เลือกตั้งบราซิลส่อเค้าวุ่น ปธน. ขู่ไม่ยอมรับผลเลือกตั้งหากแพ้

 ชาวบราซิลกว่า 156 ล้านคนมีสิทธิออกเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 513 คน สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 1 ใน 3 จากทั้งหมด 81 ที่นั่ง ผู้ว่าการรัฐ และสมาชิกสภาระดับรัฐ และคาดว่า ผลการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกอาจประกาศได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง หลังหน่วยเลือกตั้งปิดลงคะแนนในเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 3.00 น. ของวันจันทร์ตามเวลาไทย และหากไม่มีผู้สมัครคนใดจากทั้งหมด 11 คนได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุด 2 อันดับแรกจะต้องแข่งขันกันในรอบที่สองในวันที่ 30 ต.ค.

ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นหลายครั้งที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา อดีตประธานาธิบดีมีคะแนนนิยมทิ้งห่างประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ราว 10-15% และมีแนวโน้มว่า เขาอาจสามารถกวาดคะแนนเสียงเกินครึ่ง ซึ่งจะทำให้ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด โดยไม่ต้องมีการเลือกตั้งรอบสอง

ลูลา วัย 76 ปีเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 2 สมัยระหว่างปี 2546-2554 และพ้นจากตำแหน่งในปี 2554 ด้วยคะแนนนิยมสูงถึง 90%  และได้รับยกย่องจากการทำให้ชาวบราซิลหลายล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน แต่เคยต้องรับโทษจำคุกในคดีทุจริตในปี 2561 ซึ่งต่อมาได้รับการตัดสินให้พ้นผิด

ขณะที่ประธานาธิบดีโบลโซนารูถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวางจากความล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 686,000 ราย

โบลโซนารู ขู่ว่า จะโต้แย้งผลคะแนนเลือกตั้ง หากเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ หลังจากกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่า มีการโกงเลือกตั้ง และคณะกรรมการการเลือกตั้งวางแผนเพื่อโค่นล้มเขา รวมทั้งแนะนำให้กองทัพนับคะแนนเลือกตั้งควบคู่ไปกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่กองทัพปฏิเสธที่จะทำตาม  

อย่างไรก็ตาม  เขาบอกว่า จะยอมรับผลเลือกตั้ง หากการลงคะแนนใสสะอาดและโปร่งใส ซึ่งเขาไม่ได้ระบุถึงเกณฑ์ในการชี้วัด

ขณะนี้นักวิจารณ์แสดงความกังวลว่า หากมีการเลือกตั้งรอบสอง จะทำให้ประธานาธิบดีโบลโซนารูมีเวลาอีกหนึ่งเดือนในการหาเสียงโจมตีกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางสังคมเหมือนในสหรัฐฯ ที่ผู้สนับสนุนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 เพื่อขัดขวางการรับรองผลคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

แม้ลูลาอาจมีคะแนนนิยมแซงหน้าโบลโซนารูในการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่รัฐบาลผสมฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่สนับสนุนโบลโซนารู คาดว่า จะยังสามารถครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา  และอาจเป็นความท้าทายอย่างมากต่อนายลูลา ที่จะบริหารประเทศภายใต้สถานการณ์ที่อัตราความยากจนและการว่างงานพุ่งสูงขึ้น และการฟื้นตัวอย่างไม่เท่าเทียมหลังการระบาดของโควิด -19