาติดต่อกัน 9 ปี และเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุด และเป็นแหล่งลงทุนที่สำคัญของไทยเป็นเวลาหลายปี ในปี ค.ศ.2021 มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้น 33% โดยการส่งออกสินค้าเกษตรสู่ตลาดจีนเพิ่มขึ้น 52.4% ในขณะเดียวกัน ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีระหว่างสองฝ่ายในด้านความเชื่อมโยงซึ่งกัน และกัน เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียวมีการพัฒนาอย่างมีชีวิตชีวา ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงสิงหาคม ปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศมากกว่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรักษาโมเมนตัมการพัฒนาที่มั่นคง สองปีกว่าที่ผ่านมา ผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศมีการติดต่อสื่อสารกันบ่อยครั้ง เมื่อเกิดโรคโควิดระบาดในจีน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ส่งพระราชสาส์นแสดงความห่วงใยไปยังประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนและนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เยือนซึ่งกันและกัน ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องที่จะร่วมกันสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีโชคชะตาร่วมกัน ซึ่งเป็นเนื้อหาใหม่แห่งประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เป็นนิมิตหมายอันดีที่สะท้อนถึงอนาคตที่สวยงามของความร่วมมือจีน-ไทย
ท่านทูต กล่าวว่า โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอันลึกซึ้งที่ไม่เคยมีมาก่อนในหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ปัญหา และความท้าทายต่างๆ เกิดขึ้นอย่างไม่ขาดสาย และธรรมาภิบาลโลกเผชิญกับการทดสอบใหม่ เพื่อรวมพลังรับมือกับความท้าทาย ส่งเสริมการฟื้นตัว และการพัฒนาที่ยั่งยืน ของเศรษฐกิจโลก และแก้ไขภาวะหวาดระแวงด้านความมั่นคง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มองเห็นถึงสันติภาพ และการพัฒนาซึ่งเป็นกระแสหลักแห่งยุคสมัย และได้เสนอข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก(GDI)และข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลก(GSI) โดยตอบโจทย์แห่งยุคสมัยว่า โลกต้องการแนวคิดการพัฒนาอย่างไร และประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะบรรลุความมั่นคงร่วมกันได้อย่างไร ซึ่งเป็นการเสนอภูมิปัญญา และวิธีแก้ไขปัญหาของจีนในการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการการพัฒนา และความมั่นคงของโลก และขจัดการขาดดุลด้านการพัฒนา และการขาดดุลด้านสันติภาพของมนุษยชาติ จีนจะยังคงเป็นผู้สร้างสันติภาพของโลก ผู้มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาระดับโลก และผู้พิทักษ์ระเบียบระหว่างประเทศทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ท่านทูตเน้นว่า ในเวลาอีกไม่นาน การประชุมผู้นำเอเปคจะจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เราปรารถนาว่าโดยมีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ การประชุมครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่เอเชีย-แปซิฟิก มุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือ และแสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการสร้าประชาคมเอเชีย-แปซิฟิก ฝ่ายจีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย เพื่อสร้างคุณูปการใหม่ต่อการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ที่เน้นการเคารพซึ่งกัน และกัน ความเป็นธรรม และความยุติธรรม และความร่วมมือที่เป็นชัยชนะร่วมกัน และการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ
นายชวน หลีกภัย แสดงความยินดีในโอกาสที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ครบรอบ 73 ปี โดยกล่าวว่าแม้การแพร่ระบาดของโควิด-19จะส่งผลต่อชีวิตของผู้คน แต่วิกฤติครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีน และประชาชนจีนในการเผชิญกับความยากลำบาก และสะท้อนให้เห็นถึงความช่วยเหลือของคนจีนต่อคนไทยอย่างจริงใจ ได้เห็นถึงมิตรภาพอย่างแท้จริงระหว่างจีน และไทย และคนไทยจะจดจำไว้อย่างไม่มีวันจะลืมนายชวน หลีกภัย ให้สัมภาษณ์โดยสถานีวิทยุ และโทรทัศน์กลางของจีน และสื่ออื่นๆ ในงานเลี้ยง แสดงความยินดีกับการครบรอบ 73 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ขอให้ชาวจีนมีความสุขความเจริญ มิตรภาพจีน-ไทยสถิตสถาพรตลอดไป นายชวน หลีกภัย แสดงความคาดหวังในการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 โดยกล่าวว่ามีความเชื่อว่าระบบของจีนมีความสมบูรณ์ และมีเสถียรภาพ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จีนได้สร้างความมหัศจรรย์แห่งความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไม่เพียงแต่มีความสามารถที่โดดเด่น แต่ยังเป็นที่รักของคนจีน และได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากสังคมโลก
ในงานเลี้ยงรับรอง เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง กับนายชวน หลีกภัย และแขกท่านอื่นๆ ได้ร่วมกันตัดเค้กวันเกิดสำหรับวันชาติจีน และพา นายชวน หลีกภัย เดินชม “นิทรรศการภาพถ่ายฉลองครบรอบ 73 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน” ซึ่งจัดทำโดยสถานทูตจีน
ในงานเลี้ยงได้จัดเตรียมหนังสือ ภาพและวิดีทัศน์ที่สวยงาม เช่น “Xi Jinping: The Governance of China”, “Interpretation of China” และ “Chinese Culture Journey” ไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติ ศิลปินจีนและไทยได้ร่วมกันแสดงผลงานทางวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมเพื่อให้แขกที่มางานได้ชมซึ่งได้รับการชื่นชมเป็นอย่างดี แขกที่มางานต่างแสดงความยินดีต่อการสถาปนาครบรอบ 73 ปี ของสาธารณรัฐประชาชนจีน แสดงความชื่นชมต่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของจีน และชื่นชมต่อการมีส่วนร่วมที่สำคัญของจีนในการส่งเสริมสันติภาพ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองของโลก ขออวยพรให้การประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ ขอให้จีน และไทยมีความเจริญรุ่งเรือง มิตรภาพจีน-ไทยให้ยืนยาวตลอดไป
ในงานเลี้ยงรับรอง เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง ยังให้สัมภาษณ์แก่สื่อจีน และไทย หนังสือพิมพ์ “ไทยรัฐ” “มติชน” “เดลินิวส์” สำนักข่าวไทย สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 เนชั่นทีวี ไทยพีบีเอสทีวี และสื่อหลักอื่นๆ กว่า 50 สำนัก ทั้งจากสำนักข่าวซินหัว พีเพิลส์เดลี่ และสถานีวิทยุกลาง และโทรทัศน์จีนในประเทศไทย สื่อมวลชนได้รายงานข่าวการจัดงานเลี้ยงครั้งนี้อย่างแข็งขัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์